การสนทนาระหว่าง
ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่ ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
วันที่ 25 ธันวาคม 2544 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) วีดีโอเทป #730 หลังจากที่เราได้ตั้งแคมป์ที่แม่น้ำเป็นเวลานานมาก เราก็ได้ห้องเช่ามาห้องหนึ่ง แต่มันก็เต็มไปด้วยงูขาวและงูดำ มันอยู่ทั่วห้องฉัน และมันจะมาร้องเพลงให้ฉันฟัง ฯลฯ บางครั้งเจ้าหน้าที่ของฉันก็ไม่ระวังและทำร้ายพวกมัน งูก็เลยมาบ่นให้ฉันฟัง ฉันเลยบอกพวกเขาไม่ให้ใช้แปรงเขี่ยพวกมันออกไป เพราะอาจทำให้ตาของพวกมันเจ็บหรืออะไรบางอย่าง พวกเขาคิดว่า ฉันมีเมตตาที่คิดห่วงใยสัตว์เหล่านี้ แต่ฉันเพิ่งรู้ เจ้าหน้าที่คิดว่า ถ้าพวกเขาไม่ได้ฆ่าพวกมันก็นับว่าเพียงพอแล้ว ก็นับว่าเมตตาแล้ว แต่เธอควรใช้ถุงและวางมันไว้ใกล้ ๆ เพื่อพวกมันจะได้คลานเข้าไปในถุง แล้วก็เอาพวกมันออกไปไว้ในพุ่มไม้ด้วยกัน งูก็เข้ามาเรื่อย ๆ แต่พวกมันก็ไม่เคยกัดพวกเราเลย พวกมันเป็นงูเห่าที่มีพิษ มีลายดำและขาว พวกมันมีครอบครัวอยู่ที่นั่นทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ พวกมันทั้งหมดร้องเพลงกันด้วยปากที่เปิด พวกมันไม่สามารถร้องเสียงดังได้ แต่พวกมันร้องเสียงดังอยู่ข้างใน ฉันได้ยิน (ท่านอาจารย์ชี้ไปที่ตาปัญญา) พวกมันเปิดปากอยู่ใกล้ ๆ เบาะนั่งของฉัน และพูด และร้องเพลง และเต้นรำ โดยเฉพาะลูกงู พวกมันชอบมาอยู่ห้อมล้อมฉัน ฉันจึงต้องบอกพวกเจ้าหน้าที่ให้ระวังเป็นพิเศษเมื่อพวกเขาเดิน เพราะอาจไปเหยียบพวกมันได้ สถานที่ที่พวกเราเช่าในเวลานั้น พื้นเป็นหินอ่อนที่มีลายขาวและดำซึ่งดูเหมือนงูมาก มันก็เลยกลมกลืนกันมาก ฉันเดาว่านี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกมันจึงชอบที่จะไปที่นั่น พวกมันรู้สึกปลอดภัย มีงูเห่าใหญ่ตัวหนึ่งใหญ่เท่าบ้านทั้งหลัง พวกงูก็เลื้อยไปทั่ว ร้องเพลงและหัวเราะกัน พวกมันตลกดี และเมื่อผู้พำนักคนหนึ่งไม่ระวัง เธอก็นอนทับมัน แต่พวกมันก็ไม่กัดเธอ งูที่น่าสงสาร พวกมันไม่กล้า เพราะฉะนั้นต่อมาฉันจึงพูดว่า “ถ้าเธอไม่ระวัง ฉันจะให้เธอยืนตลอดไปไม่ให้นอนลงและไม่ให้นั่ง!” หล่อนตัวอ้วนนิดหน่อยและเพิ่งเข้ามาเป็นผู้พำนัก เธอเอาแต่นอนและนอนบนตัวงู งูที่น่าสงสาร พวกมันไม่กล้าทำผิดศีล แต่ผู้พำนักทำผิดเสียเอง เธอไม่ได้จงใจทำ แต่ก็ยังทำ งูก็ได้ตายโดยไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน ช่างน่าสงสาร! เราก็เลยต้องขอโทษและเดินอย่างระวัง ผู้บำเพ็ญ 1 : ในคอนแวนต์ที่ฉันอาศัยอยู่ เรามีที่ดิน 5 เอเคอร์ที่มีรั้วรอบ และวัวก็จะช่วยกินหญ้า ฯลฯ เมื่อใดก็ตามที่ฉันปีนรั้ว พวกมันจะไล่ฉันและฉันก็ตกใจกลัวมาก แต่แล้ววันหนึ่งฉันตัดสินใจที่จะไม่กลัวอีกต่อไป แต่วัวตัวหนึ่งที่ได้กลายเป็นเพื่อน มันได้มาหาฉันในเช้าวันหนึ่ง และบอกฉันว่าครอบครัวที่เลี้ยงมันกำลังจะฆ่ามันเพื่อเอาเนื้อเป็นอาหาร อ: เธอเชื่อเรื่องนั้นไหม? พวกมันรู้ล่วงหน้าเสียด้วย และคนก็คิดว่าพวกมันไม่รู้อะไรและกินเนื้อมัน ช่างน่าสงสาร ผู้บำเพ็ญ 1 : เมื่อพวกเขาฆ่ามัน ทั้งตัวของมันก็แปดเปื้อนไปด้วยอะไรบางอย่าง ทำให้ครอบครัวกินมันไม่ได้ มันไม่ต้องการถูกกิน พวกเขาก็เลยต้องนำทุกอย่างกลับมาและฝังซากลงดิน ไม่มีแม้แต่ส่วนเดียวของมันถูกกิน อ: ทำไมมันจึงไม่อยากถูกกิน? ผู้บำเพ็ญ 1 : มันไม่ต้องการถูกมนุษย์กิน ก็เท่านั้นแหละ ฉันไม่สามารถอธิบายได้ อ: ไม่มีตัวไหนเต็มใจจริง ๆ ที่จะถูกกินในลักษณะนั้น มันไม่ว่าอะไรที่จะให้นมแก่เธอ และเมื่อพวกมันตายไป เธอก็สามารถใช้ศพของมันยังไงก็ได้ แต่พวกมันไม่ชอบถูกบังคับ ถูกฆ่าและถูกกินแบบนั้น เธอถามตัวไหนก็ได้ แล้วมันก็จะพูดว่า “ไม่” มันไม่ใช่วิธีที่เป็นธรรมชาติที่มันจะเกิดมาและถูกกระทำเช่นนั้น แน่นอน ถ้าเธอหิวและเธอไม่มีอะไรจะกิน และเธอขออนุญาตมัน มันก็จะยอมให้ชีวิตแก่เธอ พวกมันทุกตัวจะทำเช่นนั้น แต่ถ้าเธอกินเพียงเพื่อความตะกละ นั่นก็แย่มาก แม้กระทั่งพืชก็บ่นเหมือนกัน ถ้าเธอกินด้วยเหตุผลแบบนั้น เพราะฉะนั้นขอให้เคารพทุกชีวิตเมื่อเธอกิน สวดและถวายให้พระเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ และขอบคุณพวกมัน ขอบคุณพระเจ้าที่สร้างพวกมัน และขอบคุณพวกมันที่เสียสละชีวิตของพวกมันให้เธอ แต่พืชเจ็บปวดน้อยที่สุด เป็นเพราะพวกมันเคลื่อนไหวไม่มากนัก และส่วนใหญ่พวกมันก็ไม่ได้มีจิตสำนึกมากนัก พวกมันยังต้องมีวิวัฒนาการต่อไป แต่ถ้าเธอกินพวกมันด้วยความไม่เคารพ พวกมันก็บ่น ก็นับว่าเป็นความคิดที่ดีที่เธอมาและพูดแบบนี้ ผู้คนจะได้ตระหนักถึงความรู้สึกของสัตว์มากขึ้น พวกมันเป็นสรรพสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ เธอสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากพวกมัน ยกตัวอย่าง ถ้าเธอถามชาวมอลตีส เขาจะบอกเธอว่า ความรักคือสิ่งที่ดีที่สุด ชาวมอลตีสเต็มไปด้วยความรักมาก พวกเขาเรียกว่า “หมา 1,000,000 จูบ” เขารักเธอเสมอและจูบเธอไปทั่วตลอดเวลา พวกเขาเคยเป็นที่รักมากในยุโรป มาจากเกาะมอลตาซึ่งเป็นของสเปน เหตุนี้พวกเขาจึงถูกเรียกว่ามอลตีส พวกเขาจะบอกเธอว่า ความรักคือสิ่งที่ดีที่สุด และความกลัวคือสิ่งที่ดีที่สุดที่รองลงมา เมื่อเธอกลัว เธอก็จะพยายามเรียนสิ่งต่าง ๆ และเธอก็จะมีความรู้มากขึ้น แต่เมื่อเธอมีความรัก เธอเพียงแต่รู้ เธอไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ ถ้าเธอมีความรัก เธอเพียงแต่รู้และทุกอย่างก็ง่าย ดังนั้นชาวมอลตีสจึงพูดว่า ถ้าเธอมีความกลัว เธอก็เรียนรู้ และถ้าเธอมีความรัก เธอก็รู้ มันดีมาก เพราะฉะนั้นฉันก็รู้สึกเสียใจสำหรับคนจำนวนมากที่เพียงแต่เคี้ยว กิน และทำร้ายสรรพสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ ผู้บำเพ็ญ 2 : ครั้งแรกที่ฉันรู้ตัวว่าฉันสามารถพูดคุยกับสัตว์ได้ อย่างน้อยก็พูดกับมด ก็คือตอนที่ฉันเพิ่งประทับจิต ฉันอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ และมีมดมากมายในครัวของฉัน ฉันจึงรายงานให้ผู้จัดการทราบทันที ซึ่งเขาก็พูดว่า “ตกลง ผมจะจัดการให้” แต่ว่าในระหว่างนั้น มีบางอย่างผุดขึ้นในใจฉันและฉันคิดว่า “ฉันว่าฉันควรจะลองดูว่าจะพูดกับมดเหล่านี้ได้ไหม จะได้ไม่จำเป็นต้องกำจัดพวกมันด้วยยาพิษ” ดังนั้น ฉันจึงเริ่มพูดกับพวกมันทางกายภาพโดยพูดว่า “ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะกลับไป ขอบคุณที่มาเยี่ยม แต่เจ้าสามารถกลับไปตามเส้นทางที่เจ้าได้เข้ามา” 2 ชั่วโมงต่อมา ฉันก็มองเข้าไปในครัว มีมดเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น และประมาณ 6 ชั่วโมงต่อมาพวกมันก็หายไปหมด ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น เมื่อผู้จัดการเคาะประตูห้องพร้อมกับปืนสเปรย์ขนาดใหญ่ เขาพูดว่า “ตกลง ผมพร้อมที่จะมากำจัดมดของคุณแล้ว” ฉันก็พูดไปว่า “ไม่เป็นไร ฉันได้จัดการกับพวกมันแล้ว” เขาพูดว่า “คุณได้ทำอะไรหรือ?” ฉันพูดว่า “ฉันพูดกับพวกมัน” เขาพูดว่า “เธอนักมังสวิรัติ!” เขาได้รู้เมื่อ 2-3 วันก่อนว่า ฉันเป็นมังสวิรัติ (ท่านอาจารย์ : ตกลงเขาก็รู้เรื่องนั้น) เรื่องสุดท้ายคือแม่ของฉัน บ่ายวันหนึ่งท่านก็มีมดที่บินได้ในห้องนั่งเล่น ฉันก็เห็นท่านถือไม้ตีแมลงวันขนาดใหญ่และปืนสเปรย์ ฉันก็พูดว่า “รอเดี๋ยว คุณแม่! ปล่อยให้ฉันจัดการพวกมันเถิด” แม่ก็พูดว่า “ลูกจะทำอย่างไรหรือ?” ฉันก็ไม่อยากบอกท่าน อ: ใช่ มันยาก ผู้บำเพ็ญ 2 : ฉันบอกท่านว่า “ฉันจะพูดกับพวกมัน” ท่านมองดูฉันแบบตลก ๆ แล้วท่านก็ขึ้นชั้นบนไป ฉันก็เลยพูดกับมดในแบบเดียวกัน ฉันพูดว่า “โปรดกลับไปบ้านของเจ้า และขอบคุณที่มา เจ้าได้ใช้เวลาอยู่กับเราเพียงพอแล้ว บ๊าย บาย” หลังจากที่ฉันทำแบบนี้แล้ว ฉันก็ไปนอน พอฉันกลับลงมาตอนเที่ยงคืน พวกมันก็หายไปหมด ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน ฉันรู้สึกเป็นห่วง เพราะแม่ฉันอาจกำจัดพวกมันก็ได้ วันรุ่งขึ้นฉันถามท่านว่า “ท่านทำอะไรกับพวกมด?” ท่านก็พูดว่า “ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ทำอะไรกับพวกมัน” ฉันจึงพูดว่า “โอ พระเจ้าช่วย! พวกมันฟังฉันจริง ๆ” อ: ก็ดี ผู้บำเพ็ญ 2 : นับจากนั้นมา ฉันก็รู้ว่าฉันพูดกับพวกมันได้ อ: เธอพูดได้ก็ดี แต่เรื่องของเรื่องคือ พวกมันตอบกลับหรือเปล่า เธอเข้าใจความหมายของฉันไหม? เธอได้ยินพวกมันหรือเปล่า เพราะพวกเราทุกคนก็พูดกับพวกมันได้ แต่เราไม่ได้ยินพวกมัน นั่นเป็นพรสวรรค์พิเศษ ผู้บำเพ็ญ 2 : ฉันสามารถได้ยินนกแก้วที่มาเยือนภัตตาคารมังสวิรัติที่ซานโฮเซ่ (ท่านอาจารย์:งั้นหรือ?) มีนกแก้วอยู่ตัวหนึ่งที่มาที่นั่นทุกวัน และทุกคนก็หยุดดูนกแก้วตัวนี้ เพราะมันสวยและพูดเก่ง มันพูดคำต่าง ๆ มากมาย วันหนึ่งเมื่อไม่มีใครสนใจและทุกคนก็ส่งเสียงดังมาก มันก็เริ่มตะโกนคล้ายกับว่า มันกำลังพูดอยู่กับใครคนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ฉันก็เลยเริ่มต้นพูดกับมันจากระยะไกล เราพูดคุยกันไปมา ฉันไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ฉันเข้าใจในสิ่งที่มันพูด เพราะเสียงของมัน คนอื่นไม่ได้ยิน แต่ฉันได้ยินทุกคำชัดเจน อ: เป็นภาษาอังกฤษหรือ? (ผู้บำเพ็ญ 2 : เป็นภาษาอังกฤษ) อ: ไม่ใช่ภายใน แต่เป็นภายนอก ผู้บำเพ็ญ 2 : ภายนอกด้วย ในเวลาเดียวกัน อ: (พูดกับผู้ประทับจิตอีกคนหนึ่ง) เธอพูดกับสุนัขของเธอหรือ? มันพูดอะไรกับเธอ? ผู้บำเพ็ญ 3 : ส่วนใหญ่มันสามารถอ่านใจฉันออกได้ตรงเผง ฉันก็ได้รับข้อความของมันด้วยเหมือนกัน มันอายุ 13 ปี วันหนึ่งฉันพูดกับสามีฉันว่า “มันแก่เกินไป ฉันอาจไม่ต้องการมันอีกต่อไปแล้ว เราอาจจะให้มันกับคนอื่น” หลังจากนั้นมันก็พูดอยู่ข้างในว่า “ได้โปรดเถิด โปรดอย่าให้ผมกับคนอื่น” มันพูดแบบนั้นกับจิตของฉันเสมอ ๆ ชอบที่จะพูดเสมอว่า “ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด” วันหนึ่งฉันจึงพูดว่า “ตกลง ตกลง ฉันจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิต” หลังจากนั้นมันก็มีความสุขมาก” มันได้ดูแลฉันด้วย ครั้งหนึ่งเมื่อฉันขาหัก มันได้นั่งอยู่ข้าง ๆ ห้องนอนฉัน เฝ้ามองฉันตลอดวัน ใช่ สุนัขตัวนี้ฉลาดมาก (ท่านอาจารย์: ใช่) มันมีอารมณ์อ่อนไหว มีดวงตาเหมือนดวงตามนุษย์ อ: ขอให้เธอดูแลมัน ตกลงนะ! อย่าให้มันกับคนอื่น ผู้บำเพ็ญ 3 : ค่ะ ฉันจะเก็บมันไว้ อ: เธอสัญญาแล้วนะ สุนัขชอบที่จะอยู่กับเจ้าของของมันตลอดเวลาจนกระทั่งมันตาย แต่สุนัขส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสเช่นนั้น เขาบอกว่าทุก ๆ 4 วินาที สุนัข 1 ตัวจะถูกฆ่าในอเมริกา เพราะอดีตเจ้าของไม่ต้องการ ทุก ๆ 4 วินาทีสุนัข 1 ตัวตายในอเมริกา มันแย่มาก! นี่ไม่ได้พูดถึงเรื่องภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุนะ พวกมันถูกฆ่าตายในที่พักพิง ทุก ๆ 4 วินาทีขณะที่ฉันกำลังพูดคุยกับเธออยู่ในขณะนี้ สุนัขนับร้อยตัวก็ได้ตายลงแล้วอย่างน่าสยดสยองมาก ดังนั้น ถ้าเธอจำเป็นต้องวางยานอนหลับสุนัขด้วยเหตุผลใดก็ตาม เนื่องจากมันป่วย ยกตัวอย่างหรือแก่เกินไป ก็ขอให้พูดกับมัน บอกมันว่าเกิดอะไรขึ้น บอกมันว่าหมอคิดว่าจะเป็นการดีกว่าสำหรับมัน หากว่ามันถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว กอดมัน อุ้มมัน อยู่กับมันตลอด อย่าเอามันไปคลินิกแล้วปล่อยให้พวกเขาทำมัน มันเข้าใจว่า มันต้องไป แต่มันต้องการความรักในการที่จะไป มันไม่ว่าอะไรที่จะต้องไป แต่มันต้องการให้เธอรักมัน และบอกมันว่าเธอยังรักมัน เพียงแต่มันต้องไป แล้วก็ให้ฝังมัน ทำดีต่อมัน ผู้บำเพ็ญ 3 : แม้ว่ามันจะไม่ชอบอาบน้ำในตอนนี้ เพราะมันป่วย ฉันก็อาบให้มันและมันก็เชื่อฟัง มันยอมให้ฉันอาบน้ำให้มันตลอดเวลา และมันก็เข้าใจ อ: ใช่ ถ้าเธออธิบาย ผู้บำเพ็ญ 3 : ใช่ เหมือนลูก ๆ ของฉัน มันเข้าใจ มันเป็นสุนัขที่ฉลาด อ: สุนัขทุกตัวฉลาด เชื่อฉันเถอะ เมื่อเธอรักพวกมัน ก็จะมีเสียงตอบรับเสมอ บางครั้งเธอสามารถพูดกับสัตว์ได้ แน่นอน เธอไม่สามารถบอกมันได้เสมอว่าจะต้องทำอะไร แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็รู้ว่าเธอใส่ใจมัน แม้เธอจะไม่สามารถพูดคุยทางกายภาพได้ แม้เธอจะไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากมัน ก็ขอให้พยายามอย่างดีที่สุด และพูดกับมันเป็นภาษาอังกฤษ และขณะที่เธอกำลังพูด มันก็เข้าใจ เพราะเธอสร้างภาพในใจเธอในสิ่งที่เธอกำลังพูดถึง มีความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เธอกำลังพูดกับสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ภายใน ยกตัวอย่าง ถ้าฉันต้องการให้พี่ชาย “นำน้ำแก้วหนึ่งมาให้” ในใจฉันก็จะมีน้ำแก้วหนึ่ง และนั่นคือสิ่งที่เขาเข้าใจ เพียงแต่ว่าถ้าเราไม่มีพรสวรรค์ เราก็จะไม่เข้าใจว่ามันพูดอะไรกับเรา อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ชัดเจนนัก เราอาจจะมีความรู้สึกและจิตหยั่งรู้อยู่ภายในก็ได้ แต่นั่นก็ไม่เหมือนกับพี่สาวคนนี้ ที่เธอสามารถพูดกับสัตว์ได้จริง ๆ ถ้าเธอต้องการ
|