เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการบำเพ็ญ

 

 

 

ชีวิตที่
แพงน้อยกว่า และมีความสุขกว่า

ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่
เซอร์เรย์ สหราชอาณาจักร
7 มกราคม 2549
(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

บางทีพวกเราสิ้นเปลืองเงินไปกับอะไรหลายๆ อย่าง ที่เราไม่จำเป็น มิฉะนั้นแล้ว ชีวิตของเราคงจะแพงน้อยกว่า และมีความสุขกว่า มีรายการโทรทัศน์อยู่รายการหนึ่ง ฉันดูเมื่อสองวันที่แล้ว ในรายการเล่าว่า มีชายผู้หนึ่ง ซึ่งสมควรจะจ่ายเงินอยู่เป็นเวลา 20 ปี แต่มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งมาสอนพวกเขา สอนคู่สามีภรรยาว่า จะจ่ายเพียงภายใน 2 ปีได้อย่างไร และพวกเขาทำสำเร็จจริงๆ!

เขามาตรวจสอบดูว่า มีอะไรก็ตาม ที่พวกเขาตัดไปได้บ้าง เป็นต้นว่า สามีชอบซื้อเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ นานา แล้วเขาก็กล่าวว่า “คือว่า อันนี้ไม่ต้องใช้ๆ!” แล้วเขาก็ชอบซื้อของเป็นจำนวนมาก แล้วก็วางทิ้งไว้อย่างนั้น ดังนั้นประการแรก พวกเขาเอาออกไป ขายไปหมดขายของในโรงรถ แล้วก็รับเงินเข้ามา แล้วจากนั้น นับแต่นั้นเป็นต้นไป หากเขาจะซื้ออะไร เขาจะต้องคิดก่อน มันจะต้องจำเป็นจริงๆ! มิฉะนั้นไม่ให้ซื้อ นั่นเป็นประการแรก

ประการที่ 2 แทนที่จะไปร้านอาหารทุก ๆ วัน ไปร้านกาแฟหรือโรงอาหารอะไรก็ตามแต่ ก็ทำแซนด์วิชไปรับประทานเป็นอาหารกลางวัน แล้วนำกาแฟของตัวเองไป จากนั้นพวกเขาก็ประหยัดได้ทุกๆ เดือนเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่จำนวนมาก แต่ประหยัดตรงนี้ ประหยัดตรงนั้น ตรงโน้น ตรงนี้ แล้วมันก็บวกๆ กันเข้าไป

แล้วก็ 6 เดือนแรก พวกเขาเก็บเงินได้ประมาณ 6 พัน 6 พัน! เพราะฉะนั้น เดือนละ 1 พัน ตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย อย่างเช่น เด็กผู้หญิงจะสูบบุหรี่ด้วย เขาชี้ให้เห็นว่า บุหรี่ 2 ซอง สัปดาห์ละ 1 ซอง ราคา 14 ปอนด์หรืออะไรบางอย่างต่อสัปดาห์ เขาไม่ได้สูบ 2, 3 ซอง เขาคำนวณดูต่อปี ซื้อรถได้คันหนึ่งด้วยซ้ำ!/วัน ตลอดทั้งปี หรือ 2 ปี ในเวลา ๒ ปี และเวลา 2 ปีนั้น ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอสามารถซื้อรถได้คันหนึ่งด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่สูบบุหรี่! ฉันหวังว่า เธอไม่สูบ! (เสียงหัวเราะ)

แล้วก็จากนั้น แทนที่จะขับรถไปทำงาน ก็ขึ้นรถไฟไป อย่างเช่น เพื่อนประทับจิต 2 คนนี้ มันจะราคาถูกกว่า แล้วก็เร็วกว่า ปลอดภัยกว่า แล้วก็นั่งตรงนั้น อ่านหนังสือพิมพ์ ติดตามข่าวสารสิ่งต่างๆ อ่านหนังสือท่านอาจารย์ หรืออะไรก็ตาม หรือเรียนรู้อะไรใหม่ ในขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟ แล้วจากนั้น ก็สามารถประหยัดได้ประมาณ 100 หรือ 50 ต่อเดือน เปล่า มากกว่านั้นๆ! ทุกวันนี้ ค่าน้ำมันแพงมากใช่ไหม? แล้วถ้าเธอคอยวิ่งไปตรงนั้นตรงนี้อยู่ตลอดเวลา ขับรถไปทำงาน มันก็คงจะราคาแพงกว่าอีก มันขึ้นอยู่กับว่า เธอไปที่ไหน แน่นอน แต่อย่างน้อย เธอก็จะประหยัดได้ 2, 3 ร้อยปอนด์ต่อเดือน ถ้าเธอขึ้นรถไฟไป แล้วก็ไม่นั่งรถไปทำงาน หรือเปล่า? (ผู้บำเพ็ญ: เราไม่ต้องเสียค่าจอดรถด้วย) ใช่ ที่จอดรถและทุกๆ อย่าง เพราะฉะนั้น เธอจะประหยัดเท่าไร? พวกเธอคนหนึ่งบอกฉันหน่อย ถ้าเธอไม่ขับรถไปทำงาน เธอจะประหยัดได้เดือนละเท่าไร?

ผู้บำเพ็ญ 1 (ผ1): อาจจะ 200 เพราะมีค่าประกันภัย ค่าภาษีถนน และค่าจอด

อ: ฉันทราบ แต่ถึงแม้ว่าเธอไม่ขึ้นรถไป แล้วก็ยังต้องจ่ายค่าประกันภัยและภาษีถนนใช่ไหม? (ผ1: เวลาที่เราเลิกใช้รถ เราไม่ต้องจ่ายค่าประกันภัย) เปล่า สิ่งที่ฉันหมายความคือ ถ้าเธอไม่มีรถ แต่ถ้าเธอมีรถคันหนึ่ง จอดทิ้งอยู่ในโรงรถ เธอก็ยังต้องจ่ายอยู่ใช่ไหม? (ผ1: ใช่) หรือเธอจ่ายน้อยกว่าหรือเปล่า? (ผ1: เธอจ่ายค่าประกันภัยน้อยลงได้ เพราะในประเทศอเมริกา เธอจะจ่ายน้อยลง ถ้าเธอพิสูจน์ได้ว่า เธอขับรถออกไป ไม่มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง) โอ นั่นยิ่งถูกเข้าไปอีก! คือว่า ตีเสียว่าเดือนละ 200 โอ้โฮ 2,400! เธอเอามาซื้อของได้หลายอย่าง ในเวลา 10 ปี เธอจะมีเท่าไร? (ผ1: 24,000 แต่ถ้าเธอเอาไปลงทุนก็จะยิ่งได้มากไปกว่านั้น) ใช่ ๆ ๆ ! เราก็จะได้มากกว่านั้นอีกมาก เธอจะได้ดอกเบี้ยมากกว่า โอเค ถ้าอย่างนั้น เธออาจจะมี 3 หรือ 4 พันในเวลา 2 ปี (ผ1: เราจะมี 4,800 ในเวลา 2 ปี แล้วถ้าได้ดอกเบี้ย ก็อาจจะเป็น 5,500) โอ้โฮ! โอเค เห็นไหม? 5,500 เธอไปเทือกเขาหิมาลัยได้ นั่งได้เป็นเวลา ๕ ปี ไม่ต้องทำอะไรเลย (ทุกคนหัวเราะ)

ผ1: ท่านอาจารย์ บางทีผมอาจช่วยได้ ผมเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงิน

อ: ฉันทำแต่อย่างนี้! ฉันทำการวิเคราะห์ให้กับพวกเขา ยกตัวอย่าง แล้วจากนั้น นั่นไม่ใช่แค่นั้น ยังมีอย่างอื่นอีกมาก อย่างเช่น เธอไปซื้อเสื้อผ้าที่ลดราคา แทนที่จะซื้อที่กำลังเป็นแฟชั่น ก็รอจนกระทั่งถึงการลดราคาฤดูหนาว รวมทั้งการลดราคาท้ายฤดู เธอก็จะประหยัดเงินได้มากกว่ามาก แล้วก็ใส่เสื้อผ้าเรียบๆ ง่ายๆ ที่เหมาะแก่การใช้งานเท่านั้น เธอจะได้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนให้ทันสมัย อยู่ตลอดเวลา หรืออะไรอย่างนั้น คือว่า ถ้าเธออยากใช้ชีวิตอย่างเสรี เธอไม่สามารถคอยตามสมัยอยู่ตลอดเวลาได้ และเราไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นด้วยซ้ำ เป็นครั้งคราว อาจจะในกรณีพิเศษ ถ้าเธอไปทำงาน แล้วเธอต้องไปสัมภาษณ์ หรือมีงานบางอย่าง ที่ต้องใส่เสื้อผ้าที่ดูดี เธออาจจะต้องใช้ แต่เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเป็น จำนวนมากสำหรับเสื้อผ้ามียี่ห้อ ยังมีเสื้อผ้าที่ราคาถูกกว่าที่ดูดีเช่นกัน แล้วก็ดี อย่างนั้นเป็นต้น

แต่คู่สามีภรรยาคู่นั้น มิเพียงแต่ประหยัดเงินจากเรื่องพวกนั้น พวกเขายังทำงานพิเศษอีกต่างหาก หล่อนคล้ายกับร้องเพลงเก่ง ส่วนเขาทำอย่างอื่นเก่ง แล้วพวกเขาก็ออกไปทำงานกัน หาเงินพิเศษมาทุกๆ สัปดาห์ และเพราะเงินทุกบาท ที่เธอหามาได้ แล้วเก็บได้ นั่นก็หมายความว่า เป็นการหาเงินมาได้เช่นกัน และแน่นอน ถ้าเธอหาเงินมาได้เพิ่ม มันก็จะเพิ่มเติมเข้าไป เพิ่มอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นมีอยู่หลายวิธีที่เราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้โดยไม่ต้องทำงานเป็นจำนวนมาก โดยไม่ต้องทงานอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดวันตลอดคืน แค่เพื่อเผาพลังงานออกไปรวมทั้ง นอกเหนือจากนั้น เธอไม่ดื่มเหล้า เธอไม่รู้หรอกว่า แค่นั้นประหยัดเงิน เธอไปได้ขนาดไหนทุกๆ เดือน เธอทราบหรือเปล่า? (ผู้ฟัง : ทราบ) เป็นต้นว่า ถ้าเธอดื่ม อย่างเช่น เบียร์ 2, 3 แก้วทุกๆ วัน เธอจะประหยัดเงินเท่าไรต่อเดือน? (ผ2: 200) 200 ง่ายๆ เป็นเพราะไม่ใช่เพียงเธอดื่มตามลำพัง ยังมีเพื่อนมา แล้วจากนั้นก็ดื่มร่วมกัน จากนั้นเขาเชิญเธอ เธอก็ต้องเชิญเขา แล้วจากนั้นก็เพิ่มเติมเข้าไปอีกเรื่อยๆ มันจะเป็นอะไรที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้น ไม่เพียงแค่นั้น มันยังทำให้เธอเสียสุขภาพ แล้วเธอก็จะต้องไปหาแพทย์มากขึ้น ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากค่ายา ค่าประกันก็เพิ่มเติมขึ้น ถ้าเธอป่วยมากขึ้น ค่าประกันก็จะแพงขึ้น ต่อมา ถ้าเธออยากทำประกันสุขภาพ พวกเขาจะตรวจสอบดูว่า เธอไปหาแพทย์มาบ่อยแค่ไหน เธอป่วยแค่ไหน แล้วเขาก็จะคิดเบี้ยประกันแพงขึ้น

และไม่ใช่เพียงแค่นั้น ถ้าเธอประสบอุบัติเหตุ เธออาจจะเสียชีวิตไป หรือเสียแขนขาไปด้วยซ้ำ เธออาจจะต้องเสียแขนแล้วขาไป (ท่านอาจารย์และทุกคนหัวเราะ) ตามวิธีที่ชาวอังกฤษมักจะพูดกัน! แล้วจากนั้น ถ้าเธอตายไป โอเค ก็จบเรื่องกันแค่นั้น ดี! แต่ถ้าเธอไม่ตาย ถ้าเธอไม่ได้ตายไป เธอก็จะต้องพึ่งพาคนอื่นไปตลอดชีวิต อาจจะต้องใช้เครื่องช่วยสุขภาพ หรือเครื่องช่วยหายใจ เครื่องช่วยส่งออกซิเจน แล้วเธอก็จะได้แต่นอนอยู่ตรงนั้น แล้วเป็นภาระครอบครัวและสังคม และก่อความเศร้าให้กับใครๆ

เพราะฉะนั้น ไม่ต้องพูดถึงประโยชน์ของการทำสมาธิหรืออะไรก็ตาม งานของฉันได้ล้างปัญหาต่างๆ ให้กับเธอ เรียบร้อยแล้ว คำสอนของฉันได้ชะล้างปัญหาให้กับเธอ เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้เธอไม่ได้นั่งสมาธิเลย และเธอไม่เห็นผู้รู้แจ้งใดๆ หรือไม่กลายเป็นผู้รู้แจ้งใดๆ เธอก็ปลอดภัยแล้ว เป็นประชาชนที่ปลอดภัย สำหรับตัวเองและสำหรับโลก เพราะว่าการดื่ม แล้วก็ขับรถ เป็นการฆ่าชีวิตคนเป็นพันๆ เป็นหมื่นๆ คนทุกๆ วัน! แสนๆ คนเสียชีวิตทั่วโลกทุก ๆ วัน เป็นเพราะดื่มแล้วขับรถ ไม่ใช่เพียงเป็นอันตรายต่อคนขับ แต่คนขับอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เขาด้วย รวมถึงผู้หญิง เด็กๆ คนท้อง ทุกๆ คน! คำสอนของเราดีต่อเธอใช่ไหม? หรือไม่ใช่? มีอะไรอยากจะต่อว่าเกี่ยวกับคำสอนของฉันไหม? (เสียงหัวเราะ) ยกมือขึ้น ไม่มีหรือ! ดี!