ฟอร์โมซา
[จั้งฮว่า] เพื่อให้เพื่อนบำเพ็ญเด็กๆ ได้สมหวังกับการเข้าร่วมงานค่ายฤดูร้อนของครอบครัว กวนอิม ที่รอคอยมาเป็นเวลานาน ศูนย์จั้งฮว่าจึงจัดงาน ค่ายหาประสบการณ์การใช้ชีวิตในสังคมเขตของเด็กวัยหนุ่มสาว บวกกับการเผยแพร่อุดมการณ์อาหารมังสวิรัติ ขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีทองปีที่ 3 (2549) รายละเอียดการจัดงานครั้งนี้สนุกสนานยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงแฝงคำสอนไว้อย่างสนุกกับดนตรี การเต้นรำ การละเล่นต่างๆ แล้ว ยังมีการสอนทำอาหารว่างแบบมังสวิรัติ การปั้นดินน้ำมันโดยทำกันเป็นครอบครัว เพื่อให้เด็กๆ และหนุ่มสาวที่เข้าร่วมงานได้ใช้เวลาของฤดูร้อนอย่างมีความสุขพร้อมมีความหมายด้วย
คืนวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม เพื่อนบำเพ็ญเด็กๆ ต่างมารายงานตัวอย่างสนุกคึกคัก มีเด็กๆ และหนุ่มสาวที่เป็นเพื่อนบำเพ็ญมารวมตัวกันประมาณ 40 คน เริ่มงานค่ายประสบการณ์เป็นเวลา 2 คืน 3 วัน สำหรับเด็ก ๆ ในสังคมเขตมาร่วมงานค่ายหาประสบการณ์ถูกจัดไว้ในช่วงเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม เพื่อนบำเพ็ญเด็ก ๆ หลังจากรอคอยพี่น้องในสังคมเขตทยอยเข้ามารายงานตัวแล้ว จึงร่วมกับเด็ก ๆ ในสังคมเขตฝึกวิธีการทำพิซซ่า อาหารที่เสียบเป็นไม้ และการทำผลไม้แช่แข็งต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อเป็นการต้อนรับเพื่อนที่มาจากสังคมเขต เพื่อนบำเพ็ญเด็ก ๆ ที่มีความสามารถ ต่างแสดงการดีดกีต้าร์ พร้อมร้องเพลงไป การบรรเลงดนตรี การเต้นรำ และการแสดงละครต่าง ๆ เป็นต้น ผู้ชมต่างถูกการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเพื่อนบำเพ็ญเด็กดึงดูดไว้ และปรบมือให้ไม่ขาดระยะ ในงานเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและคึกคัก กำนันและผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านซิ่วสุ่ยก็เดินทางมาร่วมงานด้วย กำนันนอกจากขอบคุณเพื่อนบำเพ็ญจัดงานค่ายหาประสบการณ์กับการเผยแพร่อาหารมังสวิรัติแล้ว ทั้งยังได้ให้การสนับสนุนเด็ก ๆ ในสังคมเขตที่เข้าร่วมงานด้วย
หลังจากงานเล่นน้ำที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะในตอนบ่ายผ่านไปแล้ว งานแสงเสียงตอนกลางคืนได้นำทุกคนเข้าสู่ความสนุกสูงสุด การอธิษฐานด้วยความซาบซึ้งคุณท่ามกลางแสงดาวในคืนนั้น เพื่อนบำเพ็ญเด็ก ๆ ต่างแบ่งปันความรู้จากการใช้ชีวิตและการบำเพ็ญ พวกเขาต่างแสดงความขอบคุณต่อท่านอาจารย์ พ่อแม่ เพื่อนบำเพ็ญจากใจจริง เมื่อได้ฟังคำเด็ก ๆ ที่กล่าวจากใจจริง ทำให้เพื่อนบำเพ็ญที่อยู่ในงานต่างรู้สึกดีใจและสนุกไปด้วย!
 |
เด็ก ๆ ต่างปั้นดินน้ำมันกันอย่างสนุกสนาน |
งานวันสุดท้ายเป็นงานที่สนุกที่สุด ตอนเช้าพี่น้องในสังคมเขตต่างมาร่วมงานอีก การสอนทำขนมปังกรอบและการปั้นดินน้ำมันก็ได้เริ่มขึ้น เด็กโตเด็กเล็กต่างตั้งอกตั้งใจทำตามที่ครูสอน ปั้นรูปที่ตัวเองชอบ ในจำนวนดังกล่าว รูปแบบสัตว์น่ารักได้รับความนิยมมากที่สุด เมื่อปั้นเสร็จ คุณครูได้กลัดลูกตุ้มปัญญาพจน์ที่ให้ความรักความเอาใจใส่ต่อสัตว์และอาหารมังสวิรัติด้วยเมตตาของท่านอาจารย์ไว้กับรูปปั้น ทำให้รูปปั้นดินน้ำมัน กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีในการเผยแพร่อาหารมังสวิรัติขึ้นมาทันที! จากนั้นได้มีงานที่ตื่นเต้นเร้าใจตามมาอีก เป็นการท้าทายความกล้าหาญและปัญญาของเด็กเล็กเด็กใหญ่ และเพิ่มมิตรภาพให้กับกลุ่มการเล่นต่าง ๆ ในการร่วมมือร่วมใจด้วย!
 |
 |
การปั้นรูปปั้นดินน้ำมันเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์อาหารมังสวิรัติ |
|
เมื่องานใกล้จะจบลง คุณเซ่ ตง หมิ่น ครูใหญ่โรงเรียนมัธยมหมู่บ้านซิ่วสุ่ย ที่ให้ความเป็นกันเองกับคณะพวกเรา มากล่าวคำปราศรัย พร้อมมอบรางวัลให้กับเด็กที่แสดงความกล้าหาญได้ดีเด่น คุณครูใหญ่เซ่กล่าวขอบคุณสมาคมนานาชาติที่มาจัดงานครั้งนี้ พร้อมชมเชยการแสดงที่ดีเด่นที่เต็มไปด้วยพละกำลัง และได้กล่าวสรรเสริญงานการกุศลกับอุดมการณ์อาหารมังสวิรัติด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์ มื้ออาหารกลางวัน พวกเราเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติทั้งหมดร่วมรับประทานอาหารมังสวิรัติที่หลากหลาย ครูใหญ่เซ่ชมความอร่อยของอาหารมังสวิรัติตลอดเวลา ทำให้คนประทับใจมาก เมื่องานเสร็จสิ้นลง เด็กๆ ต่างกล่าวถึงความสุขใจ และบอกว่าได้มีเพื่อนดีด้วย พร้อมได้เรียนรู้ประสบการณ์อันมีค่า และบอกว่าปีหน้าจะมาอีก!
 |
 |
คุ เซ่ ตง หมิ่น ครูใหญ่โรงเรียนมัธยม แห่งหมู่บ้านซิ่วสุ่ย |
|
- 1 วันในการเที่ยวซานเสียหม่านเว่หยวน
[ไทเป] เป็นความจริงที่ท่านอาจารย์กล่าวไว้ในหนังสือ เข้าใจสุขภาพ-กลับสู่ชีวิตธรรมชาติที่ถูกต้อง “เมื่อเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐ—พวกเราควรพัฒนาความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ทั้งหมดทั้ง 3 ส่วน…. กาย ใจ จิตวิญญาณ เพียงขาดส่วนหนึ่งส่วนใด พวกเราก็จะเป็นคนที่ไม่ได้พัฒนาตัวเองให้สมบูรณ์ และจะไม่มีความสุขอันสันติตลอดไป…”
วันที่ 7 สิงหาคม ปีทองที่ 3 (2549) เป็นช่วงปิดภาคร้อน เพื่อให้เพื่อนบำเพ็ญเด็ก ๆ มีความผ่อนคลายจากแรงกดดันในการบำเพ็ญและการเรียนหนังสือ เข้าสู่ธรรมชาติ เพื่อพัฒนากาย ใจ จิตวิญญาณ ศูนย์ไทเปได้จัดงานทัศนาจรพิเศษ การเดินทางเพื่อสุขภาพไปกับโลกด้วยกัน ชมธรรมชาติกับลักษณะพิเศษทางด้านกายภาพของสิ่งมีชีวิตที่ซานเสียหม่านเว่หยวน เพื่อให้เด็กๆ แห่งทะเลรักที่มีชีวิตอยู่ในเมืองมาสัมผัสกับทรัพยากรธรรมชาติที่ทรงคุณค่า อยู่ท่ามกลางป่าดงพงไพรที่เย็นสบาย มีความสุขอยู่กับพลังรักระหว่างพ่อแม่ลูกที่มาอยู่ร่วมกัน
ในวันงาน จากการนำพาของเพื่อนบำเพ็ญที่เป็นผู้ปกครอง 3 ท่าน มีจำนวนคน 37 คนอายุระหว่าง 5 ขวบถึง 67 ปี เดินทางด้วยรถทัวร์ไปถึงหม่านเว่หยวน คุณครูผู้อาสาที่มีประสบการณ์และอธิบายได้อย่างสนุกสนาน นำพาพวกเราเข้าสู่เขตป่าธรรมชาติ นำชมสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
 |
ทุกคนเดินชมไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ มองหาป่าเขาที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ความมหัศจรรย์ในการก่อเกิดสิ่งมีชีวิต และยอมรับแม่น้ำลำธารมีความสำคัญต่อพืชสัตว์ในการพัฒนาให้สมดุลกัน พวกเราอ่อนน้อมถ่อมตนเรียนรู้การเป็นผู้ชมป่าที่สูงส่งสง่างาม เรียนรู้การเคารพธรรมชาติ และรู้จักเรื่องราวของลักษณะพิเศษทางด้านกายภาพของสิ่งมีชีวิตและทรัพยากรป่าสีเขียว เช่น ทำไม ซานซูจึงเติบโตอยู่บนต้นไม้ ? ทำไมเกาะฟอร์โมซาจึงมีป่าไม้ฉำฉาที่สวยงาม? จะแยกเผือกป่าที่กินได้กับเผือกกูโผที่มีพิษได้อย่างไร?
จากความเย็นฉ่ำของลำคลอง ทุกคนไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ ต่างถอดรองเท้า ลงไปเล่นน้ำกลายเป็นเด็กๆ ที่ไร้เดียงสาทันที ขณะนั้นอาหารเที่ยงก็ส่งมาถึงพอดี ทุกคนจึงทานกันที่ริมคลองนั้น ตอนบ่ายพวกเราไปเที่ยวน้ำตกสาวกับน้ำตกหม่านเว่หยวน น้ำตกที่ไหลลงมาจากที่สูงมันสาดลงมาเต็มหุบเขาไปหมด ละอองน้ำพ่นใส่ผิวกายทุกคน ทำให้รู้สึกมีความสุขกับการชำระล้างของธรรมชาติ
แม้จะเป็นฤดูที่มีลมพายุ แต่ในวันงานอากาศโปรดโปร่งสบาย การเที่ยวหม่านเว่หยวนเป็นของขวัญที่พระเจ้าเมตตาประทานมาให้พวกเรา ทำให้การดำเนินชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยสีสัน! 
| << | สารบัญ | >> |
ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ  |
||
