การพัฒนาเชิงบวกในโลก

การส่งมอบอาวุธในติมอร์ตะวันออก

โดยกลุ่มข่าวบริสเบน (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

 

ในวันที่ 16 มิถุนายน ปีทองปีที่ 3 (2549) เหตุการณ์อันน่าทึ่งได้เกิดขึ้นในติมอร์ตะวันออก ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ติดกับอินโดนีเซีย ผู้นำของ กลุ่ม ทหารซึ่งได้ต่อสู้กับรัฐบาลได้เต็มใจวางอาวุธของเขาให้แก่ผู้รักษาสันติภาพ ซึ่งนำโดยชาวออสเตรเลีย และได้สั่งให้พรรคพวกของเขาทำเช่นเดียวกัน[1]

ในเดือนเมษายน 2549 ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นในติมอร์ตะวันออก ทำให้คน 133,000 คนต้องระหกระเหิน และตำรวจและฝ่ายกบฎต้องเสียชีวิตจำนวนมาก[2] ประเทศเล็กๆ นี้เกือบจะเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง ผลที่เกิดขึ้นก็คือผู้รักษาสันติภาพมากกว่า 2,200 คนได้เข้ามาในติมอร์ตะวันออก โดยมาจากประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย และโปรตุเกส เพื่อช่วยนำความสงบเรียบร้อยมาสู่ประเทศ[3 ]

การยอมมอบอาวุธได้เกิดขึ้นที่เมืองดิลิ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของติมอร์ตะวันออก เมื่อนายพลอัลเฟรโด เรย์นาโด ยอมมอบปืนเอ็ม 16 ของเขาให้แก่กองทัพออสเตรเลีย และสั่งให้พรรคพวกของเขาทำเช่นเดียวกัน ได้มีการยกคำพูดของนายพลเรย์นาโดดังนี้ “ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน นี่คือกลไกอีกแบบหนึ่งเพื่อให้ถึงวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ก็คือ ความสงบและความยุติธรรม” ได้มีการส่งมอบปืนจำนวนมากซึ่งถูกเก็บไว้ในกล่องเหล็ก[4]

การยอมมอบอาวุธเป็นการกระทำที่ทรงพลัง ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจและความสงบสุขทางจิตใจในหมู่อาณาประชาราษฎร์ทั่วไป การกระทำเยี่ยงวีรบุรุษนี้เป็นเรื่องที่โดดเด่นเป็นพิเศษในติมอร์ตะวันออก เนื่องจากประเทศนี้ได้เผชิญกับสงครามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายทศวรรษ ซึ่งทำให้สูญเสียชีวิตนับแสน กระนั้นก็ดี ประเทศนี้เป็นแผ่นดินแห่งบทกวีอันมีชื่อเสียงและหัตถกรรม และเป็นที่รู้จักกันดีเป็นพิเศษในการผลิตไม้จันทน์ ขณะนี้เป็นยุคทอง เมื่อพลเมืองของประเทศได้วางอาวุธสงครามลง เกาะอันหอมหวนนี้ก็ก้าวทะยานขึ้นสู่สถานภาพที่เป็นธรรมชาติของมัน ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะสวรรค์ที่งดงามที่สุดในแปซิฟิค

[1] http://www.guardian.co.uk/international/story/0,,1799284,00.html
[2]
http://www.radioaustralia.net.au/news/stories/s1665096.htm
[3]
http://www.radioaustralia.net.au/news/stories/s1667326.htm
[4]
http://abcasiapacific.com/news/stories_to/1665096.htm