โดยพี่น้องสาวประทับจิต ซูฟี บานู เวียนนา ออสเตรีย (ต้นฉบับภาษาอังกฤษ)ในเช้าตรู่ ของวันที่ 31 มีนาคม ปีทองที่ 3 (2006) แผ่นดินไหวสั่นสะเทือน พื้นที่บริเวณหนึ่งซึ่งมีอยู่บ้านเล็ก ๆ หลายหมู่บ้านอยู่ทางภาคตะวันตกของอิหร่าน บ้านเรือนในหมู่บ้านเหล่านี้ถูกก่อสร้างอย่างง่าย ๆ ไม่มีเหล็กหรือท่อนเหล็กในการเสริมความแข็งแรง จำนวนบ้านที่อยู่ใน 300หมู่บ้านที่อยู่รอบ ๆ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้รับความเสียหาย 30 เปอร์เซ็นต์ ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ มีข่าวดีที่ว่าในตอนกลางคืนนั้น มีแผ่นดินไหวเล็กน้อย หลายจุดส่งสัญญาณก่อนที่แผ่นดินไหวใหญ่จะจู่โจม อันเป็นผลให้เทศมนตรีของรัฐสามารถเตือนประชาชนทางวิทยุและโทรทัศน์ เขาได้จัดรถติดลำโพงวิ่งไปตามหมู่บ้านเตือนประชาชน พร้อมกับชักชวนให้นอนนอกบ้านในคืนนั้น ผู้คนจำนวนมากทำตามคำบอกและนอนนอกบ้านทั้งที่อากาศหนาว ดังนี้แม้ว่าจะเป็นการทำลายที่ใหญ่หลวงแต่ก็มีคนเสียชีวิตไม่กี่คน ตอนเช้าของวันที่ 2 เมษายน ผู้ประทับจิตไปที่บริเวณนั้นเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นความต้องการจากผลของความหายนะนี้ เนื่องจากเราไม่รู้จักใครที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว พี่น้องหญิงประทับจิตคนหนึ่งแนะให้เราติดต่อกับบุคคลผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่ที่ข้างเคียงนั้น แม้ว่าชายผู้นั้นจะไม่เป็นที่รู้จัก หลังจากที่เรามาถึง เราได้ติดต่อกับคนผู้นี้ เขาได้รับข่าวที่เราจะมาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวแล้ว เขาและครอบครัวต้อนรับเราอย่างอบอุ่น เสนอให้เราพักในบ้านของเขา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองที่ไม่ได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นเราได้รู้ว่าเจ้าบ้านผู้มีความกรุณานี้ เป็นผู้ที่ดีที่สุดที่จะช่วยเราได้ในงานนี้ ตำแหน่งของเขาเป็นชาวนาที่มีฐานะ เขาคุ้นเคยกับบริเวณรอบๆ นั้นอย่างดี ในทันทีหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว เขาได้อาสาตรวจตราหมู่บ้านในบริเวณนั้นเพื่อกำหนดจุดที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด หลังจากที่เรามาถึงเขาได้นำเราไปยังหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด เขายังมีความรู้มากเกี่ยวกับรายได้ของคนในหมู่บ้านและคนที่ลำบากที่สุด เขามีใจที่บริสุทธิ์และทำงานร่วมกับเราทั้งวันทั้งคืนอย่างอารมณ์ดีตลอดโครงการ เราตรวจสอบความเสียหายอยู่หนึ่งวัน และก็ได้แจ้งไปที่กลุ่มผู้ประทับจิตอื่นในเตหะราน (เมืองหลวง) ให้พวกเขาจัดซื้อสิ่งที่จำเป็น และขนส่งไปที่บริเวณที่เกิดภัยพิบัติ เนื่องจากต้องใช้เวลาหนึ่งวันครึ่งที่จะซื้อและส่งของที่จำเป็นทั้งหมด เราจึงเริ่มต้นด้วย ซื้อน้ำ 6,000 ขวด จากเมืองข้างเคียงในวันต่อมา วันที่ 3 เมษายน และแจกจ่ายน้ำให้ชาวบ้านในบริเวณที่ระบบท่อน้ำได้รับความเสียหาย และคนเหล่านั้นต้องการน้ำสะอาดด่วนเพื่อป้องกันเชื้อโรค เมื่อทุกอย่างซื้อเสร็จ เราจัดเตรียมถุงขนาดใหญ่ใส่สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดเพื่อที่จะให้แก่ผู้ที่โชคไม่อำนวย ขอบคุณในความเมตตาของพระเจ้า เราได้รับความช่วยเหลือเกือบจะทุกที่ที่ไป ครอบครัวที่เราอาศัยอยู่ด้วย เพื่อนบ้านของเขาและเพื่อนต่างพากันมา ในชั่วขณะเรามีบุคคลที่เข้ามาช่วยเกือบ 40 คน ทำให้ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นมีโรงงานสองแห่งให้เรายืมรถบรรทุกโดยไม่คิดเงิน เราจึงได้ทำการบรรทุกเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ขับแล่นไปบริเวณที่ได้รับความเสียหายหนัก ช่วงเวลาที่เราอยู่กลุ่มงานสองกลุ่มสื่อสารโดยโทรศัพท์เซลโฟนและจัดสถานที่ให้รถบรรทุกคันต่อไปส่งของไปยังกลุ่มแจกจ่าย ด้วยวิธีนี้เราไม่ได้เสียเวลาเลย หลังจากแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ 1000 ถุง เราก็เริ่มต้นแจกจ่ายพลาสติกม้วนใหญ่เพื่อใช้ป้องกันเต้นท์จากฝนและความหนาว ในวันสุดท้ายตอนบ่ายวันที่ 7 เมษายน เราได้เสร็จสิ้นการแจกจ่ายของทุกอย่างรวมทั้งผ้าห่มกันหนาว ทุกคนขอบคุณในความช่วยเหลือของเรา เมื่อคนเหล่านั้นถามว่าเรามาจากไหน บางครั้งเราก็ตอบเขาว่า การช่วยเหลือนี้มาจากสุภาพสตรีที่อยู่แดนไกลและทำงานกุศล พวกเขามีความประหลาดใจและฉงนใจที่สุภาพสตรีจากต่างแดนคนหนึ่งได้คำนึงถึงพวกเขา พร้อมกับบอกให้เราขอบคุณในพระคุณของเธอ มีเรื่องน่าฉงนใจอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เราอยู่ที่นั่น วันแรกที่เราอยู่ที่นั่น เจ้าของบ้านพักที่เราอยู่และภรรยาเขาเป็นผู้ปฏิบัติอิสลาม มีความประหลาดใจที่รับรู้ว่าเราไม่กินเนื้อสัตว์ เนื่องจากมังสวิรัติเป็นคำที่ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนอิหร่าน พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของมัน และจุดประสงค์ของเรา หลังจากที่เราอธิบายให้ฟังอย่างสั้นๆ เจ้าของบ้านพูดว่า “แต่ฉันชอบฆ่าแกะและตัดหัวมันด้วยมือของฉัน เมื่อก่อนนี้ฉันล่าสัตว์ด้วย ดังนั้นฉันคิดว่าตัวฉันเองเป็นเพียงผู้ที่สิ้นหวังไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก” แต่ก็มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่อยู่ที่นั้นแสดงความสนใจและถามคำถามหลายคำถาม ซึ่งเราก็ได้อธิบายถึงการเป็นมังสวิรัติลึกลงไปอีก ขณะที่เราคุยกัน เจ้าของบ้านนั่งเงียบเป็นส่วนใหญ่ ในทันทีทันใดเขาก็จับมดตัวหนึ่งที่กำลังคลานอยู่บนกางเกงของลูกชายเขา และนำมดตัวนั้นไปที่หลังบ้านแล้วปล่อยมัน เมื่อกลับมาเขาพูดว่า จากนี้ไปเขาไม่สามารถที่จะฆ่ามดได้อีก เนื่องจากเขาพูดไปยิ้มไปฉันจึงคิดว่าเขาอาจจะเห็นเราเป็นตัวตลก อย่างไรก็ดีวันต่อมาเขาบอกเราว่า เขาจะทานมังสวิรัติ เราก็คิดอีกว่าเขาคงไม่จริงจังอะไร ฉันก็ได้รับความประหลาดใจว่า เขาไม่ทานเนื้อสัตว์ในมื้ออาหารกลางวันนั้น พอถึงเย็นวันนั้น เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการกินไข่อีก เราก็เริ่มคิดว่าเขาคงจะตั้งใจจริง เขาพูดว่า “ทุกสิ่งที่ท่านพูดเป็นจริงที่สุด” และเขาก็เริ่มถามถึงการนั่งสมาธิและสิ่งอื่นๆ หลายอย่างเมื่อเขามีโอกาสโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เราขับรถไปยังบริเวณที่ได้รับภัยพิบัติ วันที่สามเขาได้เรียนวิถีสะดวกพร้อมกับแสดงความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในช่วงเวลาที่เราอาศัยอยู่ในบ้านเขา ภรรยาเขาก็ดีใจที่เขาทานมังสวิรัติ เธอบอกว่า “ฉันคิดว่ามันจะดีกับตัวเขา” เขาเดินไปห้ามลูกชายเล็กๆ ของเธอซึ่งกำลังจะฆ่ามดตัวหนึ่งพร้อมกับพูดว่า “เราจะไม่ทำสิ่งเหล่านี้ในบ้านของเราอีก” ถึงเย็นวันที่ห้า เจ้าของบ้านของเราถามเราว่าเขาจะรับการประทับจิตได้อย่างไร! เราแทบจะไม่เชื่อว่าคนที่พูดว่าชอบที่จะตัดหัวของสัตว์จะกลายเป็นมังสวิรัติที่เคร่งครัด และต้องการที่จะได้รับการประทับจิตในเวลาอันใกล้ จากการที่ได้เห็นจิตใจบริสุทธิ์ของชายผู้นี้ในเวลาที่ทำงานหนักกับเขาในช่วงห้าวันที่เราอยู่ที่นั่น เรารู้ว่าเหตุผลหนึ่งที่อาจารย์ส่งพวกเราไปที่นั่นเป็นเพราะว่าเขาพร้อมสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ หลังจากให้ที่พักผู้ประทับจิตเจ็ดคนในบ้านของเขาหกวัน เมื่อถึงเวลาที่พวกเราพร้อมที่จะจากไป เขาเกิดความอาลัยอาวรณ์มาก เขาบอกว่า “ฉันไม่อยากให้พวกท่านไป มันเหมือนกับว่าฉันได้รู้จักกับพวกท่านมานานแสนนาน” เมื่อเราขอบคุณเขาสำหรับความช่วยเหลือทั้งหมด เขาพูดว่าไม่มีอะไรที่จะต้องขอบคุณเขา เขาพูดกลับไปว่า “ฉันไม่สามารถขอบคุณพวกท่านได้พอเพียงสำหรับของขวัญทางจิตวิญญาณที่ท่านให้ฉัน พวกท่านเปลี่ยนชีวิตของฉัน” ในช่วงแรกที่เราอยู่ที่นั่น เขากล่าวถึงว่าบางครั้งบางคราวเขาเห็นอนาคตในฝันของเขา และสิ่งที่เขาเห็นเกิดตามนั้นจริงๆ ในเวลาต่อมา วันหนึ่งเขาพูดว่า “เมื่อเดือนก่อนฉันได้ฝันครั้งหนึ่ง เป็นเรื่องที่ฉันไม่กล้าบอกใครจนกระทั่งเวลานี้ ฉันฝันว่า ฉันได้เป็นเพื่อนกับตัวแทนพระเจ้าที่จะมาในอนาคต (คนมุสลิมเชื่อว่าตัวแทนพระเจ้าจะมาในอนาคตเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้รอด) และได้ขึ้นไปในอาณาจักรทางจิตวิญญาณที่สูงขึ้นสูงขึ้น และฉันกลายเป็นผู้ทรงศีล” แล้วเขาก็หยุดคุยเกี่ยวกับความฝันของเขา เขาคิดไปว่าพวกเราอาจจะคิดว่าเขาแสดงความอวดรู้ ฉะนั้นความฝันนี้เป็นการส่งสัญญาณให้เขาถึงการตัดสินใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำสมาธิและทานมังสวิรัติ พวกเราจากมาด้วยความรู้สึกขอบคุณต่อความสำเร็จในโครงการที่ไม่มีอุปสรรคขัดขวางมาก เป็นประสบการณ์ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ประทับจิตชาวอิหร่าน ซึ่งพวกเขาส่วนมากยังไม่ได้ประทับจิตนาน เป็นการให้โอกาสเราที่จะได้ทำงานใกล้ชิดร่วมกัน เพิ่มความแข็งแกร่งในมิตรภาพของเรา พร้อมทั้งเรียนรู้มากมายจากผู้อื่น มันดูคล้ายกับว่าพวกเราได้มาช่วยผู้ประสบภัยพิบัติ แต่เราแน่ใจว่านั่นเป็นเพียงฉากบนของเรื่อง เราผู้ประทับจิตและบุคคลอื่นมากมายที่เข้ามาช่วยเราได้รับผลประโยชน์และเรียนรู้มากมาย ผู้ที่ไม่ได้ประทับจิตทั้งหมดที่เข้ามาช่วยเราได้รับความประหลาดใจและการจูงใจ จากความแน่วแน่ของเราบวกกับพลังของอาจารย์ แน่นอนที่คนในหมู่บ้านหลายแห่ง ได้รับห่อของบรรจุด้วยความรักของอาจารย์ที่จะยกระดับจิตวิญญาณของพวกเขา
รายการค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัย
(สกุลเงิน : เงินอิหร่านทูแมน)
|
รายการ |
จำนวน |
ใบเสร็จเลขที่ |
น้ำขวด, อาหาร (ขนมปัง, ก๋วยเตี๋ยว, คุ้กกี้, อินทผลัม, อาหารกระป๋องอื่นๆ) |
5,604,600.00 |
A1~ A12 |
เต้นท์, แผ่นพลาสติก (สำหรับคลุมเต้นท์) |
1,530,000.00 |
B1~ B2 |
ผ้าห่ม |
1,529,000.00 |
C |
ชุดชั้นใน, รายการสุขลักษณะส่วนบุคคล, สบู่ |
1,390,900.00 |
D1~ D3 |
ค่าขนส่ง |
256,000.00 |
E1~ E4 |
เบ็ดเตล็ด (เงินสดช่วยเหลือ, ถุงพลาสติก, ของขวัญ, แก๊ส, อื่นๆ) |
255,000.00 |
F |
รวมยอด |
ทูแมน $ 10,565,500.00 (เงินอเมริกัน $ 11,560.00) |