ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิ่งไห่ 30 กันยายน 2549 ฌาน 4 วัน ฉันปรารถนาที่จะให้ทั้งโลกพูดเพียงหนึ่งภาษา มันคงจะสะดวกกว่าที่มีหนึ่งภาษา แต่ก็ให้มีภาษาท้องถิ่นด้วย ฉันเขียนจดหมายถึงประธานรัฐสภาของสหภาพยุโรป ฉันชมเชยยกย่องความสำเร็จทั้งหมดของสหภาพยุโรป ความมีน้ำใจทั้งหมดและนโยบายที่งดงามทั้งหมด ที่ช่วยทำให้ยุโรปเป็นสถานที่ดีกว่า มีสวัสดิการดีกว่าให้กับประชากรจำนวนมาก สหภาพยุโรปนี้ดี สมาชิกของสหภาพยุโรปทำเต็มกำลังเพื่อมนุษยธรรม พวกเขาดูแลทุกสิ่งที่พวกเขาสามารถทำจริง ๆ ดังนั้น ฉันจึงยกย่องพวกเขาสำหรับสิ่งนั้น เพราะว่าพวกเขาช่วยเหลือประเทศด้อยพัฒนาหลายประเทศ แล้วฉันก็บอกว่า ในความเห็นที่ถ่อมตนของฉัน มันน่าจะดีขึ้นอีกมาก ถ้าอย่างน้อยที่สุดประเทศสมาชิกยุโรปทั้งหมดเรียนหนึ่งภาษา นอกเหนือจากภาษาพื้นเมือง ฉันไม่ใด้บอกให้ละทิ้งภาษาพื้นเมือง เพราะว่าประเทศยุโรปมีภาษามากมาย และพวกเขาก็ยังประสบความสำเร็จมากมาย ถ้าเธอลองคิดดูว่า ถ้าประเทศสมาชิกทั้งหมดพูดเพียงภาษาเดียว? มันน่าจะง่ายต่อการเข้าใจซึ่งกันและกัน และน่าจะทำการตัดสินใจใด้เร็วขึ้น ตามความคิดของยุโรป พวกเขาต้องการความเป็นหนึ่งเดียวในหลายหลายแบบ พวกเขานับถือทุกวัฒนธรรมและทุกภาษา ซึ่งเป็นความงดงามอย่างยิ่ง ฉันไม่เคยใด้ยินอะไรที่งดงามไปกว่านั้น แต่เราสามารถรักษาวัฒนธรรมของเราและเรียนเพิ่มอีกหนึ่งภาษา ถึงอย่างไรเราก็ได้ใช้มัน พวกเขาพูดภาษาอังกฤษอยู่แล้วในรัฐสภาและที่อื่น ๆ ทำไมจึงไม่เลือกเพียงหนึ่งภาษา? พวกเขาอาจจะเลือกโดยการลงคะแนน ฉันได้เขียนในจดหมายของฉัน "เราสามารถลงคะแนนเลือกหนึ่งภาษาแบบเปิด" ให้ทุกคนสามารถลงคะแนนได้ เพื่อว่ายุโรปจะได้ไม่ดูเหมือนแบ่งแยก อย่างเช่น เลือกภาษาอังกฤษอันดับแรก และภาษาโปแลนด์หรือฝรั่งเศสรองลงมา เราอาจจะลงรายชื่อภาษาทุกภาษา และดูว่าภาษาไหนที่คนส่วนมากลงคะแนน และก็เลือกภาษานั้นให้เป็นภาษาทางการสำหรับยุโรปและที่เหลือก็เหมือนเดิม โดยวิธีการนั้นเรายังคงสามารถสื่อสารต่อกันง่ายขึ้น เมื่อเธอเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เป็นเด็ก เธอจะพูดเหมือนคนอังกฤษ มันง่ายกว่า และเธอต้องการสื่อสารกับชาติอื่นใด เธอสามารถเรียนความงดงามของชาตินั้นโดยที่มีความเข้าใจกันอยู่แล้ว มันจะง่ายกว่าโดยวิธีนั้น ในความเห็นที่ถ่อมตนของฉัน เพราะว่าให้เราเผชิญความจริงที่ว่า แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุดก็ไม่สามารถเรียนทุกภาษาในชั่วชีวิตของเขา ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะนับถือทุกวัฒนธรรมและทุกภาษามากอย่างไร หรือว่าอยากที่จะสามารถพูดได้ทุกภาษา มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ข้อแรกเธอยุ่งอยู่กับหลาย ๆ อย่าง ข้อที่ 2 สมองของเธอมีความสามารถจำกัด และเหนืออื่นใดคือเวลา ชีวิตนั้นสั้น นั่นทำไมฉันจึงชักชวนให้เธอทุกคนเรียนภาษาอังกฤษ แม้ว่าจะไม่ได้โดยการลงคะแนนให้เป็นภาษาราชการในยุโรป หรือสหภาพอื่น มันง่ายกว่า มันเป็นสากลกว่า ดังนั้น เราไม่ต้องลงคะแนน เราแค่เรียนภาษาอังกฤษ เธอคิดว่าอย่างไร? (ทุกคนปรบมือ) ฉันลงคะแนน ๆ เดียวเท่านั้น (ท่านอาจารย์หัวเราะ)
ตัวอย่าง มันจะเป็นการง่ายกว่า ถ้าฉันพูดภาษาอังกฤษกับชาวเปรู แล้วก็ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจภาษาเปรู เขาสามารถเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับความงามของประเทศเขาเป็นภาษาอังกฤษ ฉันก็สามารถเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับความงามของประเทศฉันเป็นภาษาอังกฤษ เราก็เริ่มจากที่นั่น ถ้าเริ่มต้นมิตรภาพด้วยภาษาเดียวกัน แล้วฉันก็จะเรียนรู้ภาษาเปรูเพิ่มขึ้น หรือเขาก็จะเรียนรู้ภาษาเอาหลากเพิ่มขึ้น ถ้าเขาเลือกและเขามีเวลา เขาอาจจะเลือกเรียนภาษาโปแลนด์แทน ฉันก็ไม่เคืองใจ หรือเขาอาจจะเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อที่จะรู้วัฒนธรรมฝรั่งเศส ฉันก็จะไม่รู้สึกว่าถูกดูหมิ่น เพราะว่าฉันก็ยังมีความเข้าใจเขาด้วยภาษาอังกฤษ ฉันไม่เห็นจะมีปัญหาใดในการพูดภาษาสากลหนึ่งภาษาและเรียนภาษาพื้นเมืองอื่นตามแต่จะเลือก เรียนมันตั้งแต่ยังเป็นเด็กในโรงเรียนและให้ทุกประเทศมีสองภาษา ภาษาทางการและภาษาท้องถิ่น ถ้าว่าเธอมีความเข้าใจภาษาสากลนี้ เธอสามารถแปลสิ่งที่เป็นสมบัติที่งดงามทั้งหมด วรรณคดีที่งดงาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการจะบอกเกี่ยวกับประเทศของเธอ เธอสามารถเขียนเป็นภาษาอังกฤษ และทั้งโลกก็จะรู้เกี่ยวกับมัน ยกตัวอย่าง ทุกคนที่อยากรู้เกี่ยวกับเปรูก็จะอ่านและพูดว่า "โอ้โฮ เปรูนี่เยี่ยมจริง ๆ เปรูเป็นประเทศที่เก่าแก่มากมาก และมีวัฒนธรรม มีคนทีมีจิตวิญญานสูงที่นั่น ฉันชอบชาวเปรู ฉันเคยไปเปรู และฉันศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกันชาวเปรู ฉันแต่งงานกับคนเปรู และตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ที่นั่น" (เสียงหัวเราะและปรบมือ) ดังนั้นแต่ละคนก็มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ใด้รู้สึกติดใจในวัฒนธรรมของเปรู เขาก็สามารถหันไปฝรั่งเศสและอ่านทุกอย่างเกี่ยวกับฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษ และเขาก็อาจจะคิดว่า "โอ้ นี่รู้สึกว่าจะดีกว่า" แล้วถ้าเขาชอบมันเขาก็สามารถไปฝรั่งเศส ไปแต่งงานและมีลูกชาวฝรั่งเศส (ทุกคนหัวเราะ) แต่ถ้าเขาก็ยังไม่ชอบมัน เขาก็หันไปสเปน และก็อ่านทุกอย่างเกี่ยวกับวรรณกรรมสเปน วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ขึ้นอยู่กับว่าเขาชอบมันหรือไม่ เขาสามารถไปมาลากา ไปอยู่ที่ศูนย์และไปเป็นพระหรืออะไร (เสียงหัวเราะ) มันดีที่เข้าใจกันทุกคน ดังนั้น ฉันเห็นว่า มันเป็นผลประโยชน์ ถ้าเรามีหนึ่งภาษาเป็นทางการ และฉันบอกในจดหมายว่า เอสเปอร์รันโต้เป็นความคิดที่ดีเยี่ยม แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนเห็นชอบด้วย แล้วเราไม่ต้องเรียนภาษาเพิ่มขึ้น เรามีภาษามากเกินไปอยู่แล้ว เพียงว่าเราให้มีการลงคะแนนแบบเปิด และสมาชิกยุโรปทั้งหมดลงคะแนนสำหรับภาษาที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดสำหรับพวกเขา ทำไมต้องอคติ? มันไม่เป็นไร ถ้าภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาทางการหรือไม่ เธอทั้งหมดเป็น ยุโรปอยู่แล้ว ไม่ใช่เราอยู่ที่นั้นเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันหรือ ดังนั้นไม่เป็นไรที่ภาษาไหนจะถูกเลือก เราไม่ใช่อังกฤษหรือโปแลนด์เราไม่เป็นอะไรอีกต่อไป เราควรจะพูดว่าเราคือยุโรป ดังนั้นมันก็ไม่เป็นไรที่ภาษาไหนจะถูกเลือกในระหว่างเราใช่ไหม? เราแค่เลือกภาษาที่ได้คะแนนเลือกมากที่สุดและประกาศให้ทุกคนรู้ แล้วเราก็เรียนภาษานั้น นั่นคือความคิดเห็นอันถ่อมตนของฉัน(เสียงปรบมือ)
หลักการของยุโรปเกือบจะเหมือนกับของเรา เราก็ให้ความเคารพวัฒนธรรมต่าง ๆ เรามีชาวเปรูที่นี่เป็นหลักฐาน และเรามีชาวเม็กซิโก และชาวเยอรมัน ชาวอังกฤษ ชาวโปแลนด์ (ผู้ฟัง : ชาวโคลัมเบีย!) และชาวโคลัมเบียนั้นมาจากที่ไกลมาก และเรามีชาวปอร์โต ริโก้ เรามีชาวโปรตุเกส เรามีทุกชาติอยู่ที่นี่ ใช่แล้ว แต่มันจะดีมากถ้าเราเข้าใจซึ่งกันและกันตั้งแต่แรกเริ่ม แล้วเราก็จะสามารถแบ่งปันสิ่งใด ๆ ที่เราต้องการ ไม่ต้องรอถึงอีกปีก่อนที่ฉันจะได้พูดกับเธอ (ท่านอาจารย์พูดเล่น) "รออยู่ตรงนั้น" ฉันจะเรียนภาษาโปรตุเกสปีหนึ่งและฉันจะกลับมา" "เธอรอฉันได้ไหม?" "ฉันจะแต่งงานกับเธอแต่รอหนึ่งปี" ที่จริงแล้วภาษาไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับทุกสิ่ง ความรักเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด แต่เรื่องคือว่า ถ้าเราสามารถแสดงออกถึงความรักและความเห็นของเราพร้อมกับความงดงามโดยผ่านภาษาสากล ก็น่าที่จะลดสงคราม มีสันติภาพมากขึ้น ความปองดองกันมากขึ้น และมีความรักมากขึ้นในหมู่มนุษย์ ดังนั้น ฉันขอแนะนำเธอ แม้ว่าเธอเป็นคนฝรั่งเศส หรือคนเยอรมัน หรือคนสเปน ให้ลูกหลานของเธอเรียนภาษาอังกฤษเป็นส่วนตัว ถ้าพวกเขาไม่ได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษในโรงเรียน คนส่วนใหญ่ที่เรียนหนังสือในโรงเรียนจะรู้ภาษาอังกฤษบ้าง แม้ว่าจะเป็นเพียงการพูดคุยง่าย ๆ คนจะรู้สึกว่าพวกเขามีสายสัมพันธ์กัน สายสัมพันธ์ภายในใช้เวลานานกว่า ดูสิ เธอกับฉันใช้เวลานานเท่าไร? ดังนั้นสายสัมพันธ์ภายนอกก่อน! เพราะแม้ว่าเราพูดภาษาอังกฤษกันเหมือนคนอังกฤษ บางครั้งเราก็ยังเข้าใจผิดกัน คิดดูสิว่า เราจะเข้าใจผิดกันขนาดไหนในการพูดภาษาต่าง ๆ มากมาย และทุกภาษาก็แสดงออกในทางที่แตกต่างกัน ดังนั้นนานเท่าไรที่เธอจะต้องใช้เพื่อการเรียนภาษาอังกฤษ ถ้าเธอไม่เรียนมันตั้งแต่เป็นเด็ก? หรือภาษาใด ๆ ภาษาอังกฤษเป็นเพียงตัวอย่าง แม้ว่าภาษาอังกฤษไม่มีความยุ่งยาก มันก็ต้องใช้เวลาหลายปีที่จะเข้าใจส่วนที่ไม่ชัดเจนคลุมเครือ แล้วเราจะสามารถเข้าใจกันได้อย่างไร ถ้าเรารอจนกระทั่งเราโตแล้วจึงเริ่มเรียนอีกภาษาหนึ่ง? มันก็เป็นไปได้ แต่เธอไม่สามารถเรียนทั้งหมด ดังนั้น มันจะดีกว่าถ้าทุกประเทศร่วมกันลงคะแนนให้กับหนึ่งภาษา ไม่เพียงแต่ยุโรป แต่ ยุโรปจะเริ่มต้นจากที่นี่ แล้วทุกประเทศก็ร่วมเรียนหนึ่งภาษา นอกเหนือจากภาษาท้องถิ่น เรายังคงรักษาวัฒนธรรมทั้งหมด เราไม่ทำให้สิ่งใดลดน้อยลง เราเพียงแค่เข้าใจกันดีขึ้น เราเห็นคุณค่าซึ่งกันและกันมากขึ้น ถ้าเรารู้อะไรเป็นอะไร ถ้าเราไม่รู้แล้วเราจะไปให้ความชื่นชมนับถือได้อย่างไร? เราจะรักได้อย่างไร เราจะสื่อสัมพันธ์กับเผ่าพันธุ์คนพื้นเมืองอย่างไร ถ้าเราไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย? ดังตัวอย่าง มีการพูดมากมายเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของมุสลิม อาหรับ หรือของอิหร่าน แต่มันไม่ใช่ว่าคนอิหร่านทั้งหมดเป็นคนไม่ดีหรือพวกเขาไม่ได้ไม่ดีเลย เพียงแต่ว่าใช้เวลานานมากกว่าจะเข้าใจกัน ดังนั้น ถ้าเรามีแค่หนึ่งภาษา แล้วเราแปลสิ่งดี ๆ ทั้งหมดจากภาษาใดมาเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เก็บเข้าไปในห้องสมุดสาธารณะที่ใดที่หนึ่ง ดังนั้น เราก็มีข่าวสารอยู่พร้อมเกี่ยวกับประเทศทุกประเทศเท่าที่จะมีได้ แล้วเราก็จะมีความเข้าใจกันมากขึ้น มันง่ายมาก ทุกภาษามีความงามแอบแฝงในตัวมัน ดังนั้น เราจะต้องรักษาภาษาทั้งหมดในโลก นั่นเป็นสิ่งแน่นอน แต่ฉันก็ยังคงคิดว่า เราต้องการภาษาสากลหนึ่ง เพื่อว่าทุกคนสามารถรวมกันและปองดองกันมากขึ้น และโลกจะมีสันติภาพเร็วขึ้น ฉันแนะนำภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเธอไม่ชอบ เธออาจเรียนภาษาฝรั่งเศส หรือภาษาสเปน หรือภาษาจีน แน่นอนยิ่งมากยิ่งดี ถ้าเธอมีเวลา แต่ที่ให้ภาษาอังกฤษเป็นที่เริ่มต้นเป็นเพราะว่าเป็นภาษาที่ง่ายและมีคนพูดมากกว่า ใช่ไหม? (ผู้ฟัง : ใช่) เอาล่ะ ดังนั้นเราจะทำ (เสียงปรบมือ) สิ่งอัศจรรย์นั้นเกิดได้ แต่ที่แยกไว้จากสิ่งอัศจรรย์ ทุกแห่งในโลกเธอสามารถหาบางคนรู้ภาษาอังกฤษซึ่งอาจช่วยเธอได้ในทันที ภาษามีความสำคัญมาก เธอไปต่างแดนที่อื่นบ่อยแค่ไหน แม้แต่ว่าเธอเพียงแค่พูด 2-3 คำที่ไม่สมบูรณ์ในภาษาของพวกเขา พวกเขาก็ดีใจมาก? น่าเสียดายมากที่เราไม่ได้มีเวลาพอในชีวิตของเราที่จะเรียนภาษาทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดนั้นมีความงดงามมากและน่าตื่นเต้นมากมาก ดังนั้นอย่างน้อยถ้าเราเรียนภาษาอังกฤษ เรายังสามารถหาคนได้เสมอในยามคับขัน แม้แต่คนขับรถแท็กซี่พูดภาษาอังกฤษ เจ้าของร้านกาแฟพูดภาษาอังกฤษ คนบริกรพูดภาษาอังกฤษ จากพวกเขาเธอสามารถขอความช่วยเหลือได้ เธอสามารถเข้าใจกันเพื่อเป็นการเริ่มต้น เธอสามารถหาคนพูดภาษาอังกฤษได้ทุกที่ อย่างน้อยที่สุด เธอสามารถช่วยตัวเองได้ นั่นคือการแนะนำที่อ่อนน้อมของฉัน ถ้าเธอเข้าไปอยู่ในประเทศหนึ่งและเธอไม่รู้ว่า เธออยู่ที่ไหน เธอกำลังจะไปไหน และเธอหิว เธอต้องการอาหารและอื่น ๆ ที่ในนั้นจะมีคนพูดภาษาอังกฤษ นั่นคือประสบการณ์ของฉัน
เอาล่ะฉันคาดว่า เราจะเริ่มให้เด็กของเราเรียนภาษาอังกฤษ อาจจะเรียนส่วนตัวก็ดีกว่าไม่เรียนเลย เธอสามารถหาครูส่วนตัว หรือผู้ประทับจิตคนหนึ่งที่ต้องการหารายได้เพิ่มเป็นผู้สามารถสอนพวกเขาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ถ้าโรงเรียนไม่สอนภาษาอังกฤษ หรือว่าพวกเขายังเด็กเกินไปที่จะเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียน เพราะว่าบางครั้งทางโรงเรียนไม่เริ่มสอนภาษาต่างประเทศจนกว่านักเรียนถึงมัธยมปลาย มันสายเกินไป ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะฉันเป็นพลเมืองของประเทศอังกฤษเลยมาแนะนำอย่างนี้ มันเป็นเพียงประสบการณ์จากการเดินทางของฉัน มันช่วยฉันมาก ช่วยขจัดการเข้าใจผิด ช่วยในการหาจุดหมายปลายทาง หรือหาสิ่งจำเป็น เธออาจจะสามารถจัดเตรียมการบางสิ่ง เช่น ครูภาษาอังกฤษหนึ่งคนสำหรับศูนย์มาลากาหรือศุนย์แมดริดทั้งหมดให้กับเด็กของเธอหรือตัวเธอเอง เรียนให้มากที่สุดที่เธอสามารถทำได้กับครู หลังจากนั้น เธอสามารถซื้อแผ่นเสียงหรือเทป เธอสามารถฟังเมื่อเธอนอน เธอสามารถฟังตลอดวัน เหมือนที่เธอฝึกเล่นดนตรี หรือเพียงชั่วเวลาหนึ่ง แล้วเธอก็จะใช้มันถูก ปัจจุบันมีวิธีต่าง ๆ ในการเรียนภาษาอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ภาษาอังกฤษ - ภาษาไหนก็ได้ ยกเว้นอาจจะภาษาเผ่าในแอฟริกา หรือภาษาท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกลบางภาษา อย่างเช่น ภาษาเอาหลากที่อยู่บนภูเขา ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามีหรือเปล่า แต่หาบางภาษาที่นิยม เช่นภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาลี ภาษาสเปนหรือภาษาโปรตุเกส ฉันไม่คิดว่ามันจะยากมาก ถ้าเป็นไปได้เรียกหาวิธีเรียนแบบรวดเร็ว (ท่านอาจารย์พูดเล่น) เราเป็นผู้รู้แจ้งโดยฉับพลัน เราต้องการทุกสิ่งมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เธอเรียนพื้นฐาน เธอสามารถพยายามต่อเนื่องโดยการอ่านหนังสือพิมพ์ หรืออ่านคำบรรยายของฉัน ถ้าเธอไม่ชอบหนังสือพิมพ์ ธรรมสารของเราก็เป็นภาษาอังกฤษ และเราก็ยังมีข่าวสารรอบโลก หรือเธอจะฟังรายการของเราเป็นภาษาอังกฤษ เธอฟังมากเท่าไร เธอจะเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น เธอโชคดี เพราะว่าฉันพูดภาษาอังกฤษด้วย และภาษาอังกฤษของฉันเป็นแบบง่าย ๆ แม้เป็นคนต่างชาติ เธอก็สามารถเข้าใจ ถ้าเธอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ดังนั้น คำใดที่เธอไม่เข้าใจในบทความใดก็ทำสัญลักษณ์ใว้แล้วกลับไปบ้านมองหาในพจนานุกรมมองหาในคอมพิวเตอร์ นั่นเป็นวิธีที่เธอจะเรียน ตอนนี้เราก็มักจะมีกิจกรรมร่วมกันและก็มีคนที่พูดภาษาอังกฤษอยู่ด้วยเสมอ เธอพยายามพูดกับเขา ตอนแรกอาจจะเป็นภาษาอังกฤษที่ไม่สมบูรณ์ แต่นั่นคือวิธีที่เธอจะแก้ไขตัวเอง ที่ฉันพูดถึงภาษาอังกฤษ เพราะว่าคนในหลายประเทศได้เรียนภาษาอังกฤษและเป็นเรื่องง่ายที่จะหาคนแปลภาษาอังกฤษหรือคนที่พูดภาษาอังกฤษมากกว่าการหาคนพูดภาษาเยอรมัน หรือภาษาฝรั่งเศส หรือคนพูดภาษาโปรตุเกส จากประสบการณ์การเดินทางของฉัน เพราะว่าบางครั้งเมื่อฉันหลงทางฉันมองไปที่คนและถาม (เป็นภาษาเยอรมัน) "คุณพูดภาษาเยอรมันได้ไหม?" "ไม่ได้" เช่นเดียวกับภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน และภาษาเอาหลาก แต่เมื่อฉันถาม "คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?" "ได้" ดังนั้น เมื่อเรามีภาษาที่สะดวกมาก ง่ายแก่การเรียน และนิยมกันอยู่แล้ว ทำไมเราไม่แค่เรียนมัน? ไม่ใช่เป็นเพราะเราชอบคนอังกฤษมากกว่า มันแค่ว่าภาษาของเขาใช้ได้ เราใช้มันเพื่อความสะดวกของเรา
|