บันทึกหนังสือดี

 

 

ความรักเป็นพื้นฐานวัฒนธรรมที่สูง
นำสวรรค์ที่มีความสุขมาให้กับมวลมนุษย์

 
เขียนโดยศิษย์พี่หญิงเอ๋อเอ่ ฟอร์โมซา(ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)

ต่อจาก "เด็กในดวงดาว:อามี"(“Ami, Child of the Stars,”) นิทานอามีวางตลาดแล้ว "ศูนย์กลางจักรวาล" (“Ami Returns”) กับ "วัฒนธรรมแห่งความรัก" (“Inner Civilizations”)ซึ่งเป็นตอนต่อไป ในตอนต่อไป อามีได้พาเพื่อนมนุษย์ต่างดาววินคา ไปเที่ยวดวงดาวอื่น ๆ กับปีเตอร์ และเข้าใจลึกซึ้งถึงความรักอันยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล

ความหมายของความรัก

จากหนังสือ 2 เล่มที่ต่อจากนั้น ได้กล่าวถึงความสำคัญของความรัก ความรักเป็นจุดนำทางในการวิวัฒนา ยิ่งวิวัฒนาการยิ่งหมายถึงเข้าใกล้ความรัก ความรักไม่เพียงเป็นพลัง แรงสั่นสะเทือนและแหล่งพลังงาน และเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข ความสุขคือผลของความรัก

พระเจ้าคือความรัก ที่กล่าวว่าพระเจ้าสร้างสรรพสิ่ง ความจริง พระเจ้าแปลงร่างเป็นจักรวาล ก้อนหิน เธอกับฉัน ดวงดาว กับก้อนเมฆสีต่าง ๆ เป็นต้น แม้พวกเราจะไม่ใช่ตัวพระเจ้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า เหมือนกับหยดน้ำในทะเลก็เป็นส่วนหนึ่งของทะเล พวกเราอาจเรียกได้ว่า เป็นเปลวไฟที่พ่นออกมาจากความรักของพระเจ้า

สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเป็นชีวิต รวมทั้งดวงดาวกับทางช้างเผือก ก็เป็นลักษณะของชีวิตอย่างหนึ่งเหมือนกัน ทั่วทั้งจักรวาลเป็นพันธุกรรมเดียวกันหมด แต่ในระบบการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันจะมีเส้นกลั่นกรอง สามารถกั้นสิ่งที่ไม่นิยมออกไป ป้องกันการถูกทำลาย การวิวัฒนาการ หมายถึง การยกระดับแรงสั่นสะเทือนของพวกเรา เพื่อให้พวกเรากลับสู่ธาตุแท้ นั่นก็คือ ความรัก

แต่ความรักก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกัน ชนิดหนึ่งคือความรักสรรพสัตว์ ก็คือความรักของพระเจ้า พุทธโพธิสัตว์ อีกชนิดหนึ่งคือ ความรักที่เจาะจง แม้มันก็คือความรักเหมือนกัน แต่ระดับไม่เหมือนกัน มันทำให้ผู้คนสายตาสั้น เพียงเพื่อความอยู่รอด เอาใจใส่ต่อตัวเองและผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น การพัฒนาความรักที่เจาะจงมากเกินไปมันทำให้คนทำผิด และเกิดสงครามได้ ดังนั้น ถ้ามาตรฐานเทคโนโลยีของโลกอยู่เหนือจิตใจคนที่รักซึ่งกันและกันแล้ว จะเกิดการโจมตีซึ่งกันและกัน นำมาซึ่งความล่มสลาย ความรักคือพลังเดียวของดาวดาวที่จะป้องกันการถูกทำลาย ต้องเป็นพื้นฐานในการสร้างวัฒนธรรม

วิวัฒนาการของดวงดาว
กับการเปลี่ยนแปลงของโลก

หัวข้ออีกอย่างในหนังสือได้อธิบายถึงระบบการวิวัฒนาการของดวงดาว ดวงดาวระดับที่ 1 ยังไม่มีรูปแบบชีวิต ดวงดาวระดับที่ 2 มีรูปแบบชีวิต แต่ไม่มีมนุษย์ ดวงดาวระดับที่ 3 มีมนุษย์ ดวงดาวระดับที่ 4 มนุษย์รวมตัวกัน จัดตั้งเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความรักเป็นกฏเกณฑ์ในการดำรงชีวิต

ในหนังสือเล่มที่ 1 "เด็กในดวงดาว" อามีได้กล่าวถึงวัฒนธรรมที่คล้ายกับทางโลกหลายล้านแห่ง ที่ไม่ผ่านการทดสอบและล่มสลายไป วัฒนธรรมแอทแลนติสของโลกก็เป็นหนึ่งในจำนวนดังกล่าว ในขณะนั้นวัฒนธรรมแอทแลนติส มีวัฒนธรรมเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาก แต่ความรักกับปัญญากลับพัฒนาไม่พอ นำมาซึ่งการสงคราม ทำลายโลกอย่างหนัก ทำให้ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่หมด

ในหนังสือกล่าวว่า ทุกครั้งที่ดวงดาวกำลังจะยกระดับ จะเกิดปรากฏการที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนกับโลกกำลังบิดขี้เกียจ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนทางผิวโลก และเมื่อนั้นดวงดาวจะปล่อยพลังงานใหม่ออกมา และกระแสแรงสั่นสะเทือนที่ไวและสูง รังสีที่ปล่อยออกมาเหล่านี้มีผล 2 ชั้น มันทำให้สรรพสัตว์ที่มีมาตรฐานการวิวัฒนาการต่ำเสียสติ สุดท้ายทำผิดใหญ่หลวงและทำลายตัวเอง สำหรับสรรพสัตว์ที่มีมาตรฐานการวิวัฒนาการที่สูงกว่า กระแสแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้กลับช่วยยกระดับพวกเขาให้สูงขึ้น

ปัจจุบันโลกกำลังวิวัฒนาการจากอันดับที่ 3 ถึงอันดับที่ 4 ที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลง กำลังเข้าสู่สหพันธ์มิตรภาพแห่งจักรวาล เนื่องจากสรรพสิ่งจะเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ถ้ามีดาวดวงหนึ่งล่มสลาย จะส่งผลกระทบต่อดวงดาวที่มีระดับสูงกว่า ดังนั้น สหพันธ์มิตรภาพแห่งจักรวาลจะพยายามให้ความช่วยเหลือกับดวงดาวที่กำลังเปลี่ยนแปลง การมาของอามีกับการพิมพ์จำหน่ายหนังสือชุดนี้ เป็นการช่วยเหลืออีกอย่างหนึ่ง จุดประสงค์เพื่อปลุกให้ผู้คนตื่นขึ้นมา

การให้สัญญาที่แท้จริง
กับ
ความหมายของความตาย
 

หนังสือตอนต่อไปได้ค้นคว้าหัวข้อ "ความตาย" ความจริง ไม่มีการตาย ในโลกแห่งการวิวัฒนาที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อมนุษย์เปลี่ยนร่างกายแล้ว จะไม่สามารถจำความในอดีตชาติได้ ดังนั้น จึงทำให้ผู้คนเข้าใจผิดต่อเรื่องความตาย มนุษย์อาศัยประสบการณ์ เหตุการณ์ สถานที่ ผู้คน และสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างกันมาเรียนรู้ เพื่อให้ตัวเองดีสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ แต่เนื่องจาก ผู้คนหลงใหลในสิ่งต่าง ๆ ไม่ยอมปล่อยวาง ดังนั้น ความตายเป็นหนทางเดียวที่จะก้าวสู่การเรียนรู้ในโลกอื่น ๆ ถ้าพวกเราไม่สามารถกำจัด "การไม่ยอมปล่อยวาง" ด้วยตนเอง ก็ต้องถูกบังคับให้จากไป เพื่ออำลาความทรงจำกับความหลงใหล แล้วเริ่มต้นกันใหม่

จากดวงดาวที่มีวิวัฒนาการสูงสุด ผู้คนนอกจากสามารถชะลอการทรุดโทรมของเซลล์แล้ว ยังสามารถทำให้จิตวิญญาณจากกายเนื้อหนึ่งไปสู่อีกกายเนื้อหนึ่งด้วย พร้อมรักษาจิตให้ตื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่สูญเสียความทรงจำ พวกเขาไม่หลงใหลในสิ่งที่ไร้สาระ ไม่ต้องผ่านความตายที่ทุกข์ทรมาน สามารถก้าวสู่โลกใหม่อย่างมั่นใจด้วยตนเองได้ ขณะเดียวกัน ยังคงความทรงจำในอดีตได้ ทุกครั้งที่ดวงดาวเข้าร่วมสหพันธ์มิตรภาพแห่งจักรวาล จะได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับการดำรงชีวิตชั่วนิรันดรจากดวงดาวที่มีระดับสูง ดังนั้น สำหรับผู้คนในโลกที่มีวัฒนธรรมก้าวหน้าแล้ว การดำรงชีวิตชั่วนิรันดร เป็นเรื่องจริง และได้รับการยอมรับ

บทความข้างต้นคัดมาจากหนังสือตอน 2 และ 3 ของอามี เนื้อหาสาระที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ เข้ากับคำสอนท่านอาจารย์ที่ปกติจะสอนพวกเราอยู่เสมอ (กรุณาอ่านธรรมสารฉบับที่ 163 คอลัมน์อาจารย์กล่าว หัวข้อ "ก้าวทันการวิวัฒนาการของจักรวาล" บทความดังกล่าว ท่านอาจารย์ได้อธิบายถึงระบบการวิวัฒนาการของโลก)พวกเราช่างโชคดีที่ได้พบกับยุคทอง เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลก และช่างโชคดียิ่งขึ้นที่มีผู้นำแห่งจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อย่างท่านอาจารย์ชิงไห่ มานำพาพวกเรา เติบโตภายใต้ความรักที่ยิ่งใหญ่ของท่าน และช่วยเหลือการวิวัฒนาการของโลกกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวใหญ่แห่งจักรวาลที่ดีสมบูรณ์

หมายเหตุ : เกี่ยวกับบันทึกบทความหนังสือดี "เด็กในดวงดาว : อามี" กรุณาอ่านธรรมสารฉบับที่ 166 ผู้เขียนได้เขียนใหม่เรื่องนี้ในปี 2548 และตั้งชื่อใหม่เป็น "มาจากดวงดาว" (From the Stars)