ยุคมังสวิรัติ

นโยบายอาหารมังสวิรัติของโรงเรียนชั้นประถมคุนซานกั๋วเสี่ยว
เพื่อเพิ่มการพัฒนาสุขภาพเด็กให้แข็งแรงสมบูรณ์ทุกด้าน
รายงานโดยกลุ่มข่าวฟอร์โมซา (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

ไถหนัน ฟอร์โมซา โรงเรียนคุนซานกั๋วเสี่ยวจัดอาหารเที่ยงเป็นมังสวิรัติที่ครบสารอาหาร เมื่อปีทองที่ 1 (2547) ครูและนักเรียน 3,000 คน ทานอาหารมังสวิรัติเที่ยงเดือนละ 2 ครั้ง จัดทำมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี การกระทำดังกล่าวได้รับการชมเชยอย่างดีจากหน่วยงานต่าง ๆ และดึงดูดโรงเรียนที่อยู่นอกอำเภอมาเยี่ยมชมเรียนรู้กัน

 

ปรับปรุงอาหารการกิน ทางโรงเรียนจ้างนักโภชนาการมาเป็นครั้งแรก

 
คุณครูใหญ่ เฉินไท่เสียน

4 ปีก่อน คุณครูใหญ่ คุณเฉินไท่เสียนทำงานด้านการศึกษามาเป็นเวลา 30 ปี มาถึงโรงเรียนคุนซานกั๋วเสี่ยว อุดมการณ์การปกครองนักเรียนของเขาคือ การให้เด็กมีความแข็งแรงสมบูรณ์ มีความสุข และมีความหวัง เขาบอกว่า วิถีแห่งความสมบูรณ์แข็งแรงต้องปรับปรุงที่อาหารการกิน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงสมบูรณ์ให้กับเด็ก เขาไม่สนใจรายได้ไม่พอจัดอาหารมื้อเที่ยงที่ครบสารอาหาร โดยจ้างนักโภชนาการคนแรกของโรงเรียนมาที่โรงเรียน สิ่งที่บังเอิญคือ นักโภชนาการ เหลียนจุ้นชิน คนนี้ เป็นลูกศิษย์ของคุณครูใหญ่เฉิน เมื่อ 20 ปีก่อน ดังนั้น ครูและศิษย์จึงจับมือกันสร้างสวนแข็งแรงสมบูรณ์ให้กับเด็ก

คุณเหลียนจุ้นชิน เรียนวิชาอาหารจากมหาวิทยาลัย เขาบอกว่าปัจจุบัน วิชาสารอาหารที่ทางโรงเรียนสอน มันจำกัดจากการใช้วิชาวิทยาศาสตร์ทางทิศตะวันตก มาวิเคราะห์ส่วนประกอบของอาหาร โดยไม่สนใจต่อความคิดในการดำรงชีวิตด้วยยาสมุนไพรของทางทิศตะวันออก ผลจากอาหารของตะวันตก ทำให้บริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป และเกิดป่วยเป็นโรคเรื้อรังหลายชนิด เขาเคยอ่านหนังสือ "อาหารการกินแบบใหม่ของดาวกลุ่มหนึ่ง" เขียนโดยฟรานซีส มัวร์ เลปเป้ และ แอนนา เลปเป้ ในหนังสือได้พูดถึงความสำคัญของอาหารมังสวิรัติ และสิ่งแวดล้อมของระบบนิเวศวิทยา การอดอยากทั่วโลกสืบเนื่องมาจากการบริโภคเนื้อสัตว์ สร้างความตื่นตระหนกกับการได้รับความรู้

 

การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ทานเพื่อสุขภาพ และลดค่าใช้จ่าย

 
เด็กที่ทานมังสวิรัติไม่ปรากฏการเจริญเติบโตถูกเร่งให้เร็วขึ้น ผิวพรรณก็ดีกว่า

การปรับปรุงสุขภาพก้าวแรก ต้องลดอาหารจำพวกทอดน้ำมัน เพิ่มผักผลไม้แทน การปรุงอาหารต้องลดน้ำมันลงด้วย และราคาของผักผลไม้ถูกว่าเนื้อสัตว์มาก ดังนั้น จึงลดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะลดน้ำมันทอด การปรุงอาหารจากพืชผักก็ง่าย และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมห้องครัวที่คุณแม่ทำงาน การทำความสะอาดห้องครัวก็ง่าย

จากการจ้างนักโภชนาการมา 3 ปี คุณครูใหญ่พบว่า มีเด็กทานมังสวิรัติตลอด 60 คน จึงกำหนดทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของเดือน อาหารเที่ยงทั้งโรงเรียนบริการอาหารมังสวิรัติ เนื่องจากครูและนักเรียนมีความเคยชินในการทานผักผลไม้มาเป็นเวลา 2 ปี บวกกับนักโภชนาการที่เชี่ยวชาญในการผสมผสาน ดังนั้น เกือบไม่มีปัญหาเรื่องปรับตัวไม่ได้เลย ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายเดิมทีที่ขัดสนนั้น มีเงินเหลือพอซื้ออาหารเพื่อสุขภาพอื่น ๆ มาให้กับครูและนักเรียนทานกัน

 

การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อารมณ์ ผลการเรียนก็ดีขึ้น

 
นักโภชนาการ เหลียนจุ้นชิน (ซ้าย1) อยู่ร่วมกับเด็กทานมังสวิรัติ นักโภชนาการกับคุณแม่ห้องครัวที่ปรุงอาหารมังสวิรัติให้กับเด็ก

คุณเหลียนจุ้นชิน นักโภชนาการกล่าวว่า ทางโรงเรียนเลือกให้ทานมังอาหารมังสวิรัติ ไม่เพียงลดต้นทุนได้ ยังป้องกันโรคไข้หวัดนก หมูป่วยตายที่ทำให้เกิดปัญหาอาหารการกินได้อีกด้วย เขากล่าวว่า การดูดซึมโปรตีนของคนสามารถได้มาจากถั่วที่มาจากพืช พ่อค้าฉีดยาเร่งเติบโตให้กับสัตว์ เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์มากและเร็ว เพื่อจัดหาให้กับความต้องการของตลาด จากการกระทบดังกล่าว เด็กที่บริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป การเจริญวัยของพวกเขาก็ถูกเร่งให้เร็วขึ้นไปด้วย อารมณ์จะไม่มั่นคง การศึกษาก็จะพบกับปัญหา เขาสังเกตเด็กที่ทานมังสวิรัติตลอดในโรงเรียนไม่มีปัญหาด้านนี้
เด็กที่ทานมังสวิรัติได้รับการยกระดับทุกวิชา การแข่งขันกับโรงเรียนอื่นก็มีคะแนนดีเยี่ยม

ครูใหญ่เฉินก็สังเกตเห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมาที่นำพาเด็กนักเรียนทานผักผลไม้ ทานเนื้อสัตว์น้อยลง เด็กอ้วนทางโรงเรียนได้ลดจำนวนลง เด็กเจ้าอารมณ์ก็น้อยลงด้วย นักเรียนทั้งโรงเรียนได้รับการพัฒนาทุกด้าน ทั้งวิชาภาษา วิทยาศาสตร์ กีฬา เช่น การแข่งขันตีแบดมินตันได้รับรางวัลที่ 1 มา 2 ครั้งทั่วประเทศ การแข่งขันวิชาภาษาก็ได้ยอดเยี่ยม ครูใหญ่เฉินกล่าวว่า ต่อไปจะเพิ่มวันทานอาหารมังสวิรัติให้มากขึ้น

คุณครูที่ย้ายไปสอนอยู่ที่โรงเรียนอื่น กลับมาสอบถามเรื่องวิธีให้อาหารมังสวิรัติรอบเที่ยง เหลียนจุ้นชินกล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ประสบความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดคือ คุณครูใหญ่ที่กล้าวางนโยบายที่ถูกต้อง และทำประโยชน์ให้ไว้หลายอย่าง!

ครูและนักเรียน 3,000 คนทานอาหารมังสวิรัติเดือนละ 2 วัน แต่ละปีทำให้สัตว์พ้นจากความตายได้มากมาย หวังว่าโรงเรียนอื่น ๆ สามารถทำตาม เพื่อลดปัญหาความอดอยากทั่วโลก และรักษาสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศวิทยาได้ พร้อมยกระดับจิตสำนึกของโลกด้วย

จากภาพที่เด็ก ๆ วาดไว้แสดงออกถึงโลกที่อยู่ร่วมกับสัตว์ได้อย่างสันติ