รายงานสื่อมวลชน
ความกล้าหาญของคนคนเดียวทำให้เห็นชัดถึง
ความเสียหายแท้จริงของการรับประทานเนื้อสัตว์

โดยกลุ่มข่าวฟลอริด้า (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 จอห์น เวอร์รอล แพทย์ปรุงยาของสหราชอาณาจักรได้ออกประกาศที่น่าตกใจแก่ เดลี่เมล์ (สหราชอาณาจักร) เขาได้อ้างว่า รัฐบาลอังกฤษได้จงใจปกปิดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ในเรื่องความเสี่ยงอย่างรุนแรงที่มีต่อ สุขภาพในการรับประทานเนื้อวัวที่ฉีดฮอร์โมนเพศ The เรื่องราวในเดลี่เมล์ ได้กระจายไปอย่างรวดเร็วสู่หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ทั่วโลก

นายเวอร์รอล นักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นที่เคารพซึ่งมีประสบการณ์ 49 ปี อยู่ในคณะกรรมการของผลิตภัณฑ์สัตวแพทย์ของรัฐบาลที่มองข้ามฮอร์โมนที่ใช้ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ เขาจำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วยข่าวอื้อฉาวนี้ หลังจากที่คำเตือนของเขาต่อคณะกรรมการซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ถูกละเลย

สิ่งที่น่ารบกวนใจที่สุดเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างก็คือ เจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักรได้ถูกเปิดโปงมาแล้วหลายครั้งหลายหน ในเรื่องการปกปิดโรควัวบ้าและอันตรายอื่นๆ ของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ จ็อฟฟรีย์ ลี นักหนังสือพิมพ์ที่ได้รับรางวัลได้ประกาศว่า “จะมีหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ไหม ถึงความผิดและความไม่ใส่ใจของผู้ที่ควรปกป้องอาหารของเราให้ปลอดภัย ยิ่งไปกว่าคนที่ถูกปิดปากอย่างจอห์น เวอร์รอล?”

http://www.dailymail.co.uk/pages/live/articles/news/news.html?
in_article_id=393885&in_page_id=1770

ความจริงอันน่าตกใจของฮอร์โมนเพศในเนื้อสัตว์

ทำไมเกษตรกรจึงฉีดฮอร์โมนเพศในวัว? ฮอร์โมนเพศทำให้วัวมีกล้ามเนื้อเติบโตขึ้น ฮอร์โมนเหล่านี้มีส่วนประกอบพื้นฐานเป็นเทสโตสเตอโรน ได้ถูกห้ามใช้ในหมู่นักกีฬาเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ฮอร์โมนตัวอื่นๆ มีเอสโตรเจนเป็นพื้นฐานซึ่งฮอร์โมนนี้จะหยุดยั้งวัฏจักรการสืบพันธุ์ของวัว ทำให้มันสร้างกล้ามเนื้อได้รวดเร็วขึ้น ผลจากการฉีดฮอร์โมนนั้นรวดเร็วมาก : วัวที่ถูกฉีดฮอร์โมนจะสร้างเนื้อได้วันละ 3 ปอนด์ ซึ่งเร็วกว่าวัวที่เลี้ยงอย่างธรรมชาติ 20%

เป็นที่ปรากฏชัดว่า ฮอร์โมนเพศนั้นเป็นสารเคมีที่ทรงพลังมาก เรื่องนี้เป็นที่แน่นอนว่า ทำไมมันจึงถูกห้ามใช้ในหมู่นักกีฬา มันไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของวัวที่ถูกฉีดฮอร์โมนเท่านั้น (ซึ่งจะถูกฆ่าในไม่ช้า) แต่กระทั่งสารฮอร์โมนจำนวนน้อยมากที่ตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์ ก็สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงระยะยาวต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ ได้

สารตกค้างเล็กน้อยมากของฮอร์โมนเหล่านี้ได้ถูกพบมาตลอดแล้วในระบบนิเวศน์ ซึ่งแพร่กระจายโดยลมและน้ำ ยกตัวอย่าง ฮอร์โมนที่ถูกฉีดเข้าไปนี้ 12% ได้ผ่านโดยตรงจากวัวไปสู่มูลของพวกมัน ซึ่งสร้างมลภาวะให้กับแม่น้ำและลำคลอง นักชีววิทยากล่าวว่า ความพิการของปลาและสัตว์เลี้อยคลาน เป็นผลมาจากฮอร์โมนจากมูลวัว โดยทั่วไปความพิการนี้คล้ายคลึงกับความพิการของผู้ใช้สารสเตอร์รอยด์ในมนุษย์ ยกตัวอย่าง องคชาติและอัณฑะของเพศชายจะหดเล็กลง และเพศหญิงจะมีลักษณะแบบเพศชาย

สำหรับมนุษย์ที่รับประทานเนื้อสัตว์ซึ่งมีสารฮอร์โมนตกค้าง ผู้ที่เสี่ยงที่สุดก็คือ เด็กและหญิงมีครรภ์ ความสมดุลของฮอร์โมนเพศในการสร้างร่างกายมีความอ่อนไหวอย่างสูง และมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้มากมาย เรื่องนี้รวมถึง มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลูกอัณฑะ และองคชาติที่หดเล็กลงในเด็กทารกเพศชาย

ในสหรัฐอเมริกา ณ ที่ซึ่งวัว 90% จะถูกฉีดฮอร์โมนเพศ อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าในยุโรป 45% และมะเร็งต่อมลูกหมากก็สูงกว่าในยุโรป 2 เท่า อัตราการเป็นมะเร็งที่สูงขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับ การเป็นสาวที่เร็วขึ้น-เด็กหญิงในสหรัฐอเมริกามีประจำเดือนเร็วขึ้น 2 ปีเทียบกับเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมาก่อนมีการใช้ฮอร์โมนอย่างกว้างขวาง จากคำกล่าวของคาร์ลอส ซอนเนนไชน์ จากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเทิฟส์ในบอสตัน สหรัฐอเมริกา สาเหตุที่น่าเป็นไปได้มากที่สุดของอัตราการเป็นมะเร็งที่สูงขึ้นนี้ก็คือ ฮอร์โมนที่ฉีดเข้าไปในเนื้อสัตว์

http://www.sciencenews.org/articles/20020105/bob13.asp

การปกปิด

ในปีพ.ศ.2545 คณะกรรมาธิการนักวิทยาศาสตร์ในสหภาพยุโรปได้ทบทวนการศึกษา 17 อย่างเกี่ยวกับผลของฮอร์โมนในเนื้อวัว และได้สรุปว่ามีความเสี่ยงอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผลนี้การฉีดฮอร์โมนในวัวจึงถูกห้ามในสหภาพยุโรปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มันไม่ถูกห้ามในหลายๆ ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งเกษตรกรก็ได้ส่งเนื้อวัวไปยังสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปได้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวที่มีฮอร์โมนอย่างเป็นทางการ แต่สหภาพยุโรปก็ไม่ได้ทดสอบเนื้อสัตว์ที่นำเข้า และผู้เชี่ยวชาญก็เชื่อว่า เนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนก็ยังคงเข้ามาในยุโรป ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ในขณะนี้กำลังพยายามยกเลิกข้อห้ามนี้โดยสิ้นเชิง

การเปลี่ยนแปลงเมื่อเร็วๆ นี้ในตำแหน่งของคนสำคัญในรัฐบาลของสหราชอาณาจักรก็คือ บริษัทที่ชื่อว่า มอนซานโต ซึ่งเป็นบริษัทหลายเชื้อชาติที่ผลิตฮอร์โมนเพศ มอนซานโตได้สร้างพันธมิตรกับกลุ่มอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ อย่างเช่น สมาคมคนเลี้ยงเนื้อวัวในสหรัฐอเมริกา และกลุ่มนี้ก็ได้โกงการเจรจาในองค์การค้าโลก (WTO) ขณะนี้กลุ่มนี้กำลังพยายามบังคับสหภาพยุโรปให้ยอมรับเนื้อวัวที่มีฮอร์โมนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ว่า พลเมืองส่วนใหญ่ของสหภาพยุโรปคัดค้านอย่างรุนแรง บนพื้นฐานของทั้งสุขภาพมนุษย์และความสุขของสัตว์สืบเนื่องมาจากการออกเสียงลับๆ ขององค์การค้าโลก ซึ่งเป็นที่โต้แย้งกันว่า ถูกบังคับโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหภาพยุโรปต้องจ่ายเงินให้สหรัฐอเมริกาปีละ 120 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนข้อห้ามการนำเข้านี้ การตัดสินขั้นสุดท้ายขององค์การค้าโลกจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2549

จอห์น เวอร์รอล ซึ่งอยู่ในตำแหน่งคณะกรรมการผลิตภัณฑ์สัตวแพทย์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ทราบเกี่ยวกับกลยุทธ์มือหนึ่งของมอนซานโต ในอดีตเขาได้เปิดโปงเกี่ยวกับการกระทำของมอนซานโตที่ให้งานที่ทำกำไรงามแก่ข้าราชการ ทันทีที่พวกเขาออกจากงาน ขณะนี้เนื่องจากแรงกดดันมหาศาลซึ่งทนายของมอนซานโตสร้างขึ้นโดยผ่านองค์การค้าโลก ทำให้คณะกรรมการผลิตภัณฑ์สัตวแพทย์ ตัดสินใจคัดค้านรายงานของนักวิทยาศาสตร์สหภาพยุโรป สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การล้มเลิกการคัดค้านของรัฐบาลสหภาพยุโรป ในการนำเข้าเนื้อสัตว์ที่มีฮอร์โมน-และนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรมากที่สุดของมอนซานโตคือผลิตภัณฑ์ดัดแปลงพันธุกรรม

ภาพลวงตาของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์

สงครามที่ถูกกฎหมายเหล่านี้กำลังเกิดขึ้น เบื้องหลังประตูที่ปิดโดยนักกฎหมายนานาชาติ ตามกฎขององค์การค้าโลก ความคิดเห็นของพลเมืองโดยทั่วไป ไม่สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในนโยบายการค้า ซึ่งขึ้นอยู่กับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ตามที่จอห์น เวอร์รอลได้เปิดเผยออกมา ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญกำลังถูกควบคุมโดยบริษัทอุตสาหกรรม เวอร์รอลไม่ได้รับอนุญาตแม้กระทั่งให้รวมความเห็นขัดแย้งของเสียงข้างน้อยในคณะกรรมการ ซึ่งเป็นมาตรฐานการรายงานของผู้เชี่ยวชาญ เข้าไว้ในรายงานของคณะกรรมการผลิตภัณฑ์สัตวแพทย์ ซึ่งเป็นรายงานที่เป็นทางการของรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องฮอร์โมน เขาและสมาชิกในคณะกรรมการที่ไม่เห็นด้วย คือ ศาสตราจารย์ไดอาน่า แอนเดอร์สัน ซึ่งเป็นผู้นำผู้เชี่ยวชาญในเรื่องผลของการฉีดฮอร์โมน ถูกละเลยเพิกเฉยอย่างสิ้นเชิง แม้มีความจริงว่า เวอร์รอลได้ให้หลักฐานอันใหม่จาก การศึกษามากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ความเสี่ยงของฮอร์โมนต่อสุขภาพมีความรุนแรงมากกว่าที่เคยเชื่อมาก่อน คณะกรรมการไม่ได้พิจารณาเรื่องเหล่านี้เลยในรายงาน ดังนั้น เวอร์รอลจึงถูกบีบบังคับให้ต้องตีพิมพ์ความเห็นขัดแย้งของคณะกรรมการฝ่ายข้างน้อยออกมาสู่สาธารณชนทางอินเตอร์เน็ต และทำให้ความไม่เชื่อถือศรัทธาแก่คณะกรรมการ

http://foodethicscouncil.org/node/166?PHPSESSID=1d4a99ca9cfa75d141f0704fe92b1284PHPSESSID=1d4a99ca9cfa75d141f0704fe92b1284

สืบเนื่องจากการกระทำเยี่ยงวีรบุรุษของเวอร์รอล สหภาพยุโรปอาจจะสนับสนุนข้อห้ามขณะนี้เกี่ยวกับฮอร์โมน อย่างน้อยที่สุดก็จนกระทั่งเมื่อการเจรจาขององค์การค้าโลกสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ประเด็นฮอร์โมนนี้เป็นเพียงหนึ่งในสงครามอันหนึ่งเท่านั้นในสงครามที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ซึ่งกำลังรบกันอยู่ระหว่างอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์กับสาธารณชนที่ไม่มีความกังขา นี่คือ สงครามแห่งข้อมูลผิดๆ และกลโกงที่ถูกกฎหมาย ซึ่งปกปิด ผลที่แท้จริงของการรับประทานเนื้อสัตว์ ที่มีต่อสุขภาพของสาธารณชนและสิ่งแวดล้อม แม้ว่าความเห็นของสาธารณชนที่มีต่อความสุขของสัตว์ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสภาพความจริงของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์สมัยใหม่ก็อยู่ต่ำกว่ามาตรฐานคุณธรรมของสังคมทุกวันนี้ ความจริงนี้ได้ถูกปกปิดไว้-ห่อไว้ในพลาสติกตามที่มันเคยเป็น (โปรดดูธรรมสารฉบับ 164 คอลัมน์ “อาจารย์กล่าว” สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม) ดังนั้น อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์จึงได้ปล้นหลอกลวงนโยบายของรัฐบาลและเยาะเย้ยกระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ได้ไม่นานนักหรอก เพราะคนกล้าหาญอย่างบุคคล เช่น จอห์น เวอร์รอล ความจริงก็กำลังจะถูกเปิดเผย เพราะคนกล้าหาญอย่างบุคคล เช่น จอห์น เวอร์รอล ความจริงก็กำลังจะถูกเปิดเผย เพราะคนกล้าหาญอย่างบุคคล เช่น จอห์น เวอร์รอล ความจริงก็กำลังจะถูกเปิดเผย