สร้างหมู่บ้านเมตตาและมังสวิรัติโลก
เกาหลี

พวกเรากำลังต้องการเปิดการเรียนการสอนเรื่องอาหารมังสวิรัติ

รายงานโดยกลุ่มข่าวฟูซาน (ต้นฉบับเป็นภาษาเกาหลี)

เนื่องจากมีชาวเกาหลีจำนวนมากขึ้นสนใจต่ออาหารมังสวิรัติ ดังนั้น สหภาพครูทั่วประเทศ (KTU-Korean Teachers & Education Workers’ Union) เริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของอาหารเจ สมาคมเคทียูสาขาฟูซานเป็นสาขาที่มีกิจกรรมมากและคึกคักที่สุด สมาคมสาขาฟูซานเชิญครูที่ศูนย์ฟูซาน จัดงานสอนอาหารมังสวิรัติสักครั้ง หัวข้อเรื่อง “อาหารมังสวิรัติช่วยเหลือเด็กๆ” งานครั้งนี้บังเอิญเป็นวันเดียวกับวันเกินท่านอาจารย์ คือ วันที่ 12 พฤษภาคม เนื่องจากเป็นความบังเอิญที่วิเศษสุด เพื่อนบำเพ็ญต่างเชื่อว่า จากการให้พรของท่านอาจารย์ การจัดงานต้องประสบความสำเร็จ

คุณหลี่ จีจู นายกสมาคมเคทียูสาขาฟูซาน อธิบายถึงความสัมพันธ์ในครั้งนี้ว่า ได้ลงในอินเตอร์เนตด้วยบทความที่มีหัวข้อเรื่อง ‘พวกเรากำลังต้องการเปิดการเรียนการสอนเรื่องอาหารมังสวิรัติ’ “การสังเกตพฤติกรรมการบริโภคของนักเรียน ช่วยให้ครูเข้าใจถึงปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนได้ พวกเราต่างทราบว่าอาหารมีความสำคัญต่อพวกเรามาก ดังนั้น ข้าพเจ้าคิดว่า การอธิบายถึงเรื่องอาหารมังสวิรัติเป็นวิธีเลือกอีกวิธีหนึ่งในการรับประทานอาหาร และจากวิชาการของอาหารมังสวิรัติมาวิจัยถึงวัฒนธรรมของการทานอาหาร พวกเราหวังว่า พวกท่านที่มีประสบการณ์กับอาหารมังสวิรัติด้วยตนเองและจากคุณธรรมของพวกท่าน มาคิดกันว่า พวกเราควรจะทำอะไรบ้าง”

งานการสอนได้จัดขึ้นที่ศูนย์กาชาดประจำฟูซาน เมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคม งานได้วางโครงการไว้อย่างยอดเยี่ยม ขณะนั้นยังได้จัดการดูแลเด็กๆ และเด็กเล็กเป็นพิเศษ เพื่อให้ทั้งครอบครัวได้เข้าร่วมงานด้วย ครูและครอบครัวรับแผ่นปลิวทางเลือกใหม่และข้อมูลที่เกี่ยวกับอาหารมังสวิรัติที่ทางเข้า และฟังเพื่อนบำเพ็ญคนหนึ่งบรรยายอย่างลึกซึ้ง เขาได้ให้ความคิดที่สมเหตุผลและเป็นธรรมมาเน้นเรื่องประโยชน์และความสำคัญของอาหารมังสวิรัติมีผลกระทบต่อความประพฤติ และเหมาะเป็นการเรียนการสอนให้กับนักเรียน

เขากล่าวว่า “จากการเปรียบเทียบสัตว์ที่กินเนื้อกับสัตว์ที่กินเจ พวกเราสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายว่า อาหารสามารถสร้างนิสัยของพวกเราได้ แม้พวกเราจะทราบดีถึงประโยชน์ของอาหารมังสวิรัติ แต่ยากที่จะปฏิบัติ เหตุมันอยู่ตอนนี้ พวกเราไม่ได้มองเห็นชัดเจนของความหมายอันลึกซึ้ง แต่การปฏิวัติช่วยเหลือทางโลก ต้องเริ่มจากบนโต๊ะอาหารเล็กๆ ของพวกเรา โลกจะสามารถพัฒนาต่อไปหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเราเองว่า จะทำการเปลี่ยนแปลงบนโต๊ะอาหารอย่างไร”

“ถ้าหากคุณครูให้การชมเชยนักเรียนทานอาหารมังสวิรัติมื้อหนึ่ง ก็จะมีผลต่อคุณภาพที่แท้จริงต่อนักเรียนในห้อง ถ้าหากทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ต่างเปลี่ยนแปลงความคิด แล้วนักเรียนของท่านก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้น ข้าพเจ้าเชื่อว่า การสอนการเรียนแบบนี้สมควรทำอย่างยิ่ง“

การเปลี่ยนแปลงบนโต๊ะอาหารเล็กน้อย เกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งอย่างไรกับโลกของเรา เป็นการเปรียบเทียบที่สนุก ได้รับเสียงปรบมือและตอบรับจากผู้ชม จากการบรรยายอย่างกระตือรือร้น จากนั้นได้ฉายภาพยนตร์ซึ่งสร้างขึ้นจากบริษัทโทรทัศน์เอสบีเอส “จะกินดีอย่างไรและมีชีวิตที่ดีอย่างไร” รายการ 40 นาทีได้เคยไปฉายที่ช่องโทรทัศน์สำคัญ เอสบีเอส ทีวี ของเกาหลีเมื่อหลายปีก่อน เป็นที่ฮือฮาในเกาหลี ในขณะนั้น ในรายการได้วิเคราะห์ว่า ทำไมพวกเราควรทานอาหารมังสวิรัติ? ทำไมเนื้อสัตว์จึงไม่เหมาะกับมนุษย์? เมื่อภาพยนตร์จบลง ผู้ชมต่างแบ่งปันความคิดเห็นการยุติการทานเนื้อสัตว์ คุณครูสาวที่มีสามีและลูกมาเป็นเพื่อนกล่วว่า ลูกของเธอป่วยเป็นโรคชนิดหนึ่ง ดังนั้น ตัวเธอเองมีความสนใจต่ออาหารมังสวิรัติมาก คุณครูอีกท่านหนึ่งตัดสินใจเริ่มทานมังสวิรัติหลังงานวิเคราะห์นี้

ต่อจากนั้นผู้ชมร่วมแบ่งปันอาหารบุฟเฟต์ที่เลิศรสที่เพื่อนบำเพ็ญจัดเตรียมอย่างดีมาให้ บนโต๊ะอาหารที่ยาวสิบกว่าเมตรที่มีอาหารมังสวิรัตเลิศรสหลากหลาย ทำให้ผู้คนตื่นเต้น มีผู้ชมคนหนึ่งตื่นเต้นกับสารอาหารมังสวิรัติที่หลากหลาย และเปลี่ยนแปลงความเห็นของเขา ที่ว่าอาหารมังสวิรัติทานแต่หญ้า เขาได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอาหารมังสวิรัติอีกมากมาย

นับเป็นงานพิเศษสุดและมีความหมายที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะว่า เป็นก้าวแรกของระบบโรงเรียนที่ก้าวสู้การเรียนการสอนอาหารมังสวิรัติ เมื่อเห็นเหล่าคุณครูที่ได้เปิดใจ และเข้าใจทางเลือกวิถีชีวิตแบบมังสวิรัติ เพื่อนบำเพ็ญต่างรู้สึกว่า ารก้าวสู่ยุคทองของพวกเรา กระแสอาหารมังสวิรัติจะมีความแพร่หลายมากขึ้นทุกวัน ทุกคนต่างขอบคุณท่านอาจารย์ที่ให้พรและเมตตา จัดการทุกอย่างให้กับพวกเราทุกอย่าง งานครั้งนี้มีผลสำคัญต่อการเรียนการสอนอาหารมัสวิรัติในอนาคต สมาคมเคทียูสาขาฟูซานนี้มีความหมายมาก และกล่าวว่าพวกเขาจะลองเสนอการเรียนการสอนอาหารมังสวิรัติเข้าสู่โรงเรียนแต่ละแห่ง ทางศูนย์ฟูซานก็วางโครงการ โดยเอาข้าราชการกรมอนามัยกและองค์กรคุ้มครองสุขภาพแห่งชาติเป็นเป้าหมาย จัดการเรียนการสอนอย่างเดียวกันต่อไป

 

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ๆ