ถ้อยคำอาจารย์

 

 

 

ภัยจากธรรมชาติ
ภัยพิบัติจากคน

ล้วนมาจาก
การคิดร้าย
ของมนุษย์

 

ปราศรัยโดย
อนุตราจารย์ชิงไห่
ที่ไถหนัน ฟอร์โมซา
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2530
(ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

ในจักรวาลมีโลกต่าง ๆ มากมาย มีระดับชั้นมากมาย โลกของเราเรียกว่า โลกแห่งวัตถุ ไม่ว่าสิ่งไหนก็สามารถเห็นได้ จับต้องได้ คลำพบได้ หยิบถึงได้ อีกโลกหนึ่งสร้างขึ้นมาด้วยความคิด ในจำนวนดังกล่าวมีดินแดนอสุรกาย ที่อยู่ใกล้พวกเรามากที่สุด เวลาส่วนมาก ความคิดของพวกเราส่วนมากจะเป็นความคิดที่ต่ำและดุร้าย หรือเป็นความคิดทั่วไปที่ทางโลกคิดว่าดี ความคิดเหล่นนั้น จะบินไปอยู่ใกล้ ๆ กับแดนอสุรกาย พวกเราเรียกมันว่า ชั้นอากาศใหญ่

ดังนั้น บางครั้งพวกเราป่วยเป็นโรคบางชนิด หรือผู้อื่นนำโรคมาติดพวกเรา หรือมีภัยพิบัติอะไร สงคราม หรือภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติจากคน มันล้วนเกิดจากความคิดที่ดุร้ายของคนในโลก พวกเราอย่าได้บ่นว่า “ฉันเป็นคนดี ทำความดีมาตั้งแต่เป็นเด็ก ทำไม่ยังมาป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้?” หรือบ่นว่า “ประเทศของฉันดี ทุกคนต่างนับถือศาสนาพุทธมาตลอด ไปไหว้ทุกแห่ง ทำไมจึงมีภัยธรรมชาติ?” ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา ล้วนมีสาเหตุทั้งสิ้น เพราะคนในโลกนี้ หรือคนในประเทศของพวกเรา ในอดีตหรือปัจจุบัน เคยมีความคิดที่ดุร้าย แม้พวกเราจะคิดอยู่ชั่วครู่เดียวก็เลิกคิด และไม่ได้ไปทำ แต่พลังของความคิดนี้มันยังอยู่ ตัวมันเองเหมือนมีความรู้ ความฉลาด พวกเราสามารถเรียกมันว่า เป็นสสารชนิดหนึ่ง พวกมันไม่มีจิตวิญญาณ ภายในก็ไม่มีพลังของพุทธ มีเพียงความรู้เท่านั้น เหมือนกับเครื่องคิดเลข เครื่องคิดเลขไม่มีจิตวิญญาณอยู่ข้างใน แต่มันสามารถคำนวณด้วยเหตุผล

แต่ความคิดที่ดุร้าย ไม่ดี มันร้ายกาจกว่าเครื่องคิดเลข เครื่องคิดเลขพวกเราสามารถทำลายมันได้ แต่ความคิดที่ดุร้ายเหล่านั้น ไม่ทำลายยาก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร พวกมันก็ยังคงมีอยู่ รวบรวมสนามแม่เหล็กที่เหมือนกับพวกมัน ช้าหรือเร็ว จะหาโอกาสที่สะดวก เพื่อระเบิดกำลังของมันออกมา

ถ้าเป็นเครื่องจักรเครื่องคิดเลข วันหนึ่งถ้าพวกเราไม่ใช้หรือใช้นานจนเกินไป เครื่องคิดเลขนั้น มันจะเสียเอง หรือพวกเราไปกดจุดใดจุดหนึ่ง เครื่องจักรก็จะเสีย ข้อมูลต่าง ๆ ที่เคยบันทึกไว้มาแล้ว ก็จะสูญหายไปเอง แต่ว่า ความคิดที่ดุร้ายนั้น ทำไม่ได้เลย มันไม่สามารถจะสูญสิ้นไป ถ้ามันมีอยู่แล้ว ก็จะอยู่ต่อไป แล้วกลายเป็นบรรยากาศชนิดหนึ่ง ห้อมล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวพวกเรา หรือห้อมล้อมโลก ประเทศ หมู่บ้าน ตัวเมืองต่าง ๆ ของพวกเรา แล้วมันจะกลายเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ภัยพิบัติ สงครามต่าง ๆ มากมายหลายเรื่อง

โรคคืออะไร? คือบรรยากาศเหล่านั้น จะหาความคิดที่เหมือนกัน เพื่อเข้าสู่สนามแม่เหล็กของมัน ที่เรียกกันว่า สิ่งที่เหมือนกันก็จะดึงดูดกัน มันจะรอเธอมีความคิดชนิดนั้น หรือหาคนที่มีความคิดชนิดนั้นบ่อย ๆ แล้วเข้าสู่สนามแม่เหล็กของมัน เหมือนมีประตู เพราะสองสิ่งที่เหมือนกัน มันจะรวมเข้าด้วยกันง่าย เมื่อมันเข้าสู่สนามแม่เหล็กของพวกเรา ต่อจากนั้น เข้าสู่สมองของพวกเรา ประสาทของพวกเรา แล้วทำลายภูมิต้านทานของพวกเรา พวกเราก็จะกลายเป็นคนป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นโรคประสาท หรือเป็นโรคที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คนที่ชอบมีความคิดที่ดุร้าย ในอดีตชาติอาจจะมีความคิดที่ไม่ดี ดังนั้น เมื่อกลับมาเวลานี้ ก็ต้องดูดเอาความคิดที่ไม่ดีจากอดีตของเขา

ดังนั้น พวกเราไม่ต้องไปโทษคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างพวกเราเป็นคนสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น แต่พวกเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้ากาย วาจา ใจของพวกเรา สะอาดตลอด 24 ชั่วโมง มันก็จะเข้าไม่ได้ เพราะมันต่างชนิดกัน ดังนั้นจึงดูดกันไม่ได้ สิ่งที่แตกต่างกันจะเข้ามา ก็เหมือนกับถูกกั้นออกมา เหมือนกับน้ำกับน้ำมันไม่สามารถจะเข้ากันได้เลย พวกเราผู้บำเพ็ญ สามารถลบล้างกรรมมากมาย แม้ว่าแต่ก่อนเคยคิดเรื่องดุร้าย แต่ว่าเวลานี้กลายเป็นคิดน้อยลง สมมุติว่า มันต้องเข้าไปหมด แต่ในที่สุดเข้าไปได้เพียงนิดเดียว อาจจะทำให้พวกเราคันตรงนี้ เจ็บตรงนั้น หรือไข้ขึ้น 2-3 วัน ก็จะไม่เป็นโรคมะเร็ง หรือทำให้พวกเราเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ รถอาจจะถูกชนจนเสียหมด แต่คนยังไม่ตาย เพียงแต่ถลอกหรือผิวแตก

ดังนั้น เวลาอยู่ในโลกนี้ พวกเราควรจะชำระล้างกาย วาจา ใจของพวกเราให้สะอาด เพราะพวกเราต้องป้องกันตัวเอง ถ้าพวกเราพ้นจาก 3 โลกแล้ว ก็จะไม่มีปัญหา ที่นั่นไม่มีบรรยากาศที่ดุร้าย ไม่มีใครคิดเรื่องดุร้าย มีแต่คนที่สะอาดจึงจะขึ้นไปได้

 

การปราศรัยของท่านอาจารย์ฉบับนี้ เคยลงในธรรมสารฉบับที่ 96 สิ่งที่ท่านอาจารย์มองเห็นอย่างชัดเจน ไม่เพียงพูดถึงต้นตอของปัญหา และได้ชี้นำวิธีป้องกันที่สมบูรณ์ที่สุดให้กับชาวโลกด้วย ในยุคที่โรคระบาดกำลังแพร่สะพัด พวกเรานำเอาบทความนี้ของท่านอาจารย์มาลงพิมพ์ใหม่ หวังว่าทุกคนในสังคมจะได้รับประโยชน์ทั่วหน้า

 

 
ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ