จงเป็นนักบุญ มีคุณลักษณะดั่งนักบุญ
ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ฌานยุโรปในฮังการี 24 กุมภาพันธ์ 2548 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)
บางทีพวกเธอใจดี เพราะเธอเรียนมาจากฉัน พวกเธอคิดว่า “ฉันฆ่าใครไม่ได้” หรือ “ฉันไม่รับประทานเนื้อสัตว์” แต่เธอเรียนมันมา มิฉะนั้น เธออาจจะไม่ได้ดีอย่างนั้น เธอพยายามยิ่งที่จะดี ซึ่งก็ดี! แต่การดีนั้น แค่นั้นไม่พอ การเป็นดั่งนักบุญนั้นไม่พอ เธอจะต้องเป็นมากกว่านั้น เธอจะต้องยิ่งเมตตากรุณา ยิ่งพยายามนึกถึงผู้อื่น ยิ่งมีความเฉลียวฉลาด ยิ่งช่วยเหลือ ยิ่งเต็มใจ และยิ่งใจดีอยู่ตลอดเวลา ให้ความรักโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน โดยเฉพาะความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว เธอจะต้องนึกอยู่เสมอว่า จะรับใช้มนุษยชาติในหมู่มากได้อย่างไร และจะช่วยคนที่ยากลำบากได้อย่างไร นั่นจึงจะเป็นนักบุญแท้
เธอจะต้องคิดว่า เธอจะทำให้ชีวิตของผู้อื่นดีขึ้นได้อย่างไร นั่นก็เป็นเหมือนการทำสมาธิอย่างหนึ่ง แม้แต่ทุกวันนี้ในชีวิตฉัน กลางวันเวลายุ่ง เมื่อไรที่ฉันเห็น ฉันก็จะแก้ไข แต่เวลากลางคืน บางทีฉันจะคิดว่า โอ ฉันจะคิดถึงนกข้างนอกว่า อากาศหนาวเกินไปหรือเปล่า เพราะเวลากลางคืน อากาศจะหนาว ฉันจะนึกถึงสุนัขจิ้งจอก และสุนัขหรือแกะ หรือแพะในภูเขา ที่ไหนก็ตามที่ฉันอยู่ ฉันจะนึกถึงตัวตนที่อยู่ที่นั่น ว่าพวกมันอุ่นพอไหม ว่าพวกมันสบายพอหรือเปล่า มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ
การใจดีนั้นไม่เพียงพอ เธอจะต้องเป็นความใจดี เธอจะต้องเป็นความเมตตากรุณา เธอจะต้องเป็นความรัก แล้วมันก็จะกลายเป็นเธอ เธอมิอาจเป็นสิ่งอื่นใดได้ นอกจากความรัก เมื่อนั้น เธอก็จะเป็นนักบุญแท้ มิฉะนั้นแล้ว เธอก็เป็นแค่ เหมือนความเป็นนักบุญที่หยิบยืมมา ได้รับมอบให้เป็นนักบุญ ยกตัวอย่าง คนบางคน พวกเขาศึกษาหนักมากเป็นเวลาหลายปี เพื่อจะเป็นปริญญาเอกหรืออะไรบางอย่าง คนบางคนแค่ได้มัน อย่างปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ บางทีเธอเป็นอย่างนั้น มันดี เธอได้ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ หรืออุปโลกน์มัน หรือจ่ายให้เพื่อปริญญาเอก แต่แล้วก็ได้เป็น! ในเมื่อเธอได้ตำแหน่งปริญญาเอก
ทำไมไม่เป็นดุษฎีบัณฑิตล่ะ? คือว่า แล้วเธอก็จะกลายเป็นดุษฎีบัณฑิตแท้ ๆ คนหนึ่ง
|