อาจารย์กล่าว

 

สวรรค์ และ นรก พวกเราเป็นผู้สร้างขึ้นมา

ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่ ไถหนัน ฟอร์โมซา
วันที่ 13 ตุลาคม 2531(ต้นฉบับเป็นภาษาจีน) MP3-CG02

พวกเธอไปฟังใครพูดว่า การบำเพ็ญ-ไม่ต้องถือศีล ไม่ต้องชำระล้างกาย วาจา ใจ ก็จะทราบว่าพวกเขาล้อเล่น พวกเขาบำเพ็ญไม่เคร่งครัด คิดว่าการบำเพ็ญเหมือนกับเด็กเล่นกัน

ตั้งแต่โบราณกาลมาไม่มีคนที่บำเพ็ญง่าย ๆ แล้วจะบรรลุธรรมได้ นอกจากคนที่มาจากที่สูงกว่าแดน 3 เท่านั้น พวกเขาไม่มีปัญหาเลย อุปสรรคน้อยมากจึงสามารถบำเพ็ญไม่นานก็บรรลุธรรมได้ แม้พวกเขาจะมีอุปสรรค อย่างมากก็เห็นผีสางมารร้ายเท่านั้น หรือเหมือนกับพระพุทธเจ้า เวลาใกล้บรรลุธรรม เห็นพญามารแปลงตัวเป็นภรรยา ลูกของพระองค์ หรือหญิงสาวที่สวยงามมายั่วยวนพระองค์ เท่านั้นเอง แต่ขณะนั้น พระองค์ตรัสว่า “พวกเจ้าล้วนเป็นมายา!” แล้วพระองค์ก็ควบคุมมายาเหล่านั้นได้ และชนะพวกมัน นี่เป็นอุปสรรคที่พระพุทธเจ้าได้พบ มิฉะนั้นแล้ว พระองค์ก็ไม่มีอุปสรรคอะไร พระองค์บำเพ็ญ 6 ปีก็สำเร็จเป็นพุทธ พวกเราถ้าไม่ได้บำเพ็ญธรรมวิถีที่ถูกต้อง ต่อให้บำเพ็ญไป 600 ปี 600 กัลป์ ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผล เพราะหุงทรายให้เป็นข้าวไม่ได้ แต่ถ้าบำเพ็ญธรรมวิถีกวนอิม ก็จะสำเร็จอย่างแน่นอน !

พวกเราบำเพ็ญต้องรักษากาย วาจา ใจให้สะอาด ไม่ว่าระดับของพวกเราจะอยู่ภายในหรือภายนอกชั้นที่ 3 พวกเราไปฟังใครที่บอกว่า พวกเราอยู่เหนือ 3 โลก อย่าไปเชื่อทันที ต้องสำรวจตัวเองก่อน ถ้าหากยังถูกมัดไว้ที่ไหน ก็แสดงว่าพวกเรายังอยู่ภายใน 3 โลก เพราะยังถูกมัดอยู่ พวกเรายังไม่สบาย ไม่อิสระ และเมื่อนั้นก็ต้องรีบบำเพ็ญ อีกสักพักพวกเราก็จะไปอยู่เหนือ 3 โลก

ไม่ว่าโพธิสัตว์ไหน ก่อนจะสำเร็จเป็นพุทธ ต่างต้องบำเพ็ญด้วยความเหนื่อยยาก พระเยซูบอกว่า เป็นบุตรของพระเจ้า แต่ว่าขณะที่พระองค์บำเพ็ญอยู่กลางทะเลทราย พญามารก็ยังมาหลอกลวง พระองค์บำเพ็ญเหนื่อยมากเมื่อใกล้จะสำเร็จเป็นพุทธ พญามารมาบอกกับพระองค์ว่า “ขอให้ท่านบูชาข้าพเจ้าสักครั้ง ทั้งสามโลกจะเป็นของท่านหมด!” พระเยซูตอบว่า “เจ้าไปยืนข้างหลังข้าพเจ้า!” หมายความว่าเรียกให้มารไปเสีย อย่ามามองพระองค์ ความจริงพระพรหมที่อยู่ภายในแดน 3 ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย

ความคิดของพวกเรา ทางที่ดีให้อยู่ที่พลังสูงสุด ต้องคิดถึงท่านให้มาก คิดจะกลับไปดินแดนที่สูง อย่าไปหยุดอยู่ที่ดินแดนอื่น ๆ ทำเช่นนี้พวกเราก็จะสร้างบรรยากาศที่ดี เป็นบวกและหนาแน่นให้กับตัวเอง จากนั้น พวกเราสร้างสวรรค์เองเหมือนกับพวกเธอสร้างศูนย์ขึ้นมาเอง พวกเธอต้องคิดวางโครงสร้างก่อน จากนั้นก็รวมตัวกันสร้างขึ้นมา ขณะนี้จึงมีศูนย์นี้อยู่

ในทำนองเดียวกัน ปัจจุบันถ้าหากพวกเราไม่มีการจัดตั้งสวรรค์ให้ดี เมื่อขึ้นไปแล้วจะไม่พบอะไรเลย พวกเราจัดตั้งสวรรค์ให้สูงส่งขึ้นเท่าไร อันดับชั้นของพวกเราก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เพราะว่า “ทุกอย่างเกิดจากจิต” พวกเราสร้างสวรรค์ นรก ล้วนเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ดังนั้น ทุกวันอย่าลืมพลังพลานุภาพที่มีอยู่ภายใน ขอให้เขาช่วย “ข้าพเจ้าต้องการแต่ท่าน สิ่งอื่น ๆ ท่านจะให้ข้าพเจ้าก็ได้ ไม่ให้ก็ได้ พอดำรงชีวิตก็พอ แม้จะไม่พอ ข้าพเจ้าก็ไม่สนใจ ข้าพเจ้าอยากกลับบ้านจริง ๆ ข้าพเจ้าไม่อยากเป็นเทวดา เป็นคน เป็นอสูรกาย ประเภทสรรพสัตว์ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิด”

ดังนั้น อาจารย์จึงสอนพวกเธอกาย วาจา ใจต้องสะอาด การบำเพ็ญไม่ถือศีลไม่ได้ แต่ว่าเมื่อพวกเราบำเพ็ญดีแล้ว ก็จะถือศีลได้เอง พวกเราบำเพ็ญยิ่งดี จะรู้สึกว่ามีความรู้สึกไวมากขึ้น แล้วก็จะถือศีลได้เอง และเมื่อนั้น ไม่ต้องมาพูดว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะมีศีลเอง มีสมาธิเอง มีปัญญาเอง นั่นต่างหากที่เป็นศีล สมาธิ ปัญญาที่แท้จริง พวกเรามีปัญญา เหมือนกับพวกเราไม่มีปัญญา พวกเราจะไม่มาคิดว่าพวกเรามีปัญญา มันเหมือนกับพวกเราหายใจอย่างธรรมชาติ หรือเหมือนกับที่พวกเราล้างมือ ล้างหน้า นอนหลับที่ง่าย ๆ อย่างนั้น

พวกเราไม่จำเป็นต้องปล่อยวางทางโลก ขอเพียงให้บำเพ็ญต่อไป สักวันหนึ่ง ทางโลกจะปล่อยพวกเราเอง พวกเราไม่ต้องกลัวว่าจะถูกมันมัดอีก แม้บางครั้งอาจารย์จะเข้มงวดบ้าง ว่าพวกเธอยังไม่ยอมปล่อยวาง ยังติดยึดกับทางโลก แต่ว่าพวกเธอก็ไม่ต้องเสียใจ หรือรู้สึกขุ่นเคืองที่ถูกตำหนิ แต่ควรสำรวจตัวเอง บำเพ็ญต่อไป อีกสักพัก ก็จะปล่อยวางได้เอง ต่อไปเรื่องชื่อเสียงเอย ลาภเอย เงินเอย อะไร ๆ มันไม่มีความหมายสำหรับพวกเราแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่ต้องใช้ แต่พวกเราไม่ไปคิดสิ่งเหล่านั้น มีก็ใช้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร

ดังนั้น พวกเราไปคิดเรื่องลาภ ยศ เป็นการผูกมัดตัวเองทั้งนั้น เดิมทีจักรวาลนี้ยังไม่ได้สร้างสรรพสิ่งออกมา ก็ไม่มีอะไรเลย พวกเราควรจะหวนคิดถึงเวลานั้น สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า ก่อนดอกไม้จะแตกออกมามันคืออะไร? ก่อนที่พวกเราจะคลอดออกมามันคืออะไร? เดิมทีไม่มีอะไรเลย ล้วนมาจากบุญสัมพันธ์ ดังนั้น พวกเราจะไปยึดติดกับสิ่งที่เป็นอนิจจังไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ ล้วนรวมตัวขึ้นมาด้วยบุญสัมพันธ์ พอบุญสัมพันธ์หมด ก็จะจากกันไปเอง

พวกเราต้องเข้าใจเหตุผลเหล่านี้ ต้องบำเพ็ญอีกนาน แล้วสักวันหนึ่งก็จะรู้แจ้งเอง มันเป็นความจริง เมื่อรู้แจ้งแล้ว พวกเราก็จะไม่สูญเสีย ตอนนี้พวกเธอฟังอาจารย์พูด ยังเป็นสมบัติของอาจารย์อยู่ อาจารย์ให้พวกเธอดูแวบหนึ่งเท่านั้น พวกเธอยังไม่มี “เงิน” ไปซื้อได้ รอให้พวกเธอซื้อได้แล้ว จึงเป็นสมบัติของพวกเธอเอง ดังนั้น ต้องบำเพ็ญต่อไป ไม่ใช่ว่าฟังอาจารย์พูดก็พอ ในใจคิดว่า “ถ้าสรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า กรรมก็ว่างเปล่า ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็ไม่ต้องบำเพ็ญแล้ว ช่างดีเหลือเกิน! อาจารย์พูดอะไรก็เป็นเช่นนั้น เชื่ออาจารย์ก็พอ!” ทำเช่นนี้ไม่ได้ เพราะขณะนี้ พวกเธอยังไม่ได้เข้าใจอย่างแท้จริง

ดังนั้น กาย วาจา ใจ ของพวกเราต้องสะอาด ยิ่งสะอาด ภัยพิบัติยิ่งน้อยลง ความทุกข์ลดน้อยลง เมื่อพบกับสภาพไหน ก็ไม่ควรไปโทษผู้อื่น ไม่ว่าสวรรค์ นรก พวกเราเป็นผู้สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น

 

ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ