เรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ จากการบำเพ็ญ

พืช :

รักและคุ้มครองสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจอารมณ์อันสงบ

 

เขียนโดยศิษย์ผู้พี่ชาย ฟู่ย๋องกั่ง หนันโถว ฟอร์โมซา (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

 

 

วันหนึ่งท่านอาจารย์กำลังปราศรัยอยู่ที่ศูนย์ ซีหู ทันใดนั้นก็พูดถึงเรื่องอื่นขึ้นมา กล่าวอย่างเคร่งครึมว่า :“จงดูแลเด็ก ๆของเธอให้ดี กิ่งไม้ที่เล็กเกินไป อย่าไปผูกเปล ...” จากนั้น ก็กลับสู่เรื่องเดิม ปราศรัยธรรมต่อไป เมื่อปราศรัยธรรมจบ ผู้คนก็สลายไป ขณะที่ฉันกำลังคิดถึงคำพูดของท่านอาจารย์ว่า มันหมายความว่าอย่างไร พอดีเดินผ่านแผนกขายหนังสือที่ข้างหน้ามีต้นมะม่วง เห็นธรรมบาลหลายคนกำลังจัดการกับกิ่งไม้ที่ถูกผูกเปลแล้วหัก โอ้ ! ที่แท้มีต้นไม้ได้รับบาดเจ็บ ต้นไม้ได้รับทุกข์เวทนา ท่านอาจารย์ที่เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสัตว์ ก็ได้รับความรู้สึกด้วย

หลายคนที่ไม่คิดว่า ดอกไม้ ต้นหญ้า ต้นไม้ ต่างเป็นสรรพสัตว์ทีมีจิตวิญญาณและความสามารถที่จะสัมผัสรับรู้ ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเหตุผล(สรรพสัตว์เป็นหนึ่งเดียวกัน) ทุกครั้งที่เห็นเด็ก ๆ เอาไม้เที่ยวตีต้นไม้ ฉันจะปวดใจมาก โดยเฉพาะเตือนแล้วยังไม่ฟังกัน ความจริง นักวิทยาศาสตร์ก็ไดยืนยันมานานแล้ว ว่า พืชมีความสามารถที่จะรับรู้ และเมื่ออยู่ต่อหน้ากับสถานการณ์บางอย่าง ก็จะมีการตอบสนองคล้ายกับมนุษย์ จากประสบการณ์ของฉันที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า พืชสามารถตอบสนองถึงความรักความเอาใจใส่ที่พวกเรามีต่อมัน

วันหนึ่ง เพื่อนส่งต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในกระถางมาให้ต้นหนึ่ง เวลามีงานยุ่งจะลืมรดน้ำเสมอ ในใจรู้สึกไม่สบาย ! ดังนั้น จึงตัดสินใจนำมันไปที่ห้องทำงาน เป็นเพื่อนทำงานด้วยกัน วันนั้น เมื่อเลิกงานกลับไปถึงบ้าน ฉันจึงตรงไปหาต้นไม้กระถางนั้น จิตใจที่บริสุทธิ์ บอกกับมันอย่างดีใจว่า : “พรุ่งนี้จะพาเจ้าไปที่ทำงานเป็นเพื่อนกับฉัน !”จากนั้น ฉันเอื้อมมือไปจับมัน พอยื่นมือออกไป ก็ต้องตกใจ รีบหดมือกลับมา เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า รอบ ๆใบมีจุดแสงกระพริบไม่หยุด ตอนแรกคิดว่าตัวเองตาลาย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริง ข้าฯยื่นมือไปจับมันอีก ผลปรากฏเกิดเหตุการณ์เหมือนกัน จุดแสงเล็ก ๆที่กระพริบ เหมือนกับดวงไฟเล็ก ๆที่ประดับอยู่บนต้นคริสมาส สวยงามมาก ทดลองหลายครั้งก็เหมือนกัน ! ฉันเชื่อว่าเป็นเพราะต้นไม้ต้นนี้ได้สัมผัสกับอารมณ์ที่มีความสุขจากฉัน กับการให้ความรักความเอาใจใส่ที่มีต่อมัน ได้แสดงออกถึงความดีใจ ดังนั้น ฉันเรียกลูกเข้ามาชมด้วยกัน เธอก็เห็นเหตุการณ์เดียวกัน ขณะนั้น พวกเราทั้งสามต่างแบ่งปันความสุขอย่างเงียบ ๆ ซึ่งกันและกัน

ปัจจุบัน ทุกครั้งที่ฉันแพ่งจอคอมพิวเตอรนานไป ดวงตารู้สึกเพลียมาก ต้นไม้ต้นเล็กนี้ก็คือเพื่อนที่ทำให้ฉัน(สบายตาสบายใจ)นั่นเอง ขณะเดียวกันก็เป็นการเตือนฉันอย่าทำงานนานเกินไป เวลาเลิกงาน ฉันยกต้นไม้ไปไว้กลางแจ้งเพื่อรับน้ำค้างกลางคืนให้ชุ่มชื้น วันหยุดก็ได้รับแสงแดด ทำเช่นนี้ ไม่เพียงได้ดูแลต้นไม้เล็ก ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นประโยชน์กับตัวเองด้วย ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว !

ต้นไม้เล็กที่ปลูกอยู่ในกระถางที่สามารถเปล่งแสงนี้ ทำให้ฉันยิ่งเชื่อคำพูดที่มีเหตุผลของท่านอาจารย์มากขึ้น “สรรพสิ่งต่างมีจิตใจอารมณ์ สรรพสัตว์มีสิทธิเท่าเทียมกัน” เมื่อเป็นเช่นนี้ สัตว์ พืชที่มีความรู้สึกไว พวกเราจะไปทำลายตามอำเภอใจได้อย่างไร ?

 <<