ผู้กล้าหาญช่วยชีวิตสัตว์
รวบรวมจากข่าว เอส เอ็ม ทีวี ตอน 95 และ 97
นี่คือกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งผู้อุทิศตนทำงานดีเลิศตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาโดยการช่วยชีวิตสัตว์ เช่น ปลาวาฬ ปลาโลมา แมวน้ำ สิงโตทะเล และนกทะเลที่ถูกสิ่งของดักพัน เกยหาด ถูกทอดทิ้งให้ต่อสู้กับชะตากรรม ถูกยาพิษ หรือกับดัก
นักข่าวผู้ได้รับรางวัลเอมมี่และนักต่อต้านเพื่อสิทธิของสัตว์ คุณเจน เวเลส มิเชล ร่วมรายการโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ สัมภาษณ์ ปีเตอร์ วอลเลอสเตน ผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของกลุ่มงานช่วยชีวิตปลาวาฬที่หาดเวนิส แคลิฟอร์เนีย อเมริกา ในช่วงของการสัมภาษณ์ ปีเตอร์ พูดว่า “เขาโชคดีที่ได้พบและทำบางสิ่งในชีวิตที่ให้ผลทางบวกจากการลงไปช่วยปกป้องชีวิตสัตว์และยกระดับการเอาใจใส่ดูแลสัตว์น้ำในชุมชนเดียวกัน” เขายังพูดอีกว่า “ทางที่ดีที่สุดที่ผู้คนจะทำได้คือการทานมังสวิรัติและวีแกน(เจ)เป็นหนทางที่ง่ายที่สุดและได้ผลดีที่สุดที่จะหยุดความทุกข์ยากของสัตว์เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น วัว ไก่เตอร์กี ปลา หรือสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม” ปีเตอร์เป็นวีแกน (ผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ เช่น นม ไข่ ฯลฯ) มา 35 ปี ด้วยเหตุผลทางจรรยาเพราะสัตว์ถูกฆ่าในโรงฆ่าและการกระทำต่อสัตว์ในโรงเลี้ยงสัตว์อย่างไร้มนุษยธรรม อย่างไรก็ดี ยังเป็นผลประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ดีช่วยเหลือตัวเราเองก็คือการช่วยเหลือสัตว์ รวมถึงสิ่งแวดล้อมและโลกทั้งโลก สำหรับปีเตอร์การเป็นวีแกนมีความสำคัญเช่นเดียวกับการช่วยชีวิตสัตว์ เพราะว่าเป็นทางก้าวข้ามสู่ความเมตตาต่อสัตว์ทั้งหลายตลอดไป
เมื่อได้เรียนรู้ถึงงานช่วยชีวิตที่พวกเขาปฏิบัติต่อสัตว์ อนุตราจารย์ชิงไห่ให้เงินช่วยเหลือ 10,000 เหรียญสหรัฐ แก่กลุ่มงานช่วยชีวิตปลาวาฬให้พวกเขาได้ทำงานที่สูงส่งนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเจนยื่นเช็คให้ปีเตอร์ระหว่างการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ปีทองที่ 3 (2549) เขาแสดงความชื่นชมจากใจต่ออาจารย์ชิงไห่เพราะว่าเขาและกลุ่มงานของเขาแทบจะไม่มีเวลาที่จะหาทุนช่วยเหลือ เงินจำนวนนี้จะใช้ในการช่วยสัตว์อีกมากมาย เขาบอกว่าเงินช่วยเหลือนี้จะใช้ซื้อรถบรรทุกช่วยชีวิตคันใหม่แทนคันเก่าซึ่งวิ่งมา 230,000 ไมล์ ได้ช่วยชีวิตเป็นพัน ๆ ชีวิตใน 10 ปีที่ผ่านมา ปีเตอร์ยังได้ส่งจดหมายตามหลังให้อาจารย์แสดงความขอบคุณอีกและกล่าวถึงเงินช่วยเหลือไม่เพียงแต่ช่วยพวกเขาด้านความจำเป็นในค่าใช้จ่ายแต่ยังช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเขาทำงานช่วยเหลือสัตว์ที่บาดเจ็บ ป่วย หรือสัตว์น้ำกำพร้าต่อ ๆ ไป
แมวน้ำฮาร์ป โออาร์จี แมวน้ำฮาร์ป เป็นสัตว์น้ำที่น่ารัก ใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตอยู่ในทะเล แต่ก็มีเวลาที่ขึ้นไปอยู่บนแพน้ำแข็ง พวกเขามีขนหนาสั้นสีขาวปนสีดำเป็นหย่อม ๆ หน้าตาน่าเอ็นดู ลูกแมวน้ำจะมีสีขาวทั้งตัว บริเวณที่พวกเขาอยู่เป็นแนวจากทางเหนือของรัสเซีย จนถึงนิวฟาวแลนด์ และทางอ่าว เซนต์ลอเรนซ์ในแคนาดา ในฤดูใบไม้ผลิแมวน้ำฮาร์ปย้ายถิ่นฐานไปไกลถึง 2,500 กิโลเมตร ไปยังที่พวกเขาหาอาหารได้ในช่วงฤดูร้อน พวกเขาย้ายกลับทางใต้ก่อนที่น้ำแข็งใหม่จะแข็งตัว แม้ว่าจะถูกคุกคามโดยสัตว์อื่น เช่น ฉลาม ปลาวาฬคีลเล่อร์ หมีขั้วโลกและวอลลัส อาหารที่จะกินลดน้อยลงเพราะคนจับปลากันมากเกิน หรือมีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อุบัติเหตุติดอุปกรณ์จับปลาและอาจจะเกิดสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ น่าเศร้าใจที่ศัตรูตัวหลักใหญ่ที่สุดคือมนุษย์ แม้ในทุกวันนี้ พวกเขาก็ต้องเผชิญกับการล่าอย่างป่าเถื่อนของคน ทุก ๆ ปีลูกแมวน้ำฮาร์ปเป็นร้อยเป็นพันถูกฆ่าด้วยกระบอง ถูกยิง ถูกแล่หนังทั้งเป็นเมื่ออายุแค่สามเดือนหรืออ่อนกว่านั้น ในการฆ่าหมู่เพื่อค้าขายหนังและขนของพวกเขา ชาวโลกได้ตื่นตัวมากขึ้นมากขึ้นกับเหตุการณ์นี้ ได้เรียกร้องรัฐบาลแคนาดาให้หยุดการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมให้เด็ดขาด รัฐสภายุโรปตัดสินใจก้าวเข้ามาโดยออกประกาศ มีลายเซ็นต์ของสหพันธ์ยุโรปห้ามค้าแมวน้ำสองอย่างคือ ตัวสัตว์และตัวเสื้อ คำสั่งห้ามนี้ใช้กับแมวน้ำทุกวัย นี่ก็น่าจะจบการล่าแมวน้ำในแคนาดา ในจำนวนองค์กรหลาย ๆ องค์กรที่พยายามจะหยุดการฆ่าหมู่ ฮาร์ปซีลโออาร์จีเป็นกลุ่มอาสาสมัครทั้งหมด เป็นหน่วยงานไม่ใช่เพื่อธุรกิจได้มุ่งไปที่หยุดการล่าแมวน้ำฮาร์ปแคนาดา เพื่อว่าสัตว์ที่สวยงามนี้จะได้รับสิทธิ์ของพวกเขาที่จะมีชีวิตอยู่ พวกเขาดำเนินการต่อต้านอาหารทะเลแคนาดา แจกแผ่นใบปลิว เขียนจดหมายและอีเมลล์ไปยังนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง จัดการชุมนุม พวกเขาทำทุกอย่างที่พวกเขาจะทำได้เพื่อโน้มน้าวรัฐบาลแคนาดาว่าสัตว์เหล่านี้ควรได้รับอนุญาติให้มีชีวิตอยู่ วันที่ 11 ธันวาคม รายการโทรทัศน์อนุตราจารย์สัมภาษณ์ เอียน โรมิชัดและซูซาน เฮร์ช ของฮาร์ปซีล โออาร์จี เกี่ยวกับงานช่วยแมวน้ำพร้อมกับยื่นเงินช่วยเหลือ 10,000 เหรียญสหรัฐ จากอนุตราจารย์ชิงไห่ให้ใช้ความพยายามต่อ ๆ ไป พวกเขาแสดงความขอบคุณต่ออาจารย์ชิงไห่ในการสัมภาษณ์และในจดหมายที่ตามมา พวกเขาเขียนว่า “พวกเราประทับใจในแสงที่ท่านส่องลงมายังโลกนี้ก่อกำเนิดมาเป็นงานที่วิเศษสุดของท่าน ในนามของสัตว์ทั้งหลายและโลกนี้และน้ำใจเราจะใช้ประโยชน์ของทรัพยากรที่ท่านจัดให้เรา การบริจาคของท่านจะไปส่งเสริมให้คนหาทางเลือกใหม่แทนอาหารทะเลแคนาดา โดยเฉพาะทางเลือกใหม่ที่ไม่ต้องเป็นผลจากการฆ่าสัตว์ใด ๆ
http://www.harpseals.org/#action
ให้ความรักและให้การคุ้มครอง เพื่อนสัตว์ของเรา
จากเอสเอ็มทีวี “โลกของสัตว์” ตอน 43
ฟาร์ม แซงจัวรี่ เป็นหน่วยงานที่ไม่เล็งผลกำไรมีเพื่อพิทักษ์สัตว์ ตั้งขึ้นในปี 2529 พวกเขามองและปฏิบัติต่อสัตว์เช่นเพื่อน หน่วยงานของพวกเขามีเพื่อที่จะเปิดความคิดและจิตใจคนให้สร้างโลกแห่งความรักและความเมตตามากขึ้น อาสาสมัครของฟาร์ม แซงจัวรี่มีความเชื่อว่าการปฏิบัติต่อสัตว์ด้วยความรักและเมตตานั้นดีต่อสัตว์และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นดีกับผู้คนเองในแง่ค่อยๆ เพิ่มความประสงค์ที่จะรวมพลังกันให้โลกดีขึ้น สดใสขึ้นสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ด้วยการช่วยชีวิต การศึกษาและการเป็นตัวแทนสนับสนุน ฟาร์มแซงจัวรี่ให้การช่วยชีวิตและเลี้ยงดูชีวิตสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วน
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาแหล่งพักพิงของฟาร์มแซงจัวรี่ ตั้งอยู่ในนิวยอร์คและแคลิฟอร์เนีย อาสาสมัครผู้อุทิศตนของหน่วยงานนี้ได้ช่วยชีวิต และจัดที่อยู่อาศัยแก่สัตว์เป็นพัน ๆ ตัวที่ได้รับการทารุณอย่างรุนแรงจากการกระทำของโรงเลี้ยงสัตว์ แหล่งสัตว์เลี้ยงและโรงฆ่าสัตว์ ผ่านรายการความรู้ข่าวสารของพวกเขา คนเป็นล้าน ๆ คน จะได้รับรู้ความทารุณของอุตสาหกรรมค้าสัตว์พร้อมทั้งเสนอทางเลือกใหม่ที่ให้ความเมตตาและปราศจากความโหดร้าย ฟาร์ม แซงจัวรี่ใช้วิธีท่องเที่ยวดูสถานที่เลี้ยงสัตว์ สารคดี วีดิทัศน์ และอุปกรณ์การศึกษาแสดงการสนับสนุนอื่น ๆ เพื่อเป็นความรู้และจูงใจคนให้เข้าสู่วิถีชีวิตที่มีเมตตา การรณรงค์พืชผักสำหรับชีวิตและแนะนำการมีชิวิตอยู่ด้วยพืขผักส่งเสริมและสนับสนุนเส้นทางมังสวิรัติแก่ชีวิต อีกโครงการหนึ่งที่กำลังดำเนินรายการความรู้ด้านเมตตาแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ออกแบบเฉพาะสำหรับนักเรียน ครู ให้นำความเมตตากรุณาเข้ามาในชั้นเรียน ตั้งแต่ปี 2529 ฟาร์ม แซงจัวรี่ มีทบบาทมากในด้านการป้องกันการทารุณสัตว์โดยผ่านการป้องกันทางกฎหมายและเปลี่ยนแปลงนโยบาย
เมื่อได้ทราบถึงงานที่สูงส่งของฟาร์มแซงจัวรี่อนุตราจารย์ชิงไห่ให้การช่วยเหลืออย่างมีน้ำใจ 10,000 เหรียญสหรัฐ ให้เป็นการสนับสนุนความพยายามต่อ ๆ ไปที่จะให้มีความเมตตาต่อสัตว์ เช็คนั้นมอบให้แก่นายจีน บอสตัน ประธานและผู้ก่อตั้งฟาร์มแซงจัวรี่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ปีทองที่ 3 (2549) นายบอสตัน ผู้ทานวีแกนได้ใช้เวลามากมายที่จะเข้าหาคนและโน้มน้าวพวกเขาให้มองสัตว์ทั้งหลายเป็นสิ่งที่มีชีวิตมีความรู้สึกไม่ใช่เป็นชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่ง เขาแสดงความชื่นชมที่อาจารย์สนับสนุนและช่วยเหลือรวมถึงงานของท่านที่ช่วยให้โลกอยู่ในสภาพดีขึ้นในรายการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์อนุตราจารย์ชิงไห่
|
||||||||||||||||||||
