อารมณ์แห่งบทกวี


บทกวีสืบทอด
ชื่อเสียงนานหมื่นปี

 

เขียนโดยเหวิน โม่อิ่ง

2-3 ปีที่ผ่านมาผู้คนเรียกร้องให้ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่จัดพิมพ์หนังสือประวัติส่วนตัวมากขึ้นทุกวัน แต่ท่านอาจารย์บอกว่า ท่านเองก็ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ดังนั้นจึงไม่ได้จัดทำ ความจริงแล้ว หนังสือบทกวีหลายเล่มของท่านอาจารย์เป็นการบันทึกครึ่งชีวิตแรก นอกจากเป็นข้อมูลอันล้ำค่าจากการเขียนครั้งแรก ไม่มีการยกยอสรรเสริญตามแบบบุคคลสำคัญ ทุกตัวอักษรออกมาจากใจจริง

ขณะที่ท่านอาจารย์อายุ 7 ขวบ เขียนบทกวีบทที่1 สามารถสังเกตได้ว่า มันได้แอบแฝงบทบาทต่างๆ ไว้—เน้นความรู้สึกจากประสบการณ์ชีวิตในช่วงเวลาต่างๆ แม้ว่าขณะนั้นท่านจะไม่ทราบว่า การเขียนไปตามอารมณ์นั้น บางครั้งก็รู้สึกเศร้าสร้อย บางครั้งก็รู้สึกโรแมนติก วันหนึ่งจะกลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของมวลมนุษย์

ปากกาของนักกวีซื่อสัตย์เสมอ มันจะซื่อตรงต่อความรู้สึกจากภายในใจที่มีทั้งความรักและความเจ็บปวด มันไม่หลีกเลี่ยงและไม่สนใจต่ออะไรทั้งสิ้น เพราะโลกแห่งบทกวีนั้นเป็นอิสระและบริสุทธิ์ แต่ว่าการเอาความลับส่วนตัวและประสบการณ์มาเผยแพร่ต่อผู้คนนั้นจะต้องมีความกล้าหาญพอสมควรอย่างแน่นอน แน่นอนจะต้องเริ่มจากเหตุแห่งความรัก สำหรับชาวโลกแล้ว การที่ท่านอาจารย์กรุณาให้จัดพิมพ์บทกวีหลายเล่มของท่าน ความจริงเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง มันทำให้พวกเราได้เข้าใกล้ความคิดที่กว้างใหญ่ไพศาลของนักบุญท่านหนึ่ง ให้พวกเราได้ฟังคำบรรยายที่เศร้าสร้อยถึงการมาพบกับความรักที่ไม่เหมาะกับกาลเวลา และได้รับสัมผัสกับความรู้สึกที่ท่านมีความสุขกับรักแท้ที่ท่านค้นพบ

ได้เห็นจิตอันประเสริฐที่ได้หลุดพ้นจากการผูกมัดแห่งโลกีย์ ในที่สุดเปล่งแสงแห่งจิตวิญญาณที่สดใส จากแผ่นกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวอักษรที่จรัสแสง ผู้อ่านเหมือนได้เห็นอนาคตของตัวเองที่เต็มไปด้วยสีแสงและความหวัง

สำหรับผู้ที่เดินตามความรักของพระเจ้าแล้ว หนังสือบทกวีของท่านอาจารย์ก็คือ “ระยะทางสู่อาณาจักรของพระเจ้า” บทประพันธ์ของจอห์น บันย่า และเป็นละครบทกวีโก๊ท เพลย์ ของ “ฟอสท์“ เธอบรรยายถึงความคิดถึงของมนุษย์ที่มีต่อสวนอีเด็น แสวงหารักแท้ เพื่อปลอบใจชาวโลกที่ไม่พอใจกับความทุกข์ยาก ต้องตกอยู่กับหลุมพรางมากมายจนพลาดรักแท้ที่ผ่านตัวไป

บทกวีของท่านอาจารย์ได้รับความชื่นชนอบจากชาวเอาหลัก และนักดนตรีจากประเทศต่างๆ พากันให้ทำนองและร้องสืบทอดไป(หมายเหตุที่ 1)เหตุเพราะในบทกวีนั้นได้บรรยายถึงอารมณ์แห่งความรักและความแค้นนั่นเอง สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องหลงใหลคือ การกลับมาคืนดีกันได้อย่างยอดเยี่ยมและพลังรักที่ไม่ขาดสาย เชื่อว่าต้องเป็นการฝึกเขียนบทกวีมาหลายภพชาติอย่างแน่นอน! เป็นเสน่ห์อันพิเศษของบทกวีเหล่านี้ เพราะมันทั้งบริสุทธิ์และไม่แสแสร้ง และเป็นเพราะได้ใส่พลังแห่งจิตวิญญาณลงไปด้วย ทำให้ผู้คนอ่านแล้วเกิดความเคารพต่อชีวิต ความคิดที่มืดมนได้ลอยจากไปแสนไกล

หวนคิดถึงทองนาค เป็นการเขียนถึงเรื่องจริงในสงครามที่เกิดขึ้นวัยเด็ก รวบรวมจดหมายที่ท่านอาจารย์เขียนถึงคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาวใหญ่ และคนรับใช้ เป็นบทกวีที่ล้ำค่ายิ่งที่แสดงออกถึงความรู้สึก และที่ได้เห็นได้ฟังมากับผู้คนตามถนนต่างๆ วิกฤติประเทศที่เป็นอยู่ นักกวีน้อยถามฟ้า ฟ้าไม่ตอบ จึงนำความหวาดกลัวประสาเด็กมาบรรยายเป็นตัวอักษร ระบายความรู้สึกบนแผ่นกระดาษ

ตั้งแต่เยาว์วัยท่านอาจารย์ก็มีจิตใจที่ชาญฉลาด และไม่ธรรมดา และมีความสามารถที่จะเติมเต็มในความรู้สึกที่ไม่พอใจ ขณะที่ตัวเองอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก นักกวีจึงต้องแบกหน้าที่ (ผู้แพร่เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก) อันสูงส่งไว้บนบ่า เธอขยันรดน้ำพรวนดินในสวนที่เป็นไร่ เพื่อให้ดอกไม้แห่งความรักเบ่งบานตลอดท่ามกลางหมู่คนและทั่วปฐพี และความคิดในจินตนาการอันสับสนในวัยสาวที่มีต่อความรัก การได้รับความหวานชื่นจากความรักในครั้งแรกได้ถูกบันทึกไว้ในหวนคิดถึงทองนาคทั้งหมด

หวนคิดถึงสิ่งที่พลาดจากไปเป็นประวัติความรักที่นักกวีในช่วงเจริญวัย จากการแอบรักถึงการชื่นชมซึ่งกันและกัน และความหวานชื่นสู่ความหลงใหล ตลอดจนถึงความเศร้าโศกที่ความรักนั้นต้องอับเฉาลง จากปากกาของนักกวีที่บรรยายได้อย่างหมดเปลือก พลังแห่งความรักได้บรรยายถึงคุณสมบัติที่มวลมนุษย์มีความภูมิใจที่สุด แต่ว่าขณะที่อ่านจบแล้ว เงยหน้าสู่ฟ้า ถอนหายใจใหญ่เสมือนหนึ่งในตัวอักษรได้มีข่าวสารอะไรบางอย่าง ความรักเป็นเพียงการเริ่มต้น เป็นเพียงเสียงดนตรีที่บรรเลงก่อนที่มวลมนุษย์จะเดินทางไปสู่จักรวาลแห่งความรักนั่นเอง! จากสิ่งที่พลาดจากไปและกลับสู่ความสงบแล้ว ปัญญาของชีวิตก็ได้ปรากฏออกมาอย่างแจ่มแจ้ง



เหมือนคนแปลกหน้า ฟ้าดินไม่ใยดี


ฟังลมหนาวสองฝั่งแม่น้ำเซียงในยามเที่ยง

แสงตะวันอ่อน ฝนเศร้าตกพรำพรำ


เรือแล่นกลับ เหตุใดไม่นำความรักเก่ามาให้?

......

 
ข้าพเจ้าร้องเรียกทั่วสารทิศฟ้า

ฉลองพร้อมกันทั่วทั้งจักรวาล


ข้าพเจ้าจุดไฟสีทองทั่วภูเขา


เมื่อฤดูหนาวมา วันพรุ่งนี้จะไม่หนาว

 


คัดจากบทกวี “เพลงรัก 1” หวนคิดถึงสิ่งที่พลาดจากไป
 <<
 >>
ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ