ความรักในรูปการกระทำ
เกาหลี--โซล

 

 

เพื่อแสดงออกถึงจิตใจที่มีมนุษยธรรม พยายามช่วยเหลือสุนัขที่ถูกทารุณกรรม

รายงานโดยกลุ่มข่าวโซล (ต้นฉบับเป็นภาษาเกาหลี)

เพื่อนบำเพ็ญเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์ที่หน้าศาลาเทศบาลเมือง

เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุการณ์ทารุณสัตว์ที่น่าหวาดกลัวขึ้นเรื่องหนึ่งคือเรื่อง “นรกของสุนัข” ที่จังซูดอง อินเฉิน เมืองโซล ทำให้ประชาชนชาวเกาหลีให้ความสนใจกับการคุ้มครองสัตว์กับการเคารพต่อสิ่งมีชีวิต

เนื่องจากในตัวเมืองได้แบ่งเขตใหม่ ทางการเขตอินเฉินได้สั่งย้ายสถานที่เลี้ยงสุนัขแห่งหนึ่งไปอยู่ที่หนึ่ง แต่ถูกเจ้าของสถานที่เลี้ยงสุนัขปฏิเสธพร้อมเรียกร้องเงินชดเชยก้อนใหญ่ เจ้าของสุนัขได้สร้างสถานที่คับแคบขึ้นที่ข้างสถานที่เลี้ยงสุนัข แล้วจับสุนัขเข้าไปขังไว้เป็นการประท้วงรัฐบาล สุนัขที่ไม่มีความผิดต้องถูกกักขังอย่างนักโทษ ถูกใส่กุญแจขังไว้ในกรงเหล็ก จนกว่าจะตายไป เริ่มต้นมีสุนัขอยู่หลายร้อยตัวแต่ไม่ถึง 1 ปี จำนวนสุนัขได้ลดลงเหลือ 100 กว่าตัว สถานที่เลี้ยงสุนัขน่าเวทนาและน่ากลัวจนไม่สามารถบรรยายได้ ไม่มีองค์กรคุ้มครองสัตว์ที่ไหนเคยเห็นสภาพที่ย่ำแย่แบบนี้มาก่อน ยิ่งร้ายกว่านี้คือ ทางเกาหลีก็ไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ที่สามารถหยุดยั้งการกระทำที่ทารุณสัตว์ได้ ทำให้ทางรัฐบาลกับองค์กรคุ้มครองสัตว์ ไม่สามารถดำเนินทางกฎหมายกับเจ้าของสุนัขได้ ได้แต่ขอร้องให้เขาปล่อยสุนัขไป รายงานจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้เข้าไปตรวจสอบสภาพการทารุณแบบนี้อย่างละเอียด และได้ออกอากาศไปทั่วประเทศ เมื่อ 12 มีนาคม ปีทองที่ 3 (2549) ทำให้ประชาชนเกิดความโกรธแค้น
ศิษย์พี่หญิงนายกสมาคมคุ้มครองสิทธิ์สัตว์โลก (CARE)
กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้พร้อมให้สัมภาษณ์นักข่าว

วันที่ 14 มีนาคมเพื่อนบำเพ็ญกับองค์กรคุ้มครองสัตว์ พร้อมด้วยนายกสมาคมคุ้มครองสิทธิสัตว์โลก ศิษย์พี่หญิงที่คุ้มครองสัตว์อย่างจริงจัง นำเอาอาหารสุนัขเจไปเยี่ยมสถานที่เลี้ยงสุนัขด้วยกัน เห็นกระดูกสุนัขเต็มไปหมด ทั้งส่งกลิ่นเหม็นมาก เพื่อนบำเพ็ญอธิษฐานต่อท่านอาจารย์ไปพลางร่วมกับองค์กรคุ้มครองสัตว์เพื่อหาทางพูดกล่อมให้เจ้าของสถานที่เลี้ยงสุนัขปล่อยสุนัขไปพลาง โดยต้องใช้เวลานาน ตอนแรกเขามีท่าทางแข็งกร้าวปฏิเสธตลอด แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่ง จากการขอร้องด้วยความจริงใจของเพื่อนบำเพ็ญ เขาเริ่มเปลี่ยนใจ สุดท้ายยอมให้พาสุนัขที่เจ็บป่วยออกไปรักษา ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับละครจริงๆ เพราะเขายืนกรานต้องการเงินจำนวนมากมาชดเชยจึงจะยอมได้ เพื่อนบำเพ็ญขอบคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยให้เหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้สามารถเปลี่ยนเป็นได้ และตัดสินใจก่อนที่เจ้าของสุนัขจะเปลี่ยนใจรีบไปปล่อยสุนัขออกมา องค์กรคุ้มครองสัตว์หลายแห่งกำหนดจะไปช่วยสุนัขที่จังดอง ในวันที่ 16 มีนาคมและเรียกร้องให้อาสาสมัครมาช่วยงานด้วย เพื่อที่จะมาทำงานนี้ และสร้างสถานที่รับเลี้ยงสัตว์ให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอย่างรีบด่วน จึงจะสามารถรับเลี้ยงสุนัขเหล่านี้ได้ ดังนั้นก่อนจะไปช่วยเหลือ 1 วันบวกกับช่างไม้ 1 คน ซึ่งรวมเป็นเพื่อนบำเพ็ญ 3 คน ทำงานโดยไม่ยอมหยุดทั้งวัน เพื่อเตรียมบ้านใหม่ให้กับสุนัข

เพื่อนบำเพ็ญช่วยสุนัข
ออกจาก “นรกสุนัข”

เช้าวันที่ 16 มีนาคม สัตว์แพทย์ผู้อาสากับเพื่อนบำเพ็ญ ร่วมแรงร่วมใจไปช่วยสุนัขด้วยกัน ภายใต้สายฝนที่ตกลงมาพรำๆ ร่างกายพวกเราเปื้อนสิ่งสกปรกภายในกรง เพื่อนำสุนัขประมาณ 30 ตัวขึ้นรถบรรทุก ขณะนั้นเจ้าของสุนัขก็ออกมาเขาขัดขวางอย่างแรง เพื่อไม่ให้พวกเราพาสุนัขออกไป ดังนั้น เพื่อนบำเพ็ญจึงได้ขอร้องให้เขาปล่อยสุนัขป่วยให้มากกว่านี้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการปรึกษากันอย่างหนัก เขาจึงยอมให้พวกเราพาสุนัขออกไป 10 ตัว ผู้อาสาก็ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในที่สุดได้สุนัขมาทั้งหมด 23 ตัว มีสุนัขทั้งหมดที่ถูกนำไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงจำนวน 50 ตัว เรื่องนี้ได้มีการลงข่าวไปทั่วประเทศเป็นเวลา 9 ชั่วโมง

สุนัขเมื่อมาถึงสถานที่รับเลี้ยงใหม่ที่มีสถานที่กว้างใหญ่กว่า แม้จะยังไม่เคยชินแต่ก็ได้กลับสู่ความมีชีวิตชีวาขึ้น สุนัขเหล่านี้เดิมทีต้องจมอยู่กับสภาพแวดล้อมที่สกปรกจนใกล้จะตาย จากสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและมีบรรยากาศที่เป็นบวกแห่งนี้ร่างกายได้กลับสู่สภาพเดิมอย่ารวดเร็ว

วันที่ 26 มีนาคม มีการเรียกร้องให้ออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์ที่หน้าศาลาเทศบาลเมือง เพื่อคุ้มครองสัตว์ที่ถูกทารุณ มีประชาชนมากมายกับบุคคลสำคัญเข้าร่วมชุมนุม เพื่อนบำเพ็ญได้ยกป้ายคำขวัญและจุดเทียนเข้าร่วมด้วย สุนัขที่เหลืออยู่ที่จังดองได้รับการช่วยเหลือจนหมด ขณะที่พวกเขาถูกนำมาถึงหน้าศาลาเทศบาลเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมต่างได้รับการต้อนรับอย่างคึกคัก

Naver แหล่งข่าวสำคัญของเกาหลี
นำเอาเรื่องนี้ไปจัดเป็นข่าวสำคัญ

เหตุการณ์ทารุณสัตว์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้ผู้คนโกรธแค้นมาก และได้ทำให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาของสัตว์อย่างลึกซึ้ง ทั้งหมดแม้จะทำให้เสียใจและเศร้าใจ ทำให้สังคมเกิดกระแสเป็นระลอก ทุกวันจะมีรายงานข่าวจากสื่อมวลชน เป็นนิทานปกหน้า เกิดการวิเคราะห์กันอย่างคึกคัก ทำให้ผู้คนเข้าใจถึงสิทธิของสัตว์ พร้อมทั้งได้ปลุกความรักจากจิตสำนึกภายในด้วย นอกจากนี้ทางรัฐบาลก็มีความคิดเห็นในการคุ้มครองสัตว์ที่แตกต่าง มีผู้คนเข้าร่วมหน่วยงานคุ้มครองสัตว์ จากการเผยแพร่ทางโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ยกระดับการยอมรับของผู้คนที่มีต่อการคุ้มครองสัตว์และเคารพต่อสิ่งมีชีวิต ผู้คนมากมายแสดงความคิดเห็นใส่อินเตอร์เน็ต เรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองสัตว์ นอกจากนี้หลังจากเกิดเหตุแล้ว ข่าวสารทางเลือกใหม่ที่ติดอยู่กับหน่วยงานคุ้มครองสัตว์ได้รับการสนับสนุนและเห็นด้วย และกลายเป็นคนทานเจมากขึ้น

เพื่อนบำเพ็ญทราบว่า ถ้าไม่มีความรักจากท่านอาจารย์เจ้าของสุนัขจะไม่ยอมเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน และยอมปล่อยสุนัขตามที่พวกเราขอร้อง สุนัขก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ การหยุดยั้งการทารุณสัตว์จะต้องพยายามทำต่อไป นอกจากการเผยแพร่การทานมังสวิรัติ เพื่อช่วยชีวิตพี่น้องผู้อ่อนแอแล้ว ขณะเดียวกันจากการรณรงค์เซ็นชื่อเพื่อเรียงร้องให้แก้กฎหมายสัตว์

 

ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ