อาจารย์กล่าว

 

 

 

 

 

 

พลังของความคิดและคำพูด

ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่ ศูนย์ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
30 ธันวาคม 2544(ต้นฉบับเป็นภาษาจีน) วีดิทัศน์ #732


คำพูดที่เป็นบวก


พวกเราพูดจาต้องเป็นบวก! เมื่อพูดคำพูดที่เป็นลบก็เสียเวลาเสียกำลังเหมือนกัน มันไม่ต่างกันเลย แล้วทำไมจึงไม่พูดเป็นบวกเล่า? พวกเราอย่าไปพูดเรื่องไม่จริง มารยาทปลอม มันทำให้คนฟังแล้ววุ่นวาย เพราะมันเป็นของปลอม พวกเราบำเพ็ญสัจธรรม ได้ยินคำพูดที่แสแสร้งจะไม่ชอบใช่หรือไม่? (ทุกคนตอบ:ใช่) เป็นต้นว่า “ท่านอาจารย์เหนื่อย” “ท่านอาจารย์ทานข้าว” “ท่านอาจารย์อะไร ๆ.…”(ทุกคนหัวเราะ) ฟังแล้วงง ไม่มีความจริงใจ พวกเธออย่าไปพูดเรื่องไม่จริง เพื่อไม่ให้เสียเวลา เสียกำลัง และทำให้คนหงุดหงิด และสร้างบรรยากาศที่เป็นลบอยู่รอบ ๆ ตัวเรา

เมื่อเธอได้ยินคนอื่นพูดว่า “โอ วันนี้ฉันมีความสุขมาก!” แล้วไปได้ยินอีกคนหนึ่งพูดว่า “วันนี้ฉันกลุ้มใจจัง!” อย่างไหนที่ฟังแล้วเป็นสุข? (ทุกคนตอบว่า:อันที่มีความสุข) ใช่! บางครั้งเธอไม่วุ่นวายใจ แต่คนอื่นพูดกับเธอเท่านั้น เธอก็จะรู้สึกวุ่นวายใจ เป็นต้นว่า เธอเพิ่งนั่งลงมาดื่มน้ำชา มีคนมาพูดกับเธอว่า “อา ลูกของฉันเพิ่งจะแต่งงาน!” ลูกสะใภ้ฉันเพิ่งจะคลอด หลานที่อ้วนจ้ำม่ำ น่ารักมาก!” “ฉันค้าขายดี!” “ร่างกายฉันแข็งแรงดี!” “โอ! ฉันเห็นอนาคตเต็มไปด้วยความหวัง แม้เหตุการณ์เวลานี้จะไม่ดี อีกสักระยะก็จะดีขึ้น” เธอชอบฟังคำพูดที่เป็นสุขหรือเป็นคำพูดที่กลุ้มใจ “หลานของฉันทำไมถึงอ้วนอย่างนั้น?” “อุ๊ย! แต่งงานทำไม?” “โอ๊ย ลูกเขยของฉันน่าเบื่อจริง ๆ! ฉันบอกลูกสาวอย่าไปแต่งงานกับเขา แต่เธอก็ยังจะแต่ง ลูกเขยคนนั้นต้องไม่ใช่คนดีแน่ ต่อไป 2 คนคงต้องอย่ากันแน่!” (ทุกคนหัวเราะ)เป็นต้นว่าพูดเช่นนี้ เธอชอบไหม? (ทุกคนตอบ:ไม่ชอบ) แม้จะพูดความจริงก็ตาม เธอก็ไม่ชอบฟังใช่หรือไม่? (ทุกคนตอบ:ใช่) พวกเราต่างชอบฟังคำพูดที่มีความสุข เป็นบวก

โลกนี้มีสิ่งดี ๆ เพื่อให้พวกเราชื่นชม เป็นต้นว่า ดอกไม้ที่สวยงาม ท้องฟ้าก็สวยงาม ดวงจันทร์ที่สวยงาม อื่น ๆ เป็นต้น พวกเราไปมองมุมที่ไร้สาระทำไม? และคนที่ว่าอาจารย์ลำบากก็ไม่ใช่ฉัน เธอทราบได้อย่างไรว่าอาจารย์ลำบาก? อาจารย์ออกไปเยี่ยมเพื่อนบำเพ็ญอย่างมีความสุข จับ ๆ พวกเธอ ทุกคนก็มีความสุข ผลที่สุดก็ได้ยินคำว่า “อาจารย์เหนื่อย! อาจารย์เหนื่อย!” โอ! พระเจ้า! อาจารย์เลยรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อย เลยคิดไม่อยากทำต่อไป! (ทุกคนหัวเราะ)

ปากกับความคิดของพวกเราช่วยคนได้ สาปแช่งคนก็ได้ สามารถยกยอคนขึ้นมาทำให้คนอื่นดีใจมีความสุข และสามารถกดคนลงไป ทำให้พวกเขาไม่สบายใจ นอกจากเธอเป็นครูหรืออาจารย์ ต้องสอนคน ต้องแก้ไขส่วนที่ไม่ดีของนักเรียน มิฉะนั้นแล้ว ทางที่ดีอย่าพูดคำพูดที่เป็นลบ แน่นอน เวลาต้องการก็พูดได้ เป็นต้นว่า เด็กของเธอแย่มาก เธอก็พูดได้ว่า “วันนี้เธอไม่น่ารัก!” พูดเช่นนี้อย่างน้อยก็เพิ่มคำว่า “น่ารัก” เข้าไป หรือพูดว่า “วันนี้เธอไม่ดี!” แม้จะมีคำว่า “ไม่” แต่ก็มีคำว่า “ดี” (ทุกคนหัวเราะ) อย่าพูดว่า “วันนี้เธอเลวมาก!” เมื่อเด็กได้ยินคำบวก “น่ารัก” “ดี” ต่อไปเขาจะพยายามทำดี พวกเธอจะสอนคน ต้องพยายามใช้วิธีนี้ หรือเป็นต้นว่า มีคนอ้วนมาก พวกเราจะไปว่าเขาอ้วน แต่พูดว่า “เขามีรูปร่างไม่ค่อยสันทัด!” (อาจารย์กับทุกคนหัวเราะ) ระหว่างเพื่อนฝูงพูดจาควรใช้คำพูดที่น่าฟัง ความรักของเพื่อนก็จะยั่งยืน

สำหรับอาจารย์ พวกเธอไม่ต้องไปสนใจท่าน ท่านเกิดมาเพื่อมาแก้ไขส่วนที่ไม่ดีของคน เมื่อต้องการใช้ความแข็งก็จะแข็งมาก เมื่อต้องการความอ่อนโยนก็จะอ่อนโยนมาก สมควรทำอย่างนี้ ไม่มีวิธีอื่น! พลังของผู้สร้างก็เป็นเช่นนี้ เป็นต้นว่า ฝนต้องตกหนักจึงจะนำน้ำฝนมามาก ถ้าหากทุกวันฝนตกโปรย ๆ น้ำจะไม่พอใช้ แต่ว่า ฝนตกหนักก็จะทำให้เกิดความไม่สะดวก เช่น ถนนจะเสีย แล้วขับรถไม่สะดวก พวกเราออกจากบ้านก็จะเปียก หรือมีผลิตภัณฑ์เกษตรบางอย่างถูกน้ำพาไปต่าง ๆ เป็นต้น มันเป็นเรื่องที่จนปัญญาจริง ๆ โลกมันเป็นเช่นนี้ อยู่ที่สวรรค์ก็จะไม่มีปัญหาเหล่านี้

พวกเราพูดจามีพลังมาก แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่ได้บำเพ็ญ คำพูดก็มีพลัง จึงมักพูดกันว่า มีคนสาปแช่งคนอื่น แล้วกลายเป็นความจริง หรือมีใครที่อวยพรให้เธออย่างจริงใจ แม้เขาจะไม่ได้บำเพ็ญ เธอก็ได้รับประโยชน์ เป็นเพราะความจริงใจนั่นเอง “ทุกอย่างเกิดจากจิต!” คนเราเวลามีความจริงใจ ก็จะบริสุทธิ์มาก แม้ปกติเขาจะประพฤติไม่ดี ก็ไม่เป็นไร ช่วงเวลาที่เขามีความจริงใจ ใจของเขาจะบริสุทธิ์มาก เวลานั้นเขาอวยพรให้เธอ จะได้ผลดีมาก ถ้าหากเวลานั้นเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สาปแช่งเธออย่างตั้งใจ จะเกิดการกระทบอย่างรุนแรง คำสาปแช่งของผู้บำเพ็ญร้ายกาจมาก พูดอะไรต้องเป็นจริงขึ้นมา ดังนั้น พวกเธอพูดจาต้องระวังมาก


วิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์คำพูดมีพลังมาก

ที่ญี่ปุ่นนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้น้ำมาทดลอง พวกเขานำน้ำสะอาดแก้วหนึ่งไปแช่แข็ง แล้วสังเกตดู ถ่ายภาพไว้ ปรากฏว่าน้ำแข็งตัวเหมือนกับหิมะ แต่ว่า ถ้าหากน้ำไม่สะอาด ภาพที่ถ่ายออกมา ก็จะไม่เหมือนหิมะ จะเป็นขุ่นมัวไม่มีรูปร่างอะไรเลย น้ำสกปรกแก้วหนึ่งจากการอธิษฐานแล้วนำไปแช่แข็ง แล้วคอยสังเกตถ่ายภาพก็ปรากฏเป็นหิมะชัดเจน สวยมาก

พวกเขาได้ทดลองในทำนองนี้หลายอย่างเป็นต้นว่า พูดคำว่า “ขอบคุณท่าน” ที่ข้าง ๆ แก้ว หรือนำเอาแผ่นกระดาษที่เขียนคำว่า “ขอบคุณ” ไปแปะไว้ที่ข้างแก้ว น้ำที่แข็งตัวจะมีลักษณะต่างกัน กลายเป็นสวยงามมาก ถ้าหากเขียนชื่อ ฮิตเลอร์ คนเลวแล้วไปแปะไว้ เวลาถ่ายภาพออกมา จะแข็งตัวเหมือนผี หน้าเป็นผีเลย! น่ากลัวมาก น่าเกลียดมาก ถ้าหากเขียนชื่อนักบุญ เวลาน้ำแข็งตัว รูปร่างจะต่างกัน ต้องดูว่านักบุญคนนั้นมีความประเสริฐเพียงใด เวลาถ่ายภาพออกมาก็ไม่เหมือนกัน อาจเกี่ยวข้องกับความจริงใจของผู้ทดลองด้วย ดังนั้น แม้จะไม่ได้พูดเพียงเขียนตัวหนังสือเอาความคิดใส่ไว้ที่นั่นก็จะมีผลเช่นกัน ถ้าเวลาทดลอง เขาพูดว่า “เธอเลวมาก ข้าพเจ้าจะฆ่าเธอ!” โอ ภาพที่แข็งตัวน่ากลัวมาก! ดังนั้น พวกเราไม่ควรพูดว่า คนที่ไม่บำเพ็ญพูดจาไม่มีพลัง อวยพรก็ไม่มีพลัง มันมีจริง ๆ!

ก่อนที่อาจารย์จะมาบำเพ็ญเคยไปแสวงหาอาจารย์จากสถานที่ต่าง ๆ เมื่อกลับไปแบ่งปันกับอดีตสามี เขากล่าวว่า “โธ่เอ๋ย คนเหล่านั้นไม่มีอะไรหรอก เธอก็เป็นอาจารย์ได้!” อาจารย์พูดว่า “เธออย่าล้อเล่น! ข้าพเจ้าเป็นใคร! เธอไม่รู้หรอกว่า คนเหล่านั้นล้วนเป็นอาจารย์ใหญ่!” เขาบอกว่า “เธอจะได้เป็นอาจารย์อย่างแน่นอน!” อาจารย์บอกว่า “เออ ขอบคุณ!” เวลานั้นอาจารย์ไม่ได้คิดอะไร เวลาที่เขาพูดมันจริงใจ เขาพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นว่า เธอก็เป็นอาจารย์ได้ และจะเป็นได้ดีกว่าพวกเขา!” (ทุกคนหัวเราะ) เขาเชื่อใจอาจารย์มาก เพราะเราทั้งสองอยู่ด้วยกันทุกวัน สามารถสังเกตได้ เขาไม่เข้าใจอาจารย์เหล่านั้น แต่เขาเข้าใจอาจารย์ดี เราทั้ง 2 แต่งงานมา 2 ปี เวลาส่วนมากอาจารย์จะนอนอยู่อีกห้องหนึ่ง ทุกวันก๊อง ๆ แก๊ง ๆ (อาจารย์กับทุกคนหัวเราะ) เวลานั้นไม่ทราบธรรมวิถีอื่น รู้แต่เรื่องสวดมนต์ ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็สวดพระสูตร เหลียนหัว ตอนเย็นก็สวดพระสูตรอื่น ทุกวันจะสวดมนต์ที่ต่างกัน บางครั้งร่างกายจะลอย ๆ รู้สึกมีประสบการณ์

ดังนั้น เวลาพวกเราทำงานเรื่องหนึ่ง ถ้าหากมีคนให้การสนับสนุนพวกเรา หรืออวยพรให้กับพวกเราประสบความสำเร็จ พวกเราทำไปจะราบรื่นมาก แต่ว่า ถ้าเป็นองค์กร สามีภรรยาคู่หนึ่ง หรือมีคนมาร่วมกัน3-4 คน ในจำนวนคนดังกล่าวมีใครคนหนึ่งต่อต้าน เวลาทำก็จะรู้สึกไม่เหมือนกัน เหมือนกับลากไป ๆ เรื่อย ๆ ทำตั้งนานก็ยังทำไม่เสร็จ บรรยากาศที่ต่อต้าน มันกระทบต่อการทำงานของพวกเราจริง ๆ เพราะสรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าหากทุกคนต่างมีอุดมการณ์ที่เหมือนกัน ทำอะไรก็จะราบรื่น เพราะทุกคนให้ความร่วมมือ ไม่มีใครต่อต้าน จุดมุ่งหมายเหมือนกัน ทุกคนต่างทำด้วยความสามารถ เดินไปทางเดียวกัน ดังนั้นทำอะไรก็ราบรื่นไปหมด

ความคิดกับคำพูดของพวกเรามีพลังมาก ดังนั้น ทุกคนพูดจาต้องระวัง! อาจารย์เองก็ระมัดระวังมาก พูดจายิ่งระวังยิ่งดีต้องดูแลกาย วาจา ใจ ปัจจุบันมีวิทยาศาสตร์ยืนยัน พวกเราจะรู้สึกน่ากลัวมาก แต่เดิมพวกเธอฟังอาจารย์พูดเท่านั้น ไม่ทราบว่ามันมีความร้ายกาจเช่นนี้ ดังนั้น ไม่ใช่พวกเราพูดไปแล้วก็แล้วกันไป มันถูกบันทึกอยู่ในจักรวาล และจะกระทบบรรยากาศที่อยู่รอบข้างพวกเรา น้ำแก้วหนึ่งเพียงแปะกระดาษที่มีตัวหนังสือเท่านั้น วางค้างคืนไว้แล้วเอาไปแช่แข็ง ถ่ายภาพออกมาก็ไม่เหมือนกัน

ดังนั้นตั้งแต่โบราณกาลมา ผู้คนไปเชิญคนบำเพ็ญมาไล่ผี อวยพร ฉลอง โดยเฉพาะการฉลองย้ายบ้าน พวกเราชาวเอาหลาก เวลาขึ้นปีใหม่ ต้องไปเลือกคนที่ดีที่สุดมาเข้าบ้าน หมายความว่า คนที่เข้าบ้านคนแรก ต้องเป็นคนที่ดีที่สุด ไม่ให้คนทั่วไปเข้าบ้าน พวกเขานำไม้กวาดมาวางที่หน้าประตู แสดงว่า คนเลวเข้าบ้านไม่ได้

เพื่อนบำเพ็ญแบ่งปันประสบการณ์

ถ: ท่านอาจารย์เมื่อสักครู่พูดว่า พวกเราไม่ว่าจะพูดอะไร จะเป็นความจริงขึ้นมา ข้าพเจ้ามีประสบการณ์เช่นนี้หลายครั้ง ข้าพเจ้ากลัวว่า ถ้าหากพูดคำไม่ดี ก็จะกลายเป็นจริงขึ้นมา ดังนั้น ข้าพเจ้าพูดจาระมัดระวังตั้งแต่เด็ก แม้ข้าพเจ้าจะโกรธมาก ก็ไม่กล้าไปด่าคนอื่น เป็นต้นว่า ที่ศูนย์ซีหูปลูกต้นมะม่วง ขณะนั้น ออกลูกมะม่วงมากมาย ข้าพเจ้าอยากจะทาน คิดจะปีนขึ้นไปเอา แต่กลัวถูกนักบวชว่า ขณะนั้นข้าพเจ้านั่งอยู่ที่บนเนินที่ลาดลงมา ข้าพเจ้าก็พูดกับมะม่วงว่า “เจ้าจงหล่นมะม่วงลงมาให้ลูกหนึ่ง แล้วกลิ้งมาที่ข้างมือข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะเอามารับประทานได้ เป็นเช่นนี้นักบวชก็จะไม่มาว่า” (ทุกคนหัวเราะ) ในที่สุดมะม่วงได้หล่นลงมาให้ลูกหนึ่ง แล้วกลิ้งมาที่ข้างมือข้าพเจ้า

อ:ความคิดเช่นนี้มันเป็นบวกมาก!(อาจารย์กับลูกศิษย์หัวเราะ)

ถ: มีอยู่ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าพาลูกสาวไปเดินเล่นบนภูเขา เห็นลูกพับสีแดงมากมาย ขณะนั้นข้าพเจ้ากับลูกสาวอยากจะรับประทาน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงพูดกับต้นลูกพับว่า “เหล่านี้เป็นของพระเจ้า!” (ทุกคนหัวเราะ) จากนั้น มันก็หล่นลงมาให้ลูกหนึ่ง! บางครั้งผลไม้ที่หล่นลงมามีหนอน แต่ว่าลูกพับที่หล่นลงมาครั้งนั้น ไม่มีหนอน สดมาก ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เวลาอยู่ด้วยกันเหมือนกับได้อยู่กับพระเจ้าด้วยกัน จากนั้น ข้าพเจ้าเก็บลูกพับขึ้นมาทานทั้งหอมทั้งหวาน ตั้งแต่เป็นเด็กข้าพเจ้าก็ไม่กล้าพูดทุกอย่าง แม้ข้าพเจ้าจะโกรธมาก ก็ไม่กล้าพูดคำไม่ดี เพราะกลัวมันกลายเป็นความจริง ก็จะยุ่งยากมาก

อ: ถ้าหากเวลาพูดจากใจ มันจะเป็นความจริงขึ้นมา! ถ้าหากเวลาพูดไม่ได้คิดอะไร มันจะดีหน่อย ถ้าพูดอย่างตั้งใจ แน่นอนมันจะมีพลังกว่า ดังนั้น พวกเรามาพูดแต่คำพูดที่เป็นบวก มันจะดีกว่า อาจารย์ทราบว่า พวกเธอเป็นคนดี ไม่มีเหตุผลที่จะไปสาปแช่งใคร พวกเธอสามารถอวยพรให้ผู้อื่น จะดีที่สุด ถ้าทำไม่ได้ ก็ปิดปากเสีย ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะกลัวตาย กลัวภัยพิบัติ พวกเราไปทำให้บรรยากาศรอบข้างมันสกปรกทำไม? พวกเราทุกคนก็อยู่ในนั้นเหมือนกัน! บรรยากาศก็เหมือนกับอากาศ จับไม่ได้ มองไม่เห็น ถ้าเธอใส่ยาพิษลงไปในอากาศ ก็จะเป็นพิษกับตัวเอง ถ้าอากาศมันสะอาด ตัวเองก็มีความสบาย

พวกเราชาวเอาหลากกล่าวว่า “ถ้าบ้านของเธอสะอาด เธอจะรู้สึกเย็นสบาย ถ้าตะเกียบและชามล้างสะอาด เวลาทานข้าวจะรู้สึกมันอร่อยกว่า” เพราะอะไรหรือ? เพราะใจมันสบาย เป็นสุข บางครั้งเธอไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร เห็นชามจานของพวกเขาไม่สะอาด มัน ๆ เธอจะรู้สึกไม่อยากทาน ไม่ว่าเวลานั้นจะหิวแค่ไหน สักครู่ความอยากก็จะหายไปหมดใช่หรือไม่? (ทุกคนตอบ:ใช่) หรือพวกเราไปที่ใดที่หนึ่ง ไม่ว่าบ้านจะดีแค่ไหน ถ้าข้างในทั้งมืดทั้งสกปรก พวกเราจะไม่อยากไปแตะต้องหรือไปสัมผัส ในใจรู้สึกไม่ปกติ รู้สึกถูกขัดขวาง เมื่อเธอใจไม่สบาย สิ่งกีดขวางจะมา พลังลบจะมารวมตัวกันที่นั่น