รายงานพิเศษ

ฌานสองกับท่านอาจารย์
อะไรคือพระพร!

โดยกลุ่มข่าวดิสเบอร์ก (ต้นฉบับเป็นภาษาเยอรมัน)

ในตอนสิ้นปีทอง ปีที่ 3(2549) ศูนย์ดิสเบอร์กได้รับพระพรในการเยี่ยมเยียนจากท่านอนุตราจารย์ชิงไห่สองครั้ง ด้วยการประกาศจากท่านอาจารย์กำลังจะมาถึงในเดือนธันวาคมนี้ บรรดาเพื่อนประทับจิตเต็มไปด้วยพลังงานของความร่าเริงและการเตรียมการล่วงหน้า ลงมือปฎิบัติงานที่สรรหามาได้ ภายในระยะเวลาอันสั้นทางศูนย์ได้จัดทำอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และการตกแต่งด้วยความรัก เพื่อนประทับจิตจากทั่วประเทศเยอรมันได้รับเชิญมาร่วมงานนี้

 

ในวันที่ 16 ธันวาคม พวกเราเเทบจะไม่เชื่อเลยว่า ท่านอาจารย์ ปรากฎตัว ทุก ๆ คนส่องประกายความสุข ความเบิกบานใจอย่างเหลือจะพรรณนาได้ พวกเรานั่งสมาธิด้วยความขยันหมั่นเพียร และท่านอาจารย์ออกมาพูดคุยกับพวกเราบ่อย ๆ ในระหว่างการนั่งสมาธิ ท่านได้เล่าเรื่องตลกหลายเรื่อง บรรยากาศความเบิกบานใจและเต็มไปด้วยความสุข ท่านอาจารย์ของพวกเราเน้นย้ำความสำคัญของความอ่อนน้อมถ่อมตนและความไม่เห็นแก่ตัว ที่พวกเราควรจะมีเหมือนดั่งนักบุญ ท่านอาจารย์มีความสุขมากร่วมกับศูนย์ของพวกเราและเพลิดเพลินกับอาหารที่อร่อย

ในเวลาที่ท่านอาจารย์จะจากไป ท่านให้ความเชื่อมั่นกับพวกเราว่าท่านจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อนประทับจิตจำนวนมากยังคงอยู่จนถึงวันคริสมาสต์เพื่อร่วมฉลองประเพณีณานคริสมาสต์ของพวกเรา อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่า มีบางอย่างที่ใหญ่มากได้รอสำหรับพวกเรา เราได้รับข่าวสารว่าจะมีฌานยุโรปที่ศูนย์ดิสเบอร์กสำหรับวันขึ้นปีใหม่ เพื่อทำให้งานเป็นไปได้และเป็นฌานที่ลืมไม่ได้สำหรับเพื่อนประทับจิตทั่วทั้งยุโรป ทีมทำงานหลาย ๆ คนได้จัดเตรียมงานทันที

ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ท่านอาจารย์ได้มาถึงและปรากฏตัวในห้องนั่งสมาธิให้กำนัลพรกับทุกคน ท่านดูสง่างามมาก สวมชุดคริสมาสต์ม่านสีทองและเครื่องประดับจากของตกแต่งคริสมาสต์ในห้องของท่าน ในฌานที่สูงส่ง พวกเราฉลองกับท่านอาจารย์ที่เป็นสุดที่รักของเราไม่เหมือนกับที่เคยทำมาทุกปีกับอาจารย์ที่รักยิ่งของพวกเรา

ในวันแรกของปีใหม่ ท่านอาจารย์เข้ามาเยี่ยมพวกเราหลาย ๆ ครั้งในระหว่างการนั่งสมาธิ ท่านกล่าวเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ของประเทศอาระเบีย ที่ได้เริ่มออกอากาศในรายการภาคภาษาอังกฤษเพื่อที่จะให้โลกได้เห็นวัฒนธรรมที่สวยงามของประเทศอาระเบีย ด้วยเหตุนี้จึงแสดงให้เห็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะนำมาซึ่งความสัมพันธ์วัฒนธรรมมที่แตกต่าง เพื่อการดำรงชีวิตที่สงบสุขและปรองดองกัน

 

ท่านอาจารย์ก็ได้พูดเกี่ยวกับความไร้เหตุผลทึ่ยังคงทำต่อไปเรื่อย ๆของกองทัพทหารที่ขัดแย้งในโลกนี้ ท่านให้ข้อสังเกตุว่ามันไม่น่าเชื่อเลย มนุษย์ผู้นำพาความรักและการอุทิศตัวจะสามารถกลายเป็นนักรบเพราะว่าสงครามในประเทศของเขาและอาจถูกทำลายล้างด้วยลูกกระสุนปืนที่เล็กมากในชั่ววินาที ดังเช่นการตายในสนามรบอย่างกระทันหัน จะแช่แข็งวิญญานที่อยู่ในสภาวะแน่นิ่งไปทันที(เร็วเหมือนกับไฟวาบในกล้องถ่ายรูป)เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีหรือแม้กระทั่งหนึ่งพันปี สงครามเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรของความโหดร้าย ที่มันควรหยุดได้แล้ว ไม่สำคัญอะไรที่มันอาจเสียหาย ทหารควรจะเป็นทหารสันติภาพ และช่วยผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านั้น ตอนนี้เวลาเหลือน้อย ในขณะที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นที่พัฒนาสูงแล้วกำลังรอคอยให้โลกค่อย ๆ พัฒนา พวกเราควรจะเร่งแก้ปัญหาผลที่เกิดขึ้น อาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในตอนนี้ ร่วมกัน

ท่านอาจารย์ให้ความเห็นว่า ท่านหวังว่าปีใหม่จะเป็นปีของข่าวเพื่อสันติภาพ และข้อตกลงเพื่อสันติภาพที่บรรลุผล ในปีที่แล้ววัตถุประสงค์ได้เริ่มต้นขึ้นจากการพัฒนาเกี่ยวกับสันติภาพในทั่วโลก ด้วยเหตุที่พวกเรามาจากทั่วยุโรปและนั่งอยู่ในความปรองดองและสันติภาพร่วมกัน ท่านอาจารย์กล่าวอีกว่า พวกเราทั้งหมดได้เชื่อมติดต่อกันทางโทรจิต กลุ่มของพวกเราคือตัวอย่างสำหรับโลกนี้ที่ความปรองดองและสันติภาพเป็นไปได้ อะไรที่เราสามารถทำสำเร็จได้ในกลุ่มเล็ก ๆ สามารถทำให้บรรลุผลได้ทั้งโลก

 

ตอนหัวค่ำ พวกเราได้รับความเพลิดเพลินใจจากเสียงดนตรีที่งดงามของเพื่อนประทับจิตจากทั่วยุโรปการบรรเลงเครื่องดนตรี หรือการร้องเพลงหรือทั้งสองอย่าง ท่านอาจารย์และทุก ๆ คนให้ความสนใจรับฟังผลงานดนตรีที่อบอุ่นและยกระดับ หลายคนน้ำตาหยดจากทำนองเพลงที่ไพเราะ นี่เป็นหัวค่ำที่พิเศษสุดอยู่แล้ว แต่แล้วเราก็ได้รับดนตรีบรรเลงสลับฉากที่พิเศษมากที่สุดของทั้งหมด กลางดึกในคืนนั้น ท่านอาจารย์มาและร้องเพลงกล่อมสำหรับพวกเรา สิ่งเหล่านั้นเป็นชั่วขณะที่มิอาจจะลืมเลือนได้ ท่านบอกพวกเราถึงวิธีทำให้สุนัขของท่านนอนหลับ พวกเรารับฟังด้วยความเอาใจจดจ่อกับน้ำเสียงที่ไพเราะของท่านอาจารย์ และหลังจากนั้นก็นั่งสมาธิตลอดคืน

วันต่อมา พวกเราเริ่มต้นเช่นเคยกับอาหารบำรุงร่างกายเสนอโดยทีมครัว ผู้ที่ทำงานหนักตลอดณานและจัดเตรียมอาหารนานาชาติที่อร่อยเสมอ ท่านอาจารย์อยู่เพิ่มอีกหนึ่งวันกับพวกเรา พบปะพวกเราในห้องนั่งสมาธิและตอบคำถามของพวกเรา หลังจากนั้นท่านอาจารย์ก็ต้องลาจากไป เช่นเดิมเสมอ มันยากมากสำหรับพวกเราที่จะยอมรับการยุติลงของการเข้าฌาณกับท่านอาจารย์ แต่การสะท้อนกลับของวันวิเศษสุดที่เราได้รับ หัวใจของเราก็เติมเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ