ดูแลบุตรของพระเจ้าให้เจริญเติบโตขึ้น

 

 

หลังจากบำเพ็ญแล้ว
การสอนลูก
จึงจะประสบความสำเร็จ

เขียนโดยศิษย์พี่หญิงกัว ฟอร์โมซา (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

ลูกชายข้าพเจ้าเรียนชั้นมัธยม 2 วันหนึ่งเขานำเอกสารโรงเรียนขอความร่วมมือการสอนลูกของพ่อแม่มาให้ หัวข้อเรื่องคือ "จะช่วยเหลือลูกๆ ได้อย่างไร พร้อมช่วยตัวเองให้ก้าวหน้าไปด้วย" รายละเอียดประกอบด้วย ถ้าต้องการดูแลลูกให้ได้ดี ต้องดูแลตัวเองก่อน ต้องให้ตัวเองมีร่างกายที่แข็งแรงและอารมณ์ที่สดชื่น ต้องคอยสังเกตอารมณ์ของตนเองเสมอ อารมณ์ไม่ดีอย่าไปใส่ให้กับลูก ต้องเรียนรู้การเป็นพ่อแม่ที่มีอีคิวสูง จึงจะประสบความสำเร็จในการสอนลูก

เมื่ออ่านจบข้าพเจ้าเห็นด้วย ตัวพ่อแม่เองต้องบำเพ็ญก่อน จึงจะสามารถพัฒนาปัญญาและความรัก ทำให้อารมณ์ตัวเองมั่นคง จากนั้น สอนให้ลูกเดินไปทางแห่งคุณธรรมภายใต้บรรยากาศสมานฉันท์ เตือนเขาให้ทราบว่า การบำเพ็ญตนคือการบำเพ็ญธรรม ถ้าได้ประทับจิตบำเพ็ญธรรมวิถีกวนอิมกับท่านอาจารย์แล้ว ก็จะยิ่งดี! หมายความว่า ถ้าจะสอนลูก ตัวพ่อแม่เองต้องบำเพ็ญก่อน ต้องมีปัญญาและความคิดที่ถูกต้อง ทำเช่นนี้เด็กๆ ก็จะถูกบ่มเพาะจนทำตามตัวอย่างอันดีของพ่อแม่

วันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าไปนั่งสมาธิกลุ่ม วันนั้นเปิดภาพยนตร์การปราศรัยธรรมของท่านอาจารย์ที่ลอนดอน พอดีเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน จะสอนลูกๆ ได้อย่างไร ดูแลลูกๆ ให้เจริญเติบโต ข้าพเจ้าบอกกับลูกสาวคนโตว่า ต้องเป็นความคิดของพระเจ้า คุณครูต่างๆ เหล่านั้นอาจเป็นนิรมาณกายของท่านอาจารย์ เพื่อมาสอนผู้ปกครองที่มีบุญสัมพันธ์สอนลูกๆ ด้วยวิธีที่ถูกต้อง!

ครั้งหนึ่ง ลูกสาวคนรองที่ไม่ได้ประทับจิตพาหลานวัย 6 ขวบมาที่บ้าน เดิมทีได้ฟังคุณครูที่โรงเรียนกับลูกสาวว่า หลานเป็นเด็กที่ซนมากและดื้อด้วย แต่พอข้าพเจ้าเปิดภาพยนตร์เรื่อง "วีระบุรุษที่แท้จริง" ให้เขาดู หลานสาวตัวเล็กดูแล้วดูอีก และบอกกับข้าพเจ้าว่าชอบหนังเรื่องนี้มาก เมื่อคุณพ่อมารับตัวกับคุณแม่กลับบ้าน เขาไม่ยอมกลับบ้าน และแนะนำภาพยนตร์ให้คุณพ่อดู และบอกว่าจะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปให้คุณครูกับเด็กๆ ที่โรงเรียนดู ลูกสาวคนโตล้อแกว่า "ต่อไปหนูจะทานสเต็กเนื้ออีกหรือเปล่า?" เขาบอกว่า ไม่ทานแล้ว! เพราะทานสเต็กเนื้อต้องถูกปีศาจวัวจับไป!

จากเรื่องนี้ทำให้ทราบว่า เด็กๆ ก็ไร้เดียงสาอย่างนี้ พวกเขาเหมือนกับกระดาษขาวที่สะอาด ได้รับการกระทบจากภายนอกง่าย ถ้าพ่อแม่สอนด้วยวิธีที่ดี จะพาเด็กๆ ไปสู่ทางที่ถูกต้องและดีงาม ตรงกันข้าม ถ้าเอาแต่ดุและตี เด็กๆ จะกลัว แต่ใจไม่ยอมรับ ทำเช่นนี้มีแต่ทำให้พ่อแม่และลูกห่างเหินยิ่งขึ้น! นอกจากนี้แล้ว ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงเอาวัตถุมาเอาใจลูก เมื่อก่อนข้าพเจ้ามักจะดุว่าลูก เมื่อลูกดื้อ ต่อมาฟังคำสอนจากท่านอาจารย์ จึงค่อยๆ ใช้ความรักและการเกลี้ยกล่อมมาสอนลูก

ความรักของท่านอาจารย์สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ โดยผ่านภาพยนตร์ ภาพถ่าย หนังสือ สิ่งตีพิมพ์ ทำให้เขาเป็นคนที่มีปัญญา มีความรัก ดังนั้น ผู้ที่เป็นพ่อแม่ต้องมีความคิดที่ดีก่อน เด็กๆ จึงจะมีโอกาสได้รับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น ก่อนจะสอนลูก ต้องสอนตัวเองให้ดีก่อน ทำเช่นนี้จึงจะเป็นวิธีสอนลูกและรักลูกที่ดีที่สุด