โลกของสัตว์

 

 

 

 

 

 

ความรักและความซื่อสัตย์ของสัตว์

โดยพี่ประทับจิตหญิงหวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

ต้าหวง-ผู้มีความจริงใจและเป็นมิตร

 

ปี พ.ศ.2512 ข้าพเจ้าลงไปหมู่บ้านชนบทจำได้ว่า ฤดูใบไม้ร่วงปีนั้นเหลือเพียงข้าพเจ้าคนเดียวในห้องประชุม เพราะฐานะทางบ้านยากจน ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว ดังนั้น จะกลับบ้านบ่อยเหมือนเพื่อนนักเรียนคนอื่นไม่ได้ บ้านใหญ่ 5 หลังมีข้าพเจ้าเป็นผู้หญิงที่มีอายุ 17-18 ปีคนเดียว ทั้งเหงาทั้งไร้ที่พึ่ง ขณะนั้น บ้านหัวหน้าคณะมีหมาสีเหลืองใหญ่ตัวหนึ่งไปเป็นเพื่อนข้าพเจ้าประจำ หมาตัวนั้นน่ารักมาก ขนสีเหลืองเป็นเงางาม เข้าใจคนง่าย พวกเราเรียกมันว่า “ต้าหวง” มันคล้ายกับเข้าใจข้าพเจ้า เวลาข้าพเจ้าดีใจ มันจะมากระโดดรอบ ๆ ตัวข้าพเจ้า เวลาข้าพเจ้าอารมณ์ไม่ดี มันจะหมอบอยู่ข้างตัวข้าพเจ้า บางครั้งข้าพเจ้าเลิกงานกลับมา มันจะวิ่งมาแต่ไกลเพื่อมารับข้าพเจ้า เวลาว่างข้าพเจ้ากับมันจะคุยเล่นด้วยกัน มันทำให้ข้าพเจ้าสบายใจ เป็นเพื่อนข้าพเจ้าเพื่อให้ผ่านพ้นชีวิตช่วงลำบาก

สิ่งที่ข้าพเจ้าซาบซึ้งที่สุดคือ วันหนึ่งข้าพเจ้าเตรียมขึ้นรถไฟกลับบ้าน บ้านและที่ประชุมห่างสถานีรถไฟ 30 เมตร ต้าหวงเดินไปเป็นเพื่อนข้าพเจ้าจนถึงสถานีรถไฟ ข้าพเจ้านั่งลงลูบตัวมันและกล่าวลามัน แต่มันก็ยังไม่ยอมจากไป ข้าพเจ้าขึ้นไปบนรถไฟ ต้าหวงมองดูข้าพเจ้าเงียบ ๆ รถไฟเคลื่อนออก ข้าพเจ้าพิงที่ข้างหน้าต่าง โบกมือให้มันกลับไป ต้าหวงวิ่งตามรถไฟ รถไฟวิ่งเร็วขึ้น ต้าหวงวิ่งตามเร็วขึ้นเช่นกัน ในที่สุดเงาร่างของต้าหวงเล็กลงเรื่อย ๆ น้ำตาของข้าพเจ้าไหลออกมา ขณะนั้นคิดอยากจะกระโดดลงจากรถกลับไปกับต้าหวง ข้าพเจ้าซาบซึ้งต้าหวงมาก ข้าพเจ้าทราบดีว่าสัตว์มีความรัก แต่คิดไม่ถึงว่าต้าหวงจะมีความรักมากถึงขนาดนี้

30 กว่าปีผ่านไปแล้ว ภาพเหตุการณ์ที่ทำให้คนซาบซึ้งใจ ยังคงปรากฏอยู่ต่อหน้าเสมอ ข้าพเจ้าเล่านิทานเรื่องนี้ให้ลูกฟังเสมอ เพื่อให้ลูก ๆ เข้าใจว่า “สัตว์เป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์” เข้าใจความจริงใจ ความเป็นมิตรของสัตว์


 

เสี่ยวฮวา-หลงทางแล้วได้กลับบ้าน

 

ขณะที่ลูกสาวอายุ 12 ขวบ วันหนึ่งอุ้มแมวตัวหนึ่งที่เก็บได้ วิ่งกลับเข้าบ้านอย่างดีใจพร้อมตะโกนบอกข้าพเจ้าว่า “แม่ แม่ดูซิ มันน่ารักมาก พวกเราเลี้ยงมันไว้ก็แล้วกัน!” ข้าพเจ้าวางงานลงแล้วหันมาดู เห็นลูกแมวที่เพิ่มมาไม่กี่วันถูกลูกสาวใช้มือ 2 ข้างอุ้มเอาไว้ สีขาวกับสีเหลืองสลับกัน ดวงตากลม ปากเล็ก ลำตัวใสเงางามเหมือนผ้าแพร เหมือนศิลปหัตถกรรมชิ้นกะทัดรัดที่สวรรค์ได้สร้างขึ้นมา ช่างสวยงามจริง ๆ ! ข้าพเจ้าถูกมันดึงดูดเสียแล้ว สายตาของลูกแมวคล้ายกับจะขอให้ข้าพเจ้ารับเลี้ยงมันไว้ ลูกสาวตั้งชื่อให้มันว่า เสี่ยวฮวา จากนั้นบ้านของพวกเราก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว

เมื่อเสี่ยวฮวาโตขึ้นได้ 4 ขวบ วันหนึ่งมันหายไป ครอบครัวพวกเราต่างกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ตามหาไปทั่ว ลูกสาวร้องไห้ทั้งวัน หลายวันผ่านไปแล้ว ไม่มีข่าวคราวของเสี่ยวฮวาเลย ทุกคนต่างรู้สึกว่าหมดหวัง ขณะนั้น คุณอาของลูกสาวมาที่บ้าน บอกกับพวกเราว่า เธอฝันว่า เสี่ยวฮวากลับมาแล้ว ลูกสาวรีบไปเปิดประตู รอเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น เป็นความจริงที่ 6 โมงเช้ากว่า เสี่ยวฮวาตัวมอมแมม สกปรก ทั้งผอมไปหนึ่งรอบเอว วิ่งกลับเข้าบ้านอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเข้าบ้านแล้ว วิ่งไปรอบบ้าน จากนั้น วิ่งขึ้นบันไดไปบนเตียงผ้าใบ มุดเข้าผ้าห่มของลูกสาว ภาพเหตุการณ์เหมือนกับเด็กหลงทางแล้วกลับมาหาแม่อีกครั้ง ทั้งครอบครัวผลัดกันอุ้มมันอย่างดีใจ จูบมันด้วยความรัก เสี่ยวฮวาแนบกับตัวลูกสาวไว้แน่น ไม่ยอมไปห่าง จากวันนั้นมา พวกเรารักลูกแมวตัวนี้มากยิ่งขึ้น เสี่ยวฮวาอยู่กับพวกเราทุกวันคืน ให้ความสุขความสบายใจกับพวกเรามากขึ้น ทุกครั้งที่มีการติดต่อทางจิตวิญญาณหรือมีความรักต่อกันจะทำให้พวกเราคิดถึงคำพูดของท่านอาจารย์ว่า “สัตว์กับมนุษย์เสมอภาคกัน ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ต่างกัน”

ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ