รายงานตามคำสั่งและการจัดอันดับของท่านอาจารย์


♥♥♥♥♥


สหภาพยุโรป

ชาวยุโรปเป็นอิสระ
จากพรมแดนแห่งชาติ

 

 

โดยกลุ่มข่าวฟลอริด้า (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

ในวันที่ 30 เมษายน ปีทองปีที่ 3 (2549) เครื่องกีดขวางระหว่างชาติที่ยังหลงเหลือมากมายในยุโรปได้หายไป เมื่อมีการเคลื่อนไหวเสรีทางสหภาพยุโรป กฎหมายนี้ทำให้พลเมืองสหภาพยุโรปและสมาชิกในครอบครัวเป็นพลเมืองเต็มขั้นของประเทศในสหภาพยุโรปทุกประเทศ และที่เป็นจุดเด่นก็คือ ผู้ที่เป็นเพศเดียวกันถือว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวด้วย ไม่เคยมีมาก่อนเลยที่ประเทศใด ๆ ออกนโยบายที่เปิดกว้างและเมตตาเช่นนี้มาก่อน
คำสั่งการเคลื่อนไหวอิสระเป็นการสะสมมาหลายปีของกฎหมายในประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรป รวมไปถึงสนธิสัญญาเชนเกน (โปรดดูธรรมสารฉบับ 166) ซึ่งได้ให้อิสรภาพแก่พลเมืองสหภาพยุโรปที่จะเดินทาง และเคลื่อนไหวอย่างเสรีในระหว่างประเทศสหภาพยุโรปอื่น ๆ พลเมืองของสหภาพยุโรป 7 ล้านคนก็ได้ใช้ประโยชน์นี้แล้วในอิสรภาพใหม่ของพวกเขา และกำลังอาศัยอยู่ในประเทศของสหภาพยุโรปอื่น ๆ

ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 มี 4 ประเทศ คือ กรีซ โปรตุเกส สเปน และฟินแลนด์ ได้ก้าวขั้นต่อไปโดยการเปิดตลาดแรงงานให้กับคนงานของสหภาพยุโรปทุก ๆ คน ประเทศทั้ง 4 เหล่านี้ได้ทำตามประเทศผู้นำคือ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และสวีเดน ซึ่งได้เปิดตลาดงานของพวกเขาในปีทองปีที่ 1 (2547) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวโปแลนด์เกือบครึ่งล้านคนได้อพยพไปยังสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์

ในขณะนี้ มีความหวาดวิตกมากว่า คนงานจากประเทศที่ยากจนกว่าจะหลั่งไหลเข้าไปยังประเทศที่ร่ำรวยกว่า และแย่งงานจากพลเมืองท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ผลของการอพยพนี้ไม่ได้เป็นที่คาดคิดไว้โดยสิ้นเชิง ตามรายงานของคณะกรรมการสหภาพยุโรป ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ประเทศที่รับคนงานใหม่ ๆ ได้มีการลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากภาวะว่างงาน และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นเหนือกว่าของประเทศปิด ประเทศที่รับไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายในเรื่องสวัสดิการความเป็นอยู่ แต่รัฐบาลกลับประหยัดเงิน ที่จะต้องใช้ในการออกกฎหมายที่ไม่เป็นมิตรและไม่จำเป็น 1

รายงานจากนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหราชอาณาจักร Ernst & Young ซึ่งออกเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2549 ได้กล่าวว่า “การไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องสู่สหราชอาณาจักร เป็นไปในด้านบวกสำหรับเศรษฐกิจอย่างเด่นชัด ผลโดยตรงก็คือแรงงานของสหราชอาณาจักรเป็นคนหนุ่มสาวมากขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระทางด้านเงินบำนาญ และทำให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนมากได้คาดไว้” 2 รายงานทำนองนี้ได้ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ในไอร์แลนด์

ด้วยข่าวที่เป็นบวกทั้งหลายนี้จากเกาะอังกฤษ ประเทศฝรั่งเศส และเยอรมันนีก็ได้ตัดสินใจที่จะเปิดการจ้างงานมากมาย ตลาดแรงงานทั่วสหภาพยุโรปจะเปิดเต็มที่เมื่อถึงปี 2554 ตามกฎของสหภาพยุโรป ข้าหลวงการค้าแห่งสหภาพยุโรป ปีเตอร์ แมนเดลซัน รุกเร้าให้ประเทศต่าง ๆ เคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น ในคำพูดของเขาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ว่า “ขอให้มีความกล้า ขอให้ละทิ้งความกลัวของคุณ จงฉลองโอกาสที่เพื่อนชาวยุโรปทั้งหลายได้มีในขณะนี้ อันเป็นผลมาจากการขยายให้ใหญ่ขึ้น” 3

ยุโรปกำลังมองหาลู่ทางที่จะเปิดตะวันออกกลางและแอฟริกา เหตุการณ์สำคัญก็คือ การออกคำสั่งการลี้ภัยของสหภาพยุโรปในเดือนธันวาคม ปีทองปีที่ 2 (2548) ซึ่งยกระดับสิทธิของผู้อพยพจากประเทศกำลังพัฒนา ประเทศตุรกีกำลังเตรียมการที่จะเข้าไปยังสหภาพยุโรปซึ่งจะเป็นการรวมตัวของประเทศมุสลิมและตะวันตก แอฟริกาก็ได้ทำตามตัวอย่างของสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิด โดยที่ได้มีการจัดตั้งสหภาพแอฟริกา (เอยู)

นโยบายใหม่ ๆ ของสหภาพยุโรปสะท้อนให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวในสิทธิของผู้อพยพที่เพิ่มขึ้น ในเดือนพฤศจิกายน 2548 การจลาจลและการประท้วงของผู้อพยพได้เกิดขึ้นในฝรั่งเศสและประเทศสหภาพยุโรปอื่น ๆ ในเดือนเมษายน 2549 ประชาชนกว่า 1 ล้านคนได้เดินขบวนรอบ ๆ สหรัฐเพื่อสิทธิของผู้อพยพ ซึ่งเป็นหนึ่งในการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ สิทธิของผู้อพยพจู่ ๆ ก็ได้กลายเป็นนโยบายสูงสุดทั่วโลก ในเดือนกันยายน 2549 สหประชาชาติจะจัดให้มีการพูดเป็นครั้งแรกในระดับสูงเกี่ยวกับการอพยพระหว่างประเทศ ติดตามด้วยการประชุมระหว่างประเทศ เป็นประวัติศาสตร์สหประชาชาติ 2546 ในเรื่องการปกป้องสิทธิของคนทำงานลี้ภัยทั้งหลาย

ในขณะที่ประชากรของโลกกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศต่าง ๆ ก็ได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วด้วยการค้าเสรีและการพัฒนาทางการขนส่งและการติดต่อสื่อสาร อย่างเช่น อินเตอร์เน็ต การเคลื่อนไหวอย่างอิสระของประชาชนเป็นพรมแดนขั้นสุดท้าย การอพยพได้นำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างอัศจรรย์แก่ประเทศ อย่างเช่น ฟอร์โมซา อินเดีย และ จีน นักศึกษาชาวอินเดียและชาวจีนนับพันคน ซึ่งศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยในประเทศตะวันตกและทำงานในประเทศตะวันตกได้กลับไปยังบ้าน และฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นของพวกเขา ซึ่งยังประโยชน์ให้ทั่วทั้งโลก ขณะนี้เรื่องราวที่สำเร็จเหล่านี้กำลังถูกนำไปใช้ในประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ

ความเห็นสาธารณะในประเทศพัฒนาแล้วได้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด สู่ความเมตตาสำหรับผู้อพยพ จากการสำรวจในเดือนพฤษภาคม 2549 ซึ่งออกโดยคณะกรรมการยุโรป อิสระแห่งการเคลื่อนไหวของบุคคลและสินค้าคือ “กล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน” โดยพลเมืองสหภาพยุโรป ในฐานะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของสหภาพยุโรป พร้อมกับสันติภาพและการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนา แม้จะมีความกลัวที่ตีพิมพ์ออกมากว้างขวางเกี่ยวกับการสูญเสียงาน พลเมืองของสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ก็ยังสนับสนุนการขยายตัวของสหภาพยุโรปไปยังประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า 4

รายงานของยูเนสโกปี 2548 ได้กล่าวว่า ข้อเสนอใหม่ที่ชื่อว่า การอพยพโดยเอาพรมแดนแห่งชาติออกไป ได้ถูกถกเถียงกันอย่างกว้างขวางโดยผู้เชี่ยวชาญในนโยบายต่างประเทศ ข้อมูลสถิตินับหลายปีได้ชี้ให้เห็นข้อสรุปอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่า การใช้เงินในการบังคับการจำกัดพรมแดนเสียเงินมากกว่าการช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยเข้าประเทศ ซึ่งท้ายที่สุดก็ให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศทั้งสอง ในไม่ช้าได้มีการถกเถียงกัน ความคิดของประเทศต่าง ๆ จะล้าสมัย และเราทั้งหมดจะอยู่ใน “หมู่บ้านทั่วโลก”ที่รวมกันในหลายวัฒนธรรม5

หมายเหตุจากท่านอาจารย์: *ใช่ นั่นเป็นแบบที่มันควรจะเป็น

 

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ๆ