ถ่ายทอดข่าวสารของพระเจ้าไปยังบุตรของพระองค์

ในระหว่างวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-17 เมษายน ปีทองปีที่ 3 (2549) เพื่อนบำเพ็ญ 25 คนจากศูนย์โอ๊คแลนด์ได้เยี่ยมเมือง 26 เมืองทางตอนเหนือของโอ๊คแลนด์เพื่อแบ่งปันข่าวสารอันเมตตาของทางเลือกใหม่ในการดำรงชีวิตให้กับชาวเมือง

เมืองส่วนใหญ่นั้นพิงเขาและมีทะเลอยู่เบื้องหน้า บางเมืองเข้าถึงได้โดยทางเรือเท่านั้น มันเป็นความจริงที่เราสามารถพูดได้ว่า เรากำลังปีนภูเขาและข้ามทะเลเพื่อแจกใบปลิว กระนั้นก็ดีพวกเราทุกคนต่างก็เพลิดเพลินในภูมิทัศน์อันงดงามตลอดการเดินทาง พี่ประทับจิตหญิงได้กล่าวว่า “ช่างเป็นการเดินทางที่มีความหมาย ที่สามารถแจกจ่ายใบปลิวและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ในเวลาเดียวกัน!” เพื่อนประทับจิตจำนวนมากบอกว่า มันเป็นการไปเยือนครั้งแรกของพวกเขายังเมืองเล็ก ๆ เหล่านี้ และถ้าไม่ใช่เป็นการแจกใบปลิวแล้วละก็ พวกเขาก็ไม่สามารถได้เห็นภูมิทัศน์อันงดงามเช่นนี้ได้

ในเมืองห่างไกลบางเมืองเป็นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของชาวเมารีนเมือง เป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับพวกเขาที่ได้เห็นคนแปลกหน้าเข้ามาแจกใบปลิว บางคนก็ตื่นตัวและมาถามพวกเราด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม อย่างไรก็ดี การแสดงออกของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพวกเขาได้เห็นใบปลิว ใบปลิวเหล่านี้ที่ออกแบบโดยท่านอาจารย์ ได้ละลายความหนาวเย็นบนใบหน้าของพวกเขาเหมือนสายลมอันอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ หลังจากที่พวกเขาได้อ่านใบปลิวแล้ว ทุกคนก็พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ และรับใบปลิว ช่างน่ารักจริง ๆ สำหรับเด็ก ๆ ที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสามากมายในเมืองกระตือรือร้นที่จะแจกใบปลิว

มันยากเสมอที่จะจองห้องพักในช่วงวันหยุดอันยาวนาน โดยเฉพาะในไททาเอีย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งเราจะต้องพักอาศัยในคืนแรกของการเดินทาง เราพยายามที่จะหาโรงแรมเล็ก ๆ แค่ 5 วันเท่านั้นก่อนที่เราจะออกเดินทาง เป็นที่น่าประหลาดใจที่เราค้นพบโรงแรมเล็ก ๆ ทันที ซึ่งมีห้องพักจำนวนพอดี คล้ายกับว่ามันได้ถูกจองไว้ให้กับเราเป็นพิเศษ หลังจากเช็คอินเข้าโรงแรมแล้ว เราก็พบว่า ห้องของเรานั้นเงียบสงบอบอุ่นน่าอยู่ และทุกห้องนั้นก็หันหน้าเข้าหาสวนเล็ก ๆ อันงดงาม ยิ่งไปกว่านั้น ห้องทุกห้องของเราก็มีครัวซึ่งเพื่อนบำเพ็ญของเราสามารถทำอาหารมังสวิรัติได้ เจ้าของโรงแรมใจดีมากและมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี ยินยอมที่จะให้เราวางใบปลิวที่เคาน์เตอร์สำหรับผู้มาพักที่สนใจ

ทันทีหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราแต่ละคนก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่ของเราที่ได้มอบหมายให้ไว้เมื่อคืนก่อน และได้เริ่มแจกจ่ายใบปลิวประตูบ้านถึงประตูบ้าน ซึ่งเราได้ครอบคลุมเมืองทั้งเมือง เราได้ขับไปยังเมืองอื่นเพื่อแจกต่อไป ยกเว้น เมื่อเดินทางโดยรถยนต์ เราทำงานเกือบจะไม่มีเวลาพัก แต่ทุกคนก็ยังมีพลังกระชุ่มกระชวยและมีจิตใจร่าเริง พี่ประทับจิตหญิงซาบซึ้งใจในประสบการณ์นี้ได้กล่าวว่า “มันแปลกนะ! ฉันมีกำลังวังชามากขึ้นและมากขึ้น!”

คืนวันที่ 2 และ 3 เราได้พักที่โรงแรมวังกาเร วังกาเรเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในการเดินทางของเราไปยังภาคเหนือ โรงแรมนี้เราจะต้องพักอย่างน้อย 2 วันติดกัน พี่ชายที่ได้วางแผนการเดินทางไม่ค่อยพอใจกับข้อกำหนดเหล่านี้ เพราะว่า นั่นหมายความว่าเราจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการเดินทางไป ๆ มา ๆ อย่างไรก็ตาม การแจกจ่ายงานก็ได้ดำเนินไปเร็วกว่าที่ได้วางแผนไว้ และปรากฏว่าการพักค้างคืน 2 วันติดต่อกันในโรงแรมเดียวกันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เรารู้สึกทึ่งอีกครั้งหนึ่งในการจัดการอันมหัศจรรย์ของท่านอาจารย์

ในวันที่ 3 ของเราผู้ประทับจิตจำนวนมากได้ไปยังเมืองเล็ก ๆ 2-3 แห่งทางตอนเหนือ ในขณะที่ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองวังกาเร โดยหวังที่จะแจกจ่ายใบปลิวให้กับทุกครัวเรือน ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น ผู้ประทับจิตก็ออกเดินทาง ทำงานอย่างรวดเร็วและหนัก ยกเว้น ช่วงพักสั้น ๆ สำหรับอาหาร พวกเขาเดิน 7-8 ชั่วโมงส่วนใหญ่บนถนนที่ลาดชัน เป็นที่น่าประทับใจมากที่ได้เห็นเพื่อนประทับจิตทำงานอย่างหนักและจริงใจ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความรักของท่านอาจารย์แก่ทุกคน

ผู้ประทับจิตหญิงได้รำลึกถึงเหตุการณ์ในเมืองวังกาเรว่า “ฉันเห็นตู้จดหมายบางตู้เขียนไว้ว่า ‘ไม่รับจดหมายขยะ! ไม่รับใบโฆษณา! เอาเฉพาะจดหมายนิวซีแลนด์’ และแต่ละครั้งที่ฉันได้เห็นแบบนั้น ฉันก็จะรู้สึกถึงความขัดแย้งภายในและอยากจะข้ามบ้านนั้นไป แต่แล้วฉันก็คิดว่าจะเป็นที่น่าเสียดายอย่างมากสำหรับพวกเขาที่จะพลาดข่าวสารอันมีค่าเหล่านี้ไป! ครั้งหนึ่งขณะที่ฉันใส่ใบปลิวด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงไปในตู้จดหมายที่มีคำเตือนนี้ ชาวเมารีที่ตัวสูงบึกบึนหน้าอกเปลือยเปล่าวิ่งมาหาฉันและตะโกนว่า ‘เธอกำลังทำอะไรอยู่?’ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาได้อ่านใบปลิวที่ฉันได้ให้กับเขา เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรว่า ‘เธอได้ใส่ใบปลิวในตู้จดหมายของฉันหรือเปล่า?’ และหลังจากที่ฉันได้พยักหน้าเขาก็คืนใบปลิวให้กับฉันด้วยความพึงพอใจ”

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวนี้จากพี่สาวและพี่ชายก็ได้แสดงความเห็นของเขาว่า “ใบปลิวนี้ไม่ใช่จดหมายหรือเป็นการโฆษณา มันเป็นข่าวสารอันมีเมตตาจากพระเจ้า และลูกทุกคนของพระเจ้าก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับข่าวสารอันสำคัญนี้จากพระบิดา ในกรณีที่เราได้เผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เราควรถือโอกาสนี้บอกพวกเขาว่า ‘ใบปลิวนี้บอกให้พวกคุณรู้ถึงประโยชน์ของอาหารมังสวิรัติ ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราหลีกเลี่ยงจากโรคภัยติดต่อร้ายแรงในปัจจุบันนี้ คุณยังสามารถพบเว็บไซต์ของอินเตอร์เน็ตในใบปลิวที่จะสอนว่า จะทำอาหารมังสวิรัติอันเอร็ดอร่อยอย่างไร และจะซื้อหาเครื่องปรุงมังสวิรัติได้ที่ไหน’ เมื่อผู้คนได้ตระหนักว่า ใบปลิวที่เราให้กับพวกเขาได้แบ่งปันข่าวสารแห่งความรักและความห่วงใย และคิดถึงผู้อื่น พวกเขาก็จะประหลาดใจอย่างน่ายินดีและรู้สึกมีความสุขมาก”

เพื่อนประทับจิตอีกคนหนึ่งพูดด้วยความรู้สึกที่ลึกล้ำว่า “ใบปลิวนี้ ที่ออกแบบโดยท่านอาจารย์ เต็มไปด้วยปัญญาจริง ๆ และเข้าอกเข้าใจถึงผู้อื่นเป็นอย่างมาก แต่ละครั้งที่มันเข้ามาในใจฉันว่า คนจำนวนมากขึ้นจะได้รับความรักของท่านอาจารย์ ฉันก็รู้สึกเป็นสุขในหัวใจ! ทุก ๆ เช้าฉันพยายามที่จะนั่งสมาธิให้เสร็จเร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ไปเดินเล่นสั้น ๆ ในขณะที่แจกใบปลิวไปตามทาง ไม่เพียงแต่ร่างกายของฉันจะแข็งแรงขึ้น แต่ฉันก็ยังรู้สึกมีความสุขด้วยทั้งวัน หลังจากที่ฉันได้จบการแจกจ่ายใบปลิว สิ่งที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้นั้นเป็นความจริงมากคือ การช่วยเหลือผู้อื่นก็คือการช่วยเหลือตัวเรา”

เช้าตรู่ของวันสุดท้าย เพื่อนประทับจิตยังคงเดินไปตามถนนต่อไป ทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่า ทุก ๆ บ้านในวังกาเรได้รับใบปลิว ในที่สุดเมื่อเราได้ทำงานเสร็จสิ้นลง พวกเราทุกคนต่างก็มีความสุข! ก่อนที่พวกเราจะจากไป เราก็ได้อธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางของเราให้แก่พนักงานต้อนรับ และแสดงความปรารถนาของเราที่จะทิ้งใบปลิวของเราจำนวนหนึ่งไว้ที่บนโต๊ะสำหรับนักท่องเที่ยว เธอแนะนำว่า สถานที่รับประทานอาหารเป็นที่ที่ดีที่สุด เรายังได้ถ่ายรูปกับเพื่อนบำเพ็ญอีกด้วย ในช่วงเวลานั้นเรารู้สึกว่า โลกนั้นกำลังดีขึ้นและดีขึ้นจริง ๆ

เราได้ค้นพบความสำคัญพิเศษในโอกาสนี้ที่ได้ถ่ายทอดข่าวสารอันมีค่าของพระเจ้าให้กับผู้คนของโลก ในโอกาสแห่งการระลึกถึงการถูกตรึงกางเขนและการฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์ในหัวใจของเรา ขอบคุณท่านอาจารย์มากที่ได้ให้วันหยุดพิเศษเช่นนี้แก่พวกเรา

ถ่ายทอด ข่าวสารของพระเจ้า ไปยังบุตรของพระองค์

รายงานโดยกลุ่มข่าวโอ๊คแลนด์