ยุคมังสวิรัติ

 

เปลี่ยนไปสู่การกินที่มีเมตตา-จับตามอง จอห์น ร็อบบินส์
ผู้บุกเบิกแห่งอาหารมังสวิรัติ
 
♥♥♥♥♥

โดยกลุ่มข่าวฮ่องกง (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

หนังสือเรื่อง “อาหารสำหรับอเมริกาใหม่” โดยจอห์น ร็อบบินส์ แสดงให้เราเห็นว่าสุขภาพ ความสุข และอนาคตของชีวิตของเราบนโลกขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนไปสู่วิธีการกินที่มีเมตตาของเรา “คุณจะเห็นว่า นิสัยการกินที่สามารถให้ความแข็งแกร่งและสุขภาพที่ดีแก่คุณได้อย่างมาก เป็นนิสัยการกินแบบเดียวกันกับที่สามารถลดความเจ็บปวดทรมานอันไม่จำเป็นในโลกอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยปกป้องรักษาระบบนิเวศน์ของเราได้เป็นอย่างมาก” (อาหารสำหรับอเมริกาใหม่)

จอห์น ร็อบบินส์ เกิดในครอบครัวที่มั่งคั่งที่สุดครอบครัวหนึ่งในอเมริกา พ่อของเขาคือ เออร์วิง ร็อบบินส์ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารของบาสกินและร็อบบินส์ บริษัทไอศกรีมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของครอบครัว และได้รับการเลี้ยงดู และเตรียมตัวสำหรับงานรับช่วงต่อ และดูแลกิจการของครอบครัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาโตขึ้น เขาตัดสินใจที่จะละทิ้งวิถีชีวิตที่มั่งคั่งและทำตามจุดมุ่งหมายอันสูงส่งกว่าของเขา มันเป็นความฝันที่จะเคารพและอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์กับสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ เป็นความฝันที่ผู้คนจะมีชีวิตสอดคล้องกับกฎแห่งการสร้างสรรค์ และเป็นความฝันที่สังคมจะเลือกวิธีการใช้ชีวิตอันชาญฉลาดและมีเมตตา

หลังจากนั้น จอห์น ร็อบบินส์ก็ได้อุทิศชีวิตของเขาไปกับการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทานอาหารมังสวิรัติ ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นบุคคลที่มีสุขภาพที่ดีขึ้นและโลกที่ดีขึ้น เขาได้ก่อตั้งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร คือ "ปกป้องโลก"(Earth Save) และได้เขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับวิธีการใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ รวมถึงหนังสือที่ทรงอิทธิพลและเป็นที่นิยมคือ “อาหารสำหรับอเมริกาใหม่” ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกที่มีการค้นคว้าอย่างเต็มที่ในเรื่องมังสวิรัติ โภชนาการ และชีวิตของสัตว์

“ณ เวลาขณะนี้ เมื่อพวกเราส่วนใหญ่นั่งลงทานอาหาร เราไม่ได้ตระหนักมากนักว่าการเลือกอาหารของเรามีผลกระทบต่อโลกอย่างไร เราไม่ได้ตระหนักว่า ในทุก ๆ ชิ้นของบิ๊กแม็กมีป่าฝนเขตร้อน และทุก ๆ 1,000 ล้านชิ้นเบอร์เกอร์ที่ขายออกไป ก็มีตระกูลพืช อีก 100 ตระกูลได้สูญพันธุ์ไป เราไม่ได้ตระหนักว่า ในชิ้นสเต็กเนื้อของเรามีความเจ็บปวดทรมานของสัตว์ มีการขุดหน้าดินของเรา มีการทำลายป่าของเรา มีการทำร้ายเศรษฐกิจของเรา และมีการทำลายสุขภาพของเรา เราไม่ได้ยินในเสียงดังฉ่าถึงเสียงร้องของคนนับล้านที่หิวโหย ซึ่งอาจได้รับอาหารกิน เราไม่ได้เห็นยาพิษที่เป็นพิษซึ่งสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหาร เป็นพิษต่อลูก ๆ ของเราและโลกของเรา สำหรับลูกหลานในอนาคตของเรา” (อาหารสำหรับอเมริกาใหม่) ถ้อยคำและชีวิตของจอห์น ร็อบบินส์ ได้กระตุ้นคนจำนวนมากทั่วโลกให้ดำเนินชีวิตด้วยวิสัยทัศน์ที่สูงกว่าและด้วยความเมตตาที่ลึกล้ำมากขึ้น