โลกของสัตว์ที่มีจิตใจอารมณ์

 

น้ำลายจากพฤติกรรมความรักของสุนัข
ช่วยรักษาโรคได้

โดยพี่ประทับจิตหญิงจอลลี ชิว ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

 

 

 

 

เมื่อสุนัขเลียผู้เป็นที่รักของพวกมัน ก็เป็นวิธีการของพวกมันในการแสดงความรักความเอาใจใส่ เหมือนกับที่เมื่อแม่สุนัขเลียลูกของมันด้วยความรัก หรือเมื่อสุนัขเลียนายของพวกมัน อย่างไรก็ตามบางคนก็ไม่ชอบที่จะถูกเลียโดยสุนัข และเชื่อแบบไม่ถูกต้องว่า น้ำลายของสุนัขนั้นไม่ถูกสุขอนามัย ในทางตรงกันข้าม เนื่องจากมันประกอบไปด้วยสสารที่ต่อต้านแบททีเรีย น้ำลายของสุนัขที่มีสุขภาพดีจึงไม่เป็นอันตราย และความจริงแล้วมีคุณสมบัติในการเยียวยาได้ ความจริงแล้ว นิตยสารวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ อลาสก้า ไซเอ็นซ ฟอรั่ม เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ตีพิมพ์บทความที่ชื่อว่า “น้ำลายสุนัข: ยาอันมหัศจรรย์อันดับต่อไป?" ซึ่งได้พูดถึงการทดลองในปี 2533 โดยนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซึ่งได้ค้นพบว่า น้ำลายสุนัขฆ่าแบททีเรียที่เป็นอันตราย คือ อี โคไล และ สเตรโตคอกคัส เคนส์

ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาโดยนายไนเจล เบนจามิน แห่งโรงเรียนการแพทย์และทันตกรรม เซนท์ บาร์โทโลมี่ และ รอยอล ลอนดอน ได้เปิดเผยว่า น้ำลายมนุษย์ประกอบด้วยระดับของไนไตร (NO2) อันมีนัยสำคัญซึ่งสามารถถูกเปลี่ยนเป็นไนตริกอ็อกไซด์ได้ อันเป็นตัวต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ที่ทรงพลังอีกชนิดหนึ่ง ในการทดลองของเบนจามินกับผู้ถูกทดลองที่มีสุขภาพดี 14 คน พวกเขาได้ถูกสั่งให้เลียมือของพวกเขาให้ทั่ว จากนั้นได้มีการวัดปริมาณไนตริกอ็อกไซด์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นบนผิวของพวกเขา ได้มีการพบว่า ผลของการเลียทำให้เกิดปริมาณไนตริกอ็อกไซด์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งให้ข้อคิดว่าไนตริกอ็อกไซด์ที่มาจากไนไตรในน้ำลายที่เลียไปบนผิวหนัง ทำให้เกิดผลของการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ในการเลียบาดแผล”

ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ต่อไปนี้เกี่ยวกับสุนัขช่วยรักษาขาที่ลีบอย่างรุนแรงของเจ้าของของมันได้อย่างไร ได้ปรากฏบน เว็บไซต์อิส วอแลส ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวของสหราชอาณาจักร.

มิทช์ บอนแฮม ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์เจ็ค รัฐเซล เทอร์เรียร์ ชื่อไมโล ได้เข้ารับการผ่าตัดหลังจากอุบัติเหตุทางอุตสาหกรรม และแม้ว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จ แต่ในขณะที่กำลังฟื้นไข้เขาก็เกิดอาการที่เรียกว่า อาการลีบซูเด็ก โดยที่ “เส้นประสาทของเขาถูกทำลายและขาของเขาเปลี่ยนสีและเริ่มเหี่ยวลีบ” ดังนั้นที่ปรึกษาทางการแพทย์ของนายบอนแฮมจึงบอกเขาว่า อาจจะต้องตัดขาของเขาทิ้ง แต่เจ้าไมโลผู้ซื่อสัตย์ก็ได้ช่วยชีวิตขาของนายของมันไว้ โดยการเลียขาที่ได้รับบาดเจ็บนั้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละครั้ง หลังจาก 5 สัปดาห์ด้วยวิธีการบำบัดด้วยการเลียของสุนัขผ่านไป นายบอนแฮมก็รู้สึกว่า ขาของเขากลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และพบว่าเขาสามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อขาของเขาได้ ที่ปรึกษารู้สึกงุนงงและได้ตระหนักว่า ไมโลได้ช่วยกระตุ้นเส้นประสาทในขาของนายของมัน และดังนั้นจึงช่วยรักษามัน

ไมโลมีความศรัทธาอย่างสูงและอดทน และได้ให้ความรักอันไม่มีเงื่อนไขต่อนายบอนแฮม โดยการเลียขาที่ลีบนั้นด้วยสัญชาตญาณ แม้ว่ากลิ่นที่เน่าของมันเกือบจะไม่อาจจะทนได้ ตัวอย่างอันงดงามแห่งการกระทำด้วยความรักของสัตว์ที่มีหัวใจบริสุทธิ์ เป็นบางอย่างที่มนุษย์สามารถเรียนรู้ได้