รายงานจากคำสั่งและการจัดอันดับจากท่านอาจารย์

อูรูกวัย
♥♥♥♥♥♥

ประเทศที่ ปราศจากการสูบบุหรื่ อันดับแรก
ในอเมริกา

โดยกลุ่มข่าวฮ่องกง(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

.

วันที่ 1 มีนาคม ปีทองที่ 3 (2549) อูรูกวัยเป็นประเทศแรกที่ปราศจากการสูบบุหรื่ในอเมริกา

ในอูรูกวัย ประธานาธิบดี ทาแบร์ เวซเกซ ถูกเรียกว่าด็อกเตอร์เวซเกซด้วย โดยผู้ร่วมงานของเขาที่คลีนิค ทุกคนรู้ว่าประธานาธิบดีไม่เพียงแต่รับใช้คน 3.3 ล้านคนเท่านั้น แต่ดูแลคนไข้ของเขาด้วย ทุกวันอังคาร ด็อกเตอร์เวซเกซไปศูนย์วิเคราะห์เกี่ยวกับหน้าอกที่เขาสวมเสื้อกันเปื้อนสำหรับเด็กสีขาว พร้อมด้วยผู้ร่วมงานของเขาผู้ซึ่งทักทายเขาเป็น “ด็อกเตอร์” มากกว่า “ท่านประธานาธิบดี” ที่คลีนิค เขาอ่านเมมโมแกรมของคนไข้และให้ความเห็นของเขากับผู้ร่วมงานด้วย “เราชอบเลี่ยงการผ่าตัด เมื่อไรก็ตามที่เราสามารถทำได้ แต่สิ่งนี้กำลังเป็นที่ต้องการในการผ่าตัดเอาหน้าอกออก” ด็อกเตอร์เวซเกซกล่าว

ด็อกเตอร์เวซเกซฝึกหัดเวชกรรมประมาณ 36 ปี เขารักการดำเนินอาชีพดั้งเดิมของเขา “การฝึกหัดเวชกรรมไม่ใช่เป็นเพียงเกี่ยวกับอาชีพเท่านั้น มันให้โอกาสผมในการติดต่อโดยตรงกับคน ได้มองพวกเขาและได้ฟังความต้องการของพวกเขา” ประธานาธิบดีเวซเกซกล่าว

หลังเสร็จงานที่คลีนิคด็อกเตอร์เวซเกซกลับคืนสู่ทำเนียบของประธานาธิบดีและทำงานอื่นของเขาต่อ

เขายังคงจำชีวิตของเขาแบบนักศึกษาวิชาแพทย์ “ผมหลงรักทุกสาขาวิชาที่ผมเรียน ไม่ว่าจะเป็นประสาทวิทยา การแพทย์สาขาโรคระบบการขับถ่ายปัสสาวะหรือศัลยกรรม” แม้ว่ามันจะยากตั้งแต่เริ่มแรกสำหรับเขาที่จะเลือกเป็นพิเศษ เมื่อแม่และพี่สาวของเขาตายด้วยมะเร็ง เขาเริ่มมองเห็นว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาจะตัดสินใจตัวเลือกของเขา

ในโรงเรียนแพทย์ การได้เรียนต่อเนื่องของเขาขึ้นกับทุนรัฐบาล “ผมเห็นคนจนจ่ายภาษีอย่างไรและนั่นทำให้ผมและหนุ่มสาวอื่น ๆ เล่าเรียนได้” เขากล่าว “ดังนั้น ผมรู้สึกถึงข้อผูกมัดอย่างแรงกล้าที่จะรับใช้สังคม” เขาเลือกที่จะทำงานให้คนจนเป็นแพทย์ด้านวิทยาเนื้องอก และตัดสินที่จะเป็นศาสตราจารย์ของ เรื่องการรักษาโรคด้วยรังสีที่มหาวิทยาลัยของโรงเรียนแพทย์สาธารณรัฐ

ในปี 2532 เขาเข้าแข่งขันเป็นนายกเทศมนตรีของมอนติวิดีโอ เขาคิดว่า ถ้าเขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้ เขาจะกลับคืนไปฝึกหัดทางการแพทย์ที่มีมาแต่เดิมของเขา แต่เขาชนะ เขากลายเป็นคนเด่นที่ท่าทางดีที่สุดของพรรคการเมืองสังคมนิยม(Broad Front)ของอูรูกวัย หลังจากนั้น 10 ปีในการรับใช้เป็นนายกเทศมนตรี เขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของอูรูกวัย

“เป็นเพราะการแพทย์และการอบรมซึ่งเกี่ยวกับลัทธิ ผมถูกฝึกให้เคยชินกับการพูดว่า ชีวิตคือการทำให้เหมาะ และการอยู่ร่วมกันซึ่งต้องอาศัยซึ่งกันและกัน” ด็อกเตอร์เวซเกซกล่าวว่า “การรู้ว่าชาวอูรูกวัยรู้สึกอย่างไร เราที่อยู่พรรคการเมืองสังคมนิยม สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในการอภิปรายของเราเสมอ แต่การเปลี่ยนจะต้องเกิดขึ้นชะลอไปกับฝีเท้าของชาวอูรูกวัย สิ่งนี้คือสังคมที่ถูกวัดและสำคัญ ท้าพนันบนความเปลี่ยนแปลง ใช่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้องตามหลักเหตุผลและค่อยเป็นค่อยไป”

ในถานะด็อกเตอร์โดยอาชีพ ประธานาธิบดีเวซเกซรู้ดีว่า การใช้ยาสูบเป็นอันตรายต่อผู้คน “ผู้ที่ไม่ได้สูบโดยตรงก็เชื่อมต่อกับโรคเรื้อรังและการตายเมื่อยังไม่ถึงเวลาอันควรด้วย เพราะไม่มีระดับที่ปลอดภัยให้เห็นได้ สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำคือ การประกาศห้ามสูบบุหรื่ในสถานที่ที่อยู่ภายในที่กำหนด” ด็อกเตอร์เวซเกซกล่าว ว่า “ใกล้ ๆ ปี 2563 จะมีผู้คนล้มตายจากมะเร็งมากกว่านี้ในประเทศที่ด้อยพัฒนากว่าในโลกที่พัฒนาแล้ว เว้นแต่เราจะเริ่มด้วยนโยบายที่มีไหวพริบในยาสูบ สินค้าทางเคมีและอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ประเด็นคือการทำให้ตัวเลขของความตายจากมะเร็งน้อยลง และลดความต้องการในระบบสุขภาพ” เขากล่าว

เขาตัดสินใจที่จะผูกมัดตัวเองในการควบคุมยาสูบในการรับหน้าที่ตำแหน่งประธานาธิบดี ในอันดับแรก เฉลิมฉลองวันโลกไร้ยาสูบในอูรูกวัย รัฐบาลสร้างโปรแกรมควบคุมยาสูบ และในวันที่ 1 มีนาคม 2549 ประธานาธิบดีเวซเกซได้ออกคำสั่งปราศจากการสูบบุหรี่ ที่ซึ่งรวมถึงการห้ามการสูบในที่สาธารณะและสถานที่ทำงานส่วนตัว

ในการที่จะช่วยส่งเสริมแผน ประธานาธิบดีเวซเกซทำการรณรงค์ที่เรียกว่า “ล้านขอบคุณ” ที่รวมการหาลายเซ็นต์ตลอดจนใบปลิว โทรศัพท์และเว็บไซต์ฟรี ในการขอบคุณผู้ที่ละเว้นจากการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ หาได้มากกว่าหนึ่งล้านลายเซ็นต์

การเฉลิมฉลองวันโลกไร้ยาสูบในปี 2549 ได้จัดการรณรงค์ “ปราศจากการสูบบุหรี่อูรูกวัย” สนับสนุนโดยกระทรวงสาธารณะสุขของรัฐบาล ในกรณีนี้ได้ใช้หนังสือเล่มเล็ก ๆ โทรทัศน์ และรายการวิทยุ และโปสเตอร์ ในการให้การศึกษาผู้คนเกี่ยวกับผลประโยชน์ของการไม่สูบบุหรื่ และการช่วยพวกเขาสำนึกความสำคัญของการสร้างสิ่งแวดล้อมปราศจากการสูบบุหรี่

ท่านอาจารย์ชิงไห่ได้แบ่งปันปัญญาของท่านกับเราว่า สิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่สามารถส่งผลอย่างไรกับวิถีทางการดำเนินชีวิตและนิสัยของเรา “สิ่งดี ๆ ที่ออกมาจากด้านบวกของธรรมชาติของเรา สิ่งไม่ดีที่ออกมาจากด้านลบ โดยมากเมื่อเรามาที่นี่ เรายืมด้านลบจากผลกระทบสิ่งแวดล้อม อิทธิพล และนิสัยที่เราเรียนจากผู้คนที่เราอยู่ด้วย บริษัทที่เราอยู่ เหมือนเช่น เธอไม่ได้เกิดมาเป็นคนสูบบุหรื่ หรือคนติดสุรา เธอเรียนมันจากสังคม สูบบุหรื่หนหนึ่งกลายเป็นสิ่งที่เคยชินเป็นนิสัยที่ไหนก็ตามที่เธอเห็นบุหรื่ เธอต้องการมัน และเมื่อเธอไม่เห็นบุหรื่ มันยังคงอยู่ในใจเธอ เธอต้องการสักมวน หรือเธอต้องการของเหลวเป็นแอลกอฮอล์มากกว่าหนึ่งแก้ว มันเป็นเพราะเธอติดนิสัยนี้ เธอไม่ได้เกิดมากับมัน” (กล่าวโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา วันที่ 6 กันยายน 2537 ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ ธรรมสารฉบับที่ 48 ส่วนคำถามและคำตอบ)

ดังนั้นมันสำคัญที่เราจะสร้างสิ่งแวดล้อมทางบวกมากกว่านี้สำหรับผู้คน โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพื่อช่วยเขาพัฒนานิสัยที่ดีและวิถีทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง

ผู้สนับสนุนด็อกเตอร์เวซเกซอธิบายถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำข้อตกลงของเขาเหมือนใครบางคน ดังราฟาเอล ไมเคิลลิน “ชอบสร้างการร่วมมือกันและไม่ปล่อยใครก็ตามไว้ข้างถนน บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นด็อกเตอร์ เขาถ่อมตนเสมอและชอบที่จะคุ้มครองสิ่งมีชีวิตหรือสถานการณ์มากกว่าจะเก็บเกี่ยวเกียรติยศส่วนตน”

เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในด้านทางการแพทย์และการเมืองของเขา ด็อกเตอร์เวซเกซกล่าวว่า “ผมไม่เห็นว่าการทำงานใน 2 ขอบเขตนี้ทำให้มีบุคลิกภาพแบบแตกแยก เพราะทั้ง 2 เป็นรูปแบบของการรับใช้สังคม สำหรับผมการเมืองเป็นการขยายอะไรที่ผมทำในแพทย์ศาสตร์ แต่สังคมเป็นองค์กรเกี่ยวกับมนุษย์ และการเมืองเป็นแนวทางในการจัดการกับลักษณะอาการ และสมุฏฐานของโรคที่สังคมมี คุณต้องทำให้เกิดผลกับสังคมราวกับที่คุณจะทำในการเป็นมนุษย์ ”.

(รายงานนี้มาจากพ้นฐานของบทความในนิวยอร์กไทม์ วันที่ 31 สิงหาคม 2549)

เว็บไซต์:

http://fromuruguay.blogspot.com/2006/03/uruguay-first-smoke-free-country-in.html http://www.infoplease.com/ipa/A0108124.html
http://dominionpaper.ca/international_news/2006/03/14/uruguay_im.html