รายงานตามคำสั่งและการจัดอันดับของท่านอาจารย์

 

ประเทศยุโรปพยายาม
ต่อต้านโลกร้อนที่เกิดขึ้นทั่วโลก

รายงานโดยกลุ่มข่าวไทเป ฟอร์โมซา (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

*สหราชอาณาจักร

 

รัฐบาลอังกฤษได้ออกแถลงเตือน เรียกร้องประเทศต่าง ๆ ต้องทำการลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจก เพราะว่าระยะยาวแล้ว มันจะเป็นบทเรียนราคาต่ำสุดที่ไม่ยอมทำอะไรเลย

ผู้ใหญ่อดีตธนาคารโลก นักเศรษฐศาสตร์กับนักวิทยาศาสตร์ คุณนิโคลัส สเตรน ได้กล่าวในงานประชุมที่ประเทศแม็กซิโกเหนือว่า การพัฒนาทรัพยากรพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือด้านสิ่งแวดล้อมต่างมีความหมายมาก เขาได้เรียกร้องเช่นกันว่า “การกระทำยิ่งช้าออกไป ยิ่งเพิ่มราคาบทเรียนแพงมากขึ้น!”

ผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อมคุณเดวิด มิลิแบนด์ แห่งอังกฤษ จัดประชุมครั้งนี้ รายงานว่า “ต้องรีบดำเนินการ เพื่อป้องกันอากาศเปลี่ยนแปลงอีก เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก ไม่ต้องคำนึงถึงชีวิตมนุษย์ กับบทเรียนราคาแพงของสิ่งแวดล้อม สำหรับบทเรียนทางเศรษฐกิจ มันเกินทุนการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแล้ว!”

การประชุมที่มอนเทอร์รี ประเทศแม๊กซิโก ครั้งนี้ มีรัฐมนตรีพลังงานกับสิ่งแวดล้อม 20 ท่านจากประเทศที่แผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจก ในที่ประชุมยึดหลักการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาศาสตร์ ขยายไปถึงอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญส่วนมากเชื่อว่า สถานการณ์อุณหภูมิโลกร้อนมาจากเหตุการเผาน้ำมันดิบ ไม่ใช่การหมุนเวียนจากธรรมชาติตามปกติ ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า แม้ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 1เมตรเหมือนกับบังกราเทศที่เป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่ง จะมีประชากรหลายล้านคนต้องถูกย้ายที่

จากกรมการบินกับกรมอวกาศนาซ่าแห่งสหรัฐปี 2548 เป็นปีที่ผิวโลกร้อนที่สุดนับจากปี 2503 และจากการคำนวณของกรมอุตุวิทยาใหม่ล่าสุดได้บ่งบอกว่า ถึงปลายศตวรรษนี้ อุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นอีก 3 องศาเซลเซียส สามารถทำให้เกิดภัยน้ำท่วม แห้งแล้งกับการขาดอาหารได้

บุคคลสำคัญต่างประเทศอังกฤษ คุณมาร์กาเรต เบคเกตต์ กล่าวว่า สำหรับโลกที่กำลังพัฒนา อากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะผู้คนจะแย่งชิงแหล่งน้ำกับพืชพรรณธัญญาหารกัน เธอได้กล่าวถึงการเกิดความขัดแย้งในเขตดาร์เฟอร์ ส่วนหนึ่งมาจากการแย่งชิงแหล่งน้ำกับพืชพรรณธัญญาหารกัน

ฝรั่งเศส

 

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ดอมินิคิว เดอ วิลเลพิน ได้ประกาศ "สัญญารักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศ" ขึ้นหนึ่งฉบับ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ปีทองที่ 3 (2549) เสนอจำนวนเงิน 10,000 ล้านยูโร (12,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับครอบครัวและบริษัทเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการลดพลังงาน

ดอมินิคิว เดอ วิลเลพิน กล่าวในงานให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า “สัญญานี้รวมเอาผู้คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ประชาชน บริษัท องค์การจัดตั้ง รัฐบาล มันจะทำให้แต่ละคนมีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อม” เขายังสัญญาว่าจะดำเนินการเพื่อสนับสนุนใช้เชื้อเพลิงที่แผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจกต่ำ และจะเก็บภาษีถ่านหินด้วย

เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงน้ำมันดิบของฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศสจะเพิ่มปั๊มน้ำมันที่เติมแอธธานอลเป็นหลัก เพื่อลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจก นอกจากนี้ ฝรั่งเศสจะทุ่มเงินประมาณ 100 ล้านยูโร (127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อวิจัยรถยนตร์ผสม เงินจำนวนดังกล่าวจะเริ่มจ่ายในเดือนมกราคม ปีทองที่ 4(2550) เงินจำนวน 10,000 ล้านยูโร ที่โครงการประหยัดพลังงานต้องการนั้น มาจากบัญชีสะสมทรัพย์โคดีวี (Codevi เป็นบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติที่ถือสัญชาติฝรั่งเศส)ดอกเบี้ย 2.75% ต่อปี ปัจจุบันเงินฝากแต่ละคนถูกจำกัดที่ 4,600 ยูโร (5,767 ดอลลาร์สหรัฐ)

เพื่อเป็นโครงการสะสมเงินพิเศษ เงินฝากจำกัดเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ยูโร (7,522 ดอลลาร์สหรัฐ)ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ดอมินิคิว เดอ วิลเลพิน กล่าวว่า “จุดมุ่งหมายของเรา คือ การเอาเงินฝากประชาชนฝรั่งเศสทั่วประเทศมาช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม”

นอร์เวย์

 

นอร์เวย์เป็นประเทศส่งออกน้ำมันดิบอันดับ 3 ของโลก คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยรัฐบาลนอร์เวย์กล่าวว่า ทางประเทศสามารถลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจกเป็น 80% ก่อนปี 2593 และไม่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย

“การตัดไอเสีย…เป็นเรื่องสำคัญมาก มันสามารถทำได้และราคาถูกมาก” ประธานคณะกรรมการอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ สถาบันบริหารจัดการคุณจอร์เกน เรนเดอร์ กับบุคคลสำคัญรักษาสิ่งแวดล้อม คุณเฮเลน บจอร์นอย์ ต่างกล่าวในงานให้สัมภาษณ์นักข่าว

เพื่อเป็นการรณรงค์ลดการเปลี่ยนแปลของอากาศ คณะกรรมการได้ออกกฏ 15 ข้อมาดำเนินการ สามารถลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจก 50-80% ก่อนปี 2595 ประกอบด้วยอังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน และแคริฟอร์เนีย แห่งสหรัฐอเมริกา กำลังวางโครงการลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซในเรือนกระจกจากโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรม และรถยนต์

ในระยะยาว การลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซจะเกินการกำหนดลดของหนังสือสัญญาเกียวโตโปรโตคอลของสหประชาชาติ จากหนังสือสัญญาสหประชาชาติอุตสาหกรรม 35 ชาติรวมทั้งนอร์เวย์ จะลดการแผ่ความร้อนจากก๊าซเรือนกระจกระหว่างปี 2551-2555 ซึ่งเทียบกับปี 2532 ได้น้อยลงกว่า 5.2%

หลายรัฐบาลกังวลว่า การลดครั้งใหญ่เป็นบทเรียนราคาสูง แต่จอร์เกน เรนเดอร์คิดว่า เทียบกับการคำนวณเศรษฐกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับอากาศเปลี่ยนแปลง คณะกรรมการเสนอบัญญัติใน 40 กว่าปีนี้ กับการผลิตภายในประเทศนอร์เวย์(GDP)กระทบไม่ถึง 0.5%

นอกจากนี้แล้ว จากการประหยัดพลังงานด้านอื่น ๆ ประกอบกับอุณหภูมิจากสิ่งก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพดีกว่าสามารถลดต้นทุนได้ และการวิจัยจะจับถ่านคาร์บอนอย่างไร สามารถทำให้ประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

บุคคลสำคัญการรักษาสิ่งแวดล้อมคุณเฮเลนกล่าวว่า การระบายความร้อนจากแก๊สจากห้องอบอุ่นเฉลี่ยสูงของทุกคนเหมือนประเทศนอร์เวย์ที่ร่ำรวย เทียบกับประเทศจีนที่กำลังพัฒนา เป็นการนำการเริ่มต้นทางความรับผิดชอบด้านคุณธรรม เธอกล่าวว่า แม้ขณะนี้จะห่างจากจุดมุ่งหมายอีกไกล แต่การผลิตน้ำมันดิบของนอร์เวย์วันละ ประมาณ 3,000,000 บาร์เรล เป็นประเทศส่งออกน้ำมันดิบเป็นอันดับ 3 ของโลก สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือปี 2555 ตามหนังสือสัญญาเกียวโตโปรโตคอลได้

มูลนิธิธรรมชาติของโลก(WWF) องค์กรรักษาสิ่งแวดล้อม ขอร้องอย่างแรงต่อนอร์เวย์เพื่อให้คณะกรรมการยอมรับข้อเสนอ พวกเขากล่าวว่า แม้แต่บริษัทน้ำมันดิบของนอร์เวย์ เช่น สเตทออยล์และนอร์ก ไฮโดร ต่างกำหนดให้รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อลดอุณหภูมิทั่วโลก

เว็บไซต์อ้างอิง :

1.http://today.reuters.co.uk/news/articlenews.aspx?type=topNews&storyID=
2006-10-04T002458Z_01_N03258792_RTRUKOC_0_UK-ENVIRONMENT-WARMING.xml

2.http://www.planetark.com/dailynewsstory.cfm/newsid/38382/story.htm

3.http://today.reuters.co.uk/news/articlenews.aspx?type=
scienceNews&storyID= 2006-10-04T143858Z_01_L04522073_RTRIDST_0_SCIENCE-
ENVIRONMENT-NORWAY-DC.XML&