อาจารย์เล่านิทาน

วันนั้นอาดัมเริ่มไปทำงาน
ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่
ฌาน 3 วัน ซีหู ฟอร์โมซา วันที่ 22 กันยายน 2533
(ต้นฉบับเป็นภาษาจีน) MP3-CR12

ฉันอ่านนิทานที่สนุกเรื่องหนึ่งจากหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นนิทานระหว่าง "อาดัม" กับ "อีฟ" พวกเรารู้ไหม? (ทุกคนหัวเราะ ตอบว่า อาดัมและอีฟ) เขาทั้งสองอาศัยอยู่ที่สวนอีเดน มันก็สุขสบายดี เหมือนกับอยู่สวรรค์ ทานอาหาร อาบแดด จับมือจับขา คุยเรื่องความรัก แล้วก็เข้านอน เป็นเช่นนี้ทุกวัน มีความสุขมาก

วันหนึ่ง อาดัมนอนอยู่ในแปลแขวน (ทุกคนหัวเราะ) มีงูตัวหนึ่งเลื้อยมาที่แปล พูดที่ข้างหูเขาว่า "นี่! อาดัม คุณรู้ไหมว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเรานิยมเสื้อผ้าแบบไหนบ้าง?" แน่นอนอาดัมไม่รู้เรื่อง เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเสื้อผ้าคืออะไร เขากล่าวว่า "เสื้อผ้า? เสื้อผ้าหมายความว่าอย่างไร?" งูจึงบอกว่า "อ้าว! เป็นสิ่งที่ปกปิดร่างกายไง! เช่น ผิวของข้าพเจ้าก็คือเสื้อผ้า "เสื้อผ้า" ที่คุณใส่อยู่ มันไม่ได้เปลี่ยนเลยตั้งแต่คุณเกิดมา "เสื้อผ้า" ที่เป็นสีผิว ปัจจุบันมันไม่นิยมแล้ว! เวลานี้นิยมสีส้ม"

อาดัมบอกว่าเขาไม่รู้จักสิ่งของเหล่านี้ งูจึงบอกว่า "อ้าว! คุณไม่รู้อะไรเลย! วัน ๆหนึ่งคุณทำอะไรอยู่?" อาดัมบอกว่า ทุกวันเขาไม่ต้องทำอะไร หิวก็ไปหาอาหารกิน เหนื่อยก็ไปนอน รู้สึกเหงาก็ไปคุยกับอีฟ ก็มีความสุขดี

งูบอกว่า "อ้าว! คุณไม่รู้เรื่องเยอะ แต่ข้าพเจ้ายินดีจะสอนให้ เพราะถ้าคุณเป็นอย่างนี้ก็ไม่ทันสมัยกับเขา ไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนอย่างไร" อาดัมถามว่า ทำไมต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย? ภรรยาเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าสักวัน มันประหยัดเงินดี ทั้งสองก็มีความสุข ทำไมต้องไปเปลี่ยน? งูบอกว่า “ไม่ได้ พวกเราต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น คนอื่นใส่อะไร พวกเราก็ต้องใส่อย่างนั้น มีการแข่งขันกันมันถึงจะสนุก และพวกเราก็นั่งสมาธิได้ เพราะการนั่งสมาธิจะติดต่อกับพระเจ้าได้”

อาดัมกล่าวว่า “แต่ข้าพเจ้าติดต่อกับพระเจ้าทุกวัน ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในสวนของพระองค์ จึงติดต่อกับพระองค์ทุกวัน แล้วจะให้ข้าพเจ้าไปนั่งสมาธิทำไม?” งูบอกว่า “ถ้าคุณได้ติดต่อกับพระองค์แล้ว คุณก็ต้องเรียนรู้เป็นตัวของตัวเอง อย่าไปติดต่อกับพระองค์อีก ข้าพเจ้าจะสอนให้คุณนั่งสมาธิ ก็จะแยกจากพระองค์ได้” (อาจารย์หัวเราะ) จริง ๆ แล้วต้องมีการติดต่อ แต่กลับจะให้แยกจากกัน อาดัมก็โง่ ไม่เข้าใจ ฟังแล้วก็งงอยู่ที่นั่น

งูบอกอีกว่า “ถ้าคุณไม่อยากให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้สาระ คุณต้องไปหางานทำ เช่น ไปทำงาน” อาดัมกล่าวว่า “เอ๊ะ! ไปทำงาน? ทำงานคืออะไร? ทำอย่างไรจึงเรียกว่าไปทำงาน? และต้องทำงานอะไรบ้าง?”

งูบอกว่า “เป็นต้นว่า คุณไปเก็บผลไม้ วันหนึ่งสามารถเก็บผลไม้ได้มากมาย” อาดัมกล่วว่า “ทำไมข้าพเจ้าต้องไปเก็บผลไม้? ทุกวันข้าพเจ้าจะกินเท่าไรก็ไปเก็บเท่านั้น ไปเก็บผลไม้มามาก ๆ ทำไม?”

งูบอกว่า “ถ้าคุณเก็บลูกแอปเปิ้ลได้ 450 ลูก ข้าพเจ้าจะสอนให้คุณกลายเป็นคนทันสมัย” อาดัมกล่าวว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยเก็บมากเช่นนี้มาก่อน ทำไมต้องเก็บมามากมายเช่นนี้?” งูบอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายของโรงเรียน มิฉะนั้นแล้ว งูจะไม่สอนเขา

อาดัมไม่คิดจะไปทำสิ่งเหล่านั้น แต่งูก็บอกว่า “คุณต้องไปเก็บ เพราะคุณต้องเก็บให้กับภรรยา” อาดัมกล่าวว่า “ภรรยาข้าพเจ้าทำไมต้องการแอปเปิ้ลมากมายเช่นนั้นหรือ?” งูบอกว่า “เพราะเธอเพิ่งมาเรียนกับข้าพเจ้าเมื่อสักครู่ เธอเรียนจบแล้ว เวลานี้เธอเป็นหนี้แอปเปิ้ลข้าพเจ้า 450 ลูก”

อ้าว! เพื่อภรรยา อาดัมต้องเหนื่อยมาก จริง ๆ แล้วเขาไม่ต้องไปเก็บมามากมาย แต่เวลานี้ภรรยาเขากลายเป็นคนทันสมัย เขาจึงต้องไปเก็บผลไม้ทุกวัน ต้องเก็บครบ 450 ลูกด้วย แล้วเขาหันไปมองอีฟ กลับมาแล้วกลายเป็นคนทันสมัย แต่งตัวทันสมัยที่สุด ทำทรงผมที่เขานิยมกัน เดิมทีเธอไว้ผมยาว แต่เวลานี้กลายเป็นทรงผมแบบคนแอฟริกา (อาจารย์กับทุกคนหัวเราะ) เสื้อผ้าก็สวยงามมาก เป็นชุดที่นิยมกัน เธอยิ่งต้องการเสื้อผ้ามากเท่าไร อาดัมยิ่งต้องไปเก็บแอปเปิ้ลมากขึ้น

ต่อมาเขามองภรรยาที่ทันสมัย ใส่เสื้อผ้าไม่เหมือนกันทุกวัน แต่เขากลับไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย ดังนั้น จึงรู้สึกอาย และขณะนั้น เขาเริ่มรู้สึกเป็นบาป พวกเธอทราบดีว่า รู้สึกเป็นบาปมันมาจากที่ไหน? มันเริ่มมาจากเวลานั้น ต่อมาเขาก็ไปเรียนการนั่งสมาธิ เรียนรู้การแยกจากพระเจ้า (อาจารย์หัวเราะ) ทุกวันต้องไปเก็บผลไม้ แล้วต้องรีบไปซื้อเสื้อผ้า ถ้าจะซื้อเสื้อผ้า ก็ต้องทำงานมากขึ้น ดังนั้น ทุกวันจึงมีงานมากมาย ไม่มีเวลามานั่งแปลแขวน อาบแดด ไม่มีเวลามีความสุขกับชีวิตที่สบาย ๆ เหมือนแต่ก่อน จากนั้น เขายิ่งแยกจากพระเจ้ามากขึ้น ยิ่งนั่งสมาธิยิ่งแยกจากกัน ดังนั้น เวลานั้นก็เริ่มมีมนุษย์มาเกิด แต่ก่อนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าก็ไม่ต้องคลอดลูก เวลานี้พอใส่เสื้อผ้าก็รู้สึกแปลก นิทานก็จบลงพอดี! (อาจารย์กับทุกคนหัวเราะ ทุกคนปรบมือ)