อาจารย์กล่าว
ถ้าหากเด็กคนนั้น (ท่านอาจารย์หมายถึงเด็กชายอายุ 16 ปี ในราวันดา ซึ่งทำให้ท่านประทับใจด้วยจิตรารมย์อันซื่อตรงของเขา) หรือมนุษย์คนใดเป็นเพียงแค่กายเนื้อเท่านั้น จะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถคิดแบบนั้น จะต้องมีวิญญาณอยู่เบื้องหลังมัน จะต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่บางอย่างอยู่เบื้องหลังมัน มิฉะนั้นแล้วบุคคลธรรมดา ๆ ภายใต้สภาพการณ์อันร้ายกาจเช่นนั้น จะไม่สามารถยังคงมีจิตรารมย์อันซื่อตรงเช่นนั้นได้ และจะไม่ภาคภูมิใจในตัวเอง ไม่ขอร้อง หรืออะไรแบบนั้น ตัวอย่าง แม่คนหนึ่งมีเด็กทารกซึ่งป่วยมากและเธอไม่มีเงิน ดังนั้น เธอจึงต้องเดิน 20 ไมล์และพาลูกไปโรงพยาบาลที่อีกเมืองหนึ่งที่ใหญ่กว่า เพื่อขอร้องพวกเขาให้ช่วยเธอด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ถ้าพวกเขาจะช่วย แต่แล้วนักหนังสือพิมพ์ก็ผ่านมาและให้เธอและเด็กทารกโดยสารเข้าไปในเมือง และนักหนังสือพิมพ์ก็ให้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อการรักษาทารกด้วย เธอรู้สึกงุนงง ชาวราวันดาพื้นเมืองมองดูนักหนังสือพิมพ์ด้วยความประหลาดใจมากพูดว่า “แต่การให้โดยสารของคุณก็เป็นการเพียงพอแล้ว!” นี่เป็นคนที่ดีจริง ๆ ภาคภูมิใจในตนเองมาก และซื่อสัตย์มาก และพวกเขาสมควรได้รับการช่วยเหลือ แต่นี่เป็นแค่ตัวอย่างเพื่อเธอจะได้รู้ว่า ถ้าเธอรักษาจิตรารมย์ที่เป็นบวกของเธอเอาไว้ ปาฏิหาริย์ก็จะเกิดขึ้น แม้กระทั่งถ้าเธอไม่ได้ความและเป็นลบ หลังจากที่เธอเรียนธรรมวิถีกวนอิม ปาฏิหาริย์ก็จะยังคงเกิดขึ้น เธอจินตนาการออกไหมว่า ถ้าเธอมีความเป็นบวกมากกว่านี้ มีศรัทธามากกว่านี้ เธอจะมีพลังมากกว่านี้สักเพียงไร? เธอให้พรตัวเธอเองให้พรชีวิตเธอ ให้พรโลกทั้งโลก ให้พรจักรวาล และทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทุกหนแห่ง ไม่ว่าเธอจะเดินไปที่ไหน ฉันขอให้เธอทำเช่นนั้น แล้วมันก็จะเกิดขึ้น เด็กคนนั้นเขาอายุแค่ 16 ปีเท่านั้นและเขาก็พูดแบบนั้นด้วย ทั้งหมู่บ้านไม่ยอมพูดกับเขา ไม่ยอมเข้าใกล้เขา เพราะครอบครัวของเขายากจนมาก โดยบอกว่าพวกเขาโชคไม่ดีหรือพวกเขาไม่ดีหรืออะไรบางอย่าง แต่เด็กชายก็พูดว่า “ฉันจะพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาผิด” ดังนั้นเขาจึงทำงานวันละ 18 ชั่วโมงตอนอายุ 16 ปีเพื่อเลี้ยงดูพี่ ๆ น้อง ๆ 5 คนของเขาและตายายสูงอายุของเขา เขาบอกว่าเขาไม่กลัวอะไรเพียงแค่ว่า เขาอาจจะเจ็บป่วยแล้วเขาก็ไม่สามารถจะทำงานได้ แต่ระหว่างนั้นเขาก็ยังคงศึกษาสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเขาเอง หาหนังสือที่เขาสามารถหาได้จากบางแห่ง และเนื่องด้วยจิตรารมย์แบบนั้นเองทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ด้วยเงินเพียงแค่ 30 ปอนด์สเตอริงเท่านั้น เขาก็สามารถซื้อที่ดินผืนหนึ่งและแพะจำนวนหนึ่ง ทำเนยแข็งและนม และปลูกผักซึ่งพอเพียงสำหรับทั้งครอบครัว ดังนั้น เงินที่ฉันส่งไปจึงเป็นมากกว่าปาฏิหาริย์ ฉันส่งไปให้เขามากกว่า 10 เท่านอกเหนือจากสิ่งที่ส่งไปให้คนอื่น ๆ ด้วย เป็นเพียงแต่ว่าเขามีจิตตารมย์ที่แข็งแกร่ง และเขาก็ไม่ได้ประทับจิตเสียด้วยซ้ำ เขาไม่ได้มีอะไรทางจิตวิญญาณหรืออะไรพิเศษ เขาเพียงแต่ต้องการเอาใจจดจ่อในการทำงานเลี้ยงดูครอบครัวของเขา พลังที่แข็งแกร่งเช่นนั้นสามารถทำให้ปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้ มันเป็นปาฏิหารย์สำหรับพวกเขา เพราะว่า ครอบครัวทั้งครอบครัวต้องการเพียงแค่ 30 ปอนด์ที่จะเป็นอิสระไปตลอดกาล และตอนนี้เขาก็มีมากกว่านั้นแล้ว สำหรับประเทศนั้นสำหรับสถานการณ์แบบนั้นมันเป็นเหมือนโชคขนาดใหญ่ ยกตัวอย่าง ถ้าหากจู่ ๆ เธอได้รางวัล 100,000 ปอนด์ และทั้งหมดที่เธอต้องการอาจจะเป็น 10,000 ปอนด์ นั่นก็จะเป็นปาฏิหาริย์ มันจะเป็นการแสดงถึงปาฏิหาร และเด็กชายคนนี้ก็สมควรได้รับมัน เนื่องจากสิ่งที่เขาพูดมาจากจิตรารมย์ที่เป็นบวกภายในตัวของเขา และเนื่องจากการเสียสละที่เขาทำสำหรับครอบครัวของเขา มันเป็นบวกมาก และยังคงแข็งแกร่งมากจนมันสามารถทำให้ปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้ ดังนั้น เธอจะสามารถทำได้มากกว่านี้สักเท่าไรในสถานการณ์ที่โชคดีของเธอ ด้วยพลังทางจิตตารมณ์ที่เธอได้รับและได้มา และยังคงพัฒนาต่อไป? เราสามารถทำให้อะไรก็ได้เกิดขึ้นด้วยพลังจิต เพียงคิดในสิ่งที่ดีสำหรับผู้อื่น และทำสิ่งที่ดีสำหรับผู้อื่น นั่นคือปาฏิหาริย์ที่เธอกำลังทำอยู่ทุกวัน เธอคือปาฏิหาริย์! เธอคือปาฏิหาริย์สำหรับคนอื่น ๆ สำหรับตัวเธอ สำหรับผู้ที่ด้อยโอกาส สวรรค์ทำจากสิ่งนั้นแหละ เธอคิดว่าสวรรค์เป็นอะไรล่ะสำหรับเด็กคนนั้นที่อายุ 16 ปี เพื่อเขาได้รับมากกว่า 10 เท่าสำหรับสิ่งที่เขาต้องการให้กับครอบครัวทั้งครอบครัวตลอดกาล? เธอคิดว่า สวรรค์มีหน้าตาเป็นอย่างไรหรือว่ามหัศจรรย์มีหน้าตาเป็นอย่างไรล่ะ ดังนั้นเราสร้างปาฏิหาริย์อยู่ตลอดเวลา สร้างมันด้วยมือเราเอง เพราะว่าเราหามัน และด้วยมือเหล่านั้นเราสามารถให้พลังที่ค้ำจุนชีวิตกับคนที่โชคร้ายบางคน เราสามารถปลอบประโลมพวกเขาด้วยความคิดของเรา ด้วยคำพูดของเรา และด้วยความกรุณาที่เต็มไปด้วยความรักของเรา ทั้งหมดเหล่านี้เป็นปาฏิหาริย์ที่เธอกำลังทำขึ้นอยู่ทุกวัน และฉันภูมิใจในตัวเธอที่เธอกำลังทำสิ่งนั้น ไม่ว่าเวลาใดที่มีใครต้องการเธอ เธอก็ให้และเป็นที่น่าประหลาดใจที่สังคมของเรายังมีคนที่ต้องการเรา ไม่เพียงแค่ในแอฟริกาเท่านั้น ดังนั้น เราจึงมีโอกาสที่จะทำอะไรบางอย่างทุกวัน บางทีเราเพียงแค่ให้เงิน 50 เซ็นต์กับผู้ไร้ที่อยู่อาศัยสำหรับชาอุ่น ๆ บางที 1 ปอนด์กับคนอื่นที่เจ็บป่วยและทำงานไม่ได้ บางทีเป็นกาแฟ 1 ถ้วยแก่เพื่อนบ้านเมื่อเธอไม่สามารถออกไป และอาจจะซื้อยาให้เธอเมื่อเธอจำเป็นต้องไป แต่ไม่สามารถไปได้ บางทีอาจจะแค่ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะว่า ทั้งหมดเหล่านั้นเป็นปาฏิหาริย์สำหรับคนที่ไม่สามารถทำได้ มันเป็นปาฏิหาริย์ ก็เหมือนกับเธอ เมื่อเธอต้องการมาที่นี่ แต่ไม่สามารถมาได้ ดังนั้นพอเธอสามารถมาได้ เธอก็พูดว่า “โอ้ มันเป็นปาฏิหาริย์!” (ทุกคนหัวเราะ) ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นตลอดเวลา ปาฏิหาริย์ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เธอต้องการ สำหรับเธอปาฏิหาริย์เป็นแค่ไปพบผู้หญิงแปลกหน้าบางคน ท่านอาจารย์ล้อเกี่ยวกับตัวท่านเอง ไม่ต้องหาเงินทองหรือใส่ใจ ถ้าเธอไม่มีเลย นั่นคือปาฏิหาริย์ปาฏิหาริย์ที่เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่แค่เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอ สำหรับเด็กชายในราวันดา ของขวัญ 30 ปอนด์เป็นปาฏิหาริย์ขนาดใหญ่ และมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ มากกว่า 10-12 เท่า พอเพียงสำหรับครอบครัวทั้งครอบครัวไปตลอดกาลหรืออย่างน้อยที่สุดไปตลอดชีวิต เพื่อสร้างชีวิตของพวกเขาทั้งหมดและแข็งแกร่ง เด็กชายอาจจะสามารถทำธุรกิจได้ด้วย ไม่เพียงแค่เนยแข็งที่ทำมาจากแพะ อาจจะเป็นฟาร์มหรืออะไรบางอย่าง และเขาจะสามารถส่งพี่ ๆ น้อง ๆ ของเขาไปโรงเรียนได้ด้วย และหาซื้อยาสำหรับตายายสูงอายุของเขาและช่วยคนอื่น ๆ ในเวลาต่อมา เมื่อเขารวยขึ้น มันเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่สำหรับเขาเท่านั้น เพราะว่ามีใครบางคนช่วยให้เขาในตอนนี้ ต่อมาในภายหลังเขาก็จะช่วยคนอื่น ๆ นั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนเสมอ! เขาจะไม่มีวันลืมวันที่เขาต้องการ และเขาจะเข้าใจคนที่ต้องการเช่นกัน คนแบบนั้นจะไม่ลืม ดังนั้น มันไม่ใช่ว่าฉันเพียงแค่ช่วยเขาหรือครอบครัวของเขา มันจะดำเนินไป ความกรุณาจะได้รับการชดใช้ เมื่อความกรุณาที่มากขึ้นและคนจำนวนมากขึ้นได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น และสิ่งนี้คือหนทางที่ดี นี่คือวิธีการที่เราควรใช้ชีวิตของเรา เราบ่มเพาะความกรุณา เราหล่อเลี้ยงมันทำให้มันเติบโตขึ้นและกระจายไปทั่วโลก และนั่นคือวิธีการที่โลกกลายเป็นโลกที่ดีขึ้น มันมีผลกระทบต่อเราในหลาย ๆ ทาง ไม่ใช่เพียงแค่ทางด้านจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ทางด้านวัตถุด้วย สิ่งที่เธออาจจะไม่ทราบก็คือมันมีผลกระทบต่อรัฐบาล กระทบต่อผู้นำ และกระทบต่อสันติภาพ มันมีผลกระทบต่อทุกสิ่ง ตัวอย่าง เธอได้เห็นแล้วว่าตอนนี้คนจำนวนมากขึ้น ๆ เป็นมังสวิรัติ เธอได้เห็นว่าสงครามในไอร์แลนด์จบลงแล้ว และเกาหลีใต้เกาหลีเหนือมาพูดคุยกัน มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เราไม่สามารถแม้กระทั่งจดจำได้ในบางครั้ง แม้กระทั่งจักรพรรดิของญี่ปุ่นแค่อ่านจดหมายแสดงออกถึงความเห็นใจ และมีความรักให้กับโลกทั้งโลก บอกว่าพระองค์เสียใจเพียงไร และพระองค์รู้สึกเห็นใจเพียงไรต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของสงคราม สิ่งนี้ไม่เคยกระทำมาก่อน เธออาจจะคิดว่า เป็นเพราะความกดดันทางเศรษฐกิจหรือทางการเมือง แต่สิ่งนั้นมันมีอยู่เสมอ นี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ประเทศใด ๆ มีแรงกดดันจากคนอื่น ๆ จากประเทศอื่น ๆ หรือจากพลังนานาชาติ และมันไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ชาวญี่ปุ่นหรือประเทศอื่น ๆ มีแรงกดดันเช่นนั้น ดังนั้น มันกำลังดีขึ้นตลอดเวลา แน่นอน ยังคงมีการชำระล้างของอสูร แต่ที่เหลือจะโอเคและเข้มแข็ง และจะดีขึ้นตลอดเวลา ดูสิว่าเราได้ยกระดับขึ้นในทุกด้านสูงแค่ไหน เรื่องภัยพิบัตินั้นมันไม่สามารถทำอะไรได้ นั่นเป็นกรรมของพลังอสูร แต่มิฉะนั้นแล้ว พัฒนาการอะไรก็ตามมันก็จะดีขึ้น ๆ ตลอดเวลา เธอจินตนาการออกไหม เมื่อก่อน กับตอนนี้ที่เรามี? (ท่านอาจารย์หยิบโทรศัพท์มือถือ) พูดที่ชิ้นสี่เหลี่ยมแบบนั้นว่า “ฮัลโหล!” แล้วคนจากอีกฝั่งหนึ่งของจักรวาลก็ตอบเธอ และยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่าง เธอสามารถใส่เพลง 1,000 เพลงเข้าไปในไอพอดเล็ก ๆ นั้น ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน หรือเพลง 300 เพลงในแท่งเล็ก ๆ แบบนั้นที่เหมือนกับชิ้นหมากฝรั่ง มันทรงพลัง! ในปัจจุบันนี้ เราสามารถเห็นกันและกันจากระยะทางเป็นแสนไมล์ เพียงแค่ว่าถือของที่เป็นรูปจัตุรัสในมือของเรา เรามีภาพวีดิทัศน์ มีเพลง มีดีวีดี ทุกสิ่งทุกอย่าง และคนที่อีกซีกโลกหนึ่งสามารถเห็นมันเหมือนกับมันอยู่ที่ตรงหน้าพวกเขา แต่มันอยู่ในมือของเธอ สิ่งนั้นจะเป็นมหัศจรรย์เมื่อ 10 ปีก่อนหรือแม้กระทั่ง 50 หรือ 70 ปีก่อน ดังนั้น ชีวิตจึงเป็นปาฏิหาริย์ตลอดเวลา ถ้าหากเธอมองดู เธอก็จะเห็นมหัศจรรย์ เพียงแต่ว่าบางครั้งเราไม่ได้ใส่ใจ เราปรารถนาในสิ่งอื่น ๆ ซึ่งไม่สำคัญหรือจำเป็นเลย ปาฏิหาริย์อยู่ในมือของเธอ เมื่อเธอออกไป เธอทำงานปาฏิหาริย์ที่อยู่ข้างใน เธอออกไปทำงานและเธอนำปาฏิหาริย์กลับมาที่บ้าน แล้วเธอก็สามารถแพร่กระจายปาฏิหาริย์เหล่านั้นรอบ ๆ ตัวเธอและไปทั่วโลก เรามีปาฏิหาริย์ตลอดเวลา ร่างกายทั้งร่างกายเป็นปาฏิหาริยิ์ย์! ขอเพียงแค่ใช้มันและทำความปาฏิหาริย์ให้มากขึ้น ถ้าเธอไม่ใช้มันก็จะไม่มีปาฏิหาริย์มากมายเท่าใดนัก เว้นแต่ ถ้าเธอสามารถเห็นมันได้ นั่นนับว่าดีแล้ว อย่ารอจนกระทั่งเธอตาบอด และคิดว่า “โอ พระเจ้า ก่อนนี้ฉันมีมหัศจรรย์” ขอให้เห็นคุณค่ามันทุกวัน ขอให้ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณจักรวาลสำหรับพลังค้ำจุนที่ทำให้โลกทั้งโลกไม่หล่นไปยังที่ใด ที่ทำให้พระอาทิตย์อยู่ในท้องฟ้า ที่ทำให้ดวงจันทร์ออกมาและพูด “สวัสดี” กับเธอทุกเดือนตรงเวลาโดยที่ไม่ต้องใช้นาฬิกา ปาฏิหาริย์อยู่ทุกหนแห่ง หิมะนำน้ำมาให้กับสวนของเธอ และสำหรับการเกษตร ทุกอย่างเป็นปาฏิหาริย์เพราะฉะนั้นอย่าทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่ขอให้ใช้มันเพื่อลงทุนและสร้างมหัศจรรย์ให้เพิ่มมากขึ้น ใช้มืออันมหัศจรรย์ของเธอทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้นมากขึ้น ด้วยความสำเร็จทางการเงินที่มากขึ้น แล้วเธอก็จะสามารถสนุกกับชีวิต และกระจายมันออกไป และชีวิตของเราก็เรียบง่าย ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถช่วยคนอื่นได้ เพราะว่า เราไม่ได้ต้องการอะไรมากมายนัก เธอใช้ในสิ่งที่เธอมี และอะไรก็ตามที่เธอมีก็คือปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งผมของเธอ เธอสามารถทำได้หลายร้อยพันอย่างกับมัน อย่ารอจนกระทั่งเธอสูญเสียมันไปทั้งหมดและพูดว่า “โอ มหัศจรรย์ของฉันได้จากไปแล้ว” (ทุกคนหัวเราะ) เราสามารถมองดูโลกรอบ ๆ ตัวเรา นั่นก็เป็นปาฏิหาริย์ขนาดใหญ่อยู่แล้ว เธอจินตนาการออกไหม ถ้าเธอไม่มีสิ่งนั้น ในเวลากลางคืนขณะที่เธอกำลังคลำอยู่ในความมืด เธอรู้ว่ามันเป็นอย่างไรที่ปาฏิหาริย์ของหูเธอที่ทำให้เธอได้ยิน สุขภาพของเธอ เนื้อเยื่อทั้งหลายในร่างกายของเธอที่ทำหน้าที่ได้อย่างสอดคล้องกัน นั่นก็คือปาฏิหาริยิ์ เมื่อบางอย่างผิดปกติไป เธอก็มาเห็นคุณค่าว่าแต่ก่อนมันดี บางครั้งมันก็สายเกินไป แต่ก็นับว่าดีที่ชีวิตของเธอและร่างกายของเธอมีความกลมกลืนเข้าด้วยกัน จิตใจ สมอง และร่างกายทำงานร่วมกัน เพื่อทำให้เธอเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และเธอก็งดงามแล้ว งดงามมาก เธอมีทุกสิ่งทุกอย่าง เธอไม่ขาดอะไรเลย
|