บุคคล งดงาม และเหตุการณ์ ที่งดงาม

ดอกเตอร์เจน กูดอล และหนังสือของเธอ “การเก็บเกี่ยวเพื่อความหวัง"


นักวิทยาศาสตร์มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
ส่งเสียงดังชัดเจน
เรียกร้องให้ประชาชน
เลือกอาหารที่เหมาะสม

 

โดยเพื่อนบำเพ็ญแฮบปี้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

เจน กูดอล ♥♥♥♥♥ เป็นผู้เชี่ยวชาญรุ่นหน้าสุดของโลกเกี่ยวกับลิงชิมแปนซี การวิจัยของเธอได้เปลี่ยนแปลงความคิดทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ เริ่มเมื่อ 2529 หลังจากเข้าร่วมประชุมทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งปรากฏความจริงว่า ลิงชิมแปนซีและสัตว์อื่น ๆ ในป่า กำลังเผชิญปัญหารุนแรงของการถูกล่าและขายเป็นอาหาร เธอเปลี่ยนงานวิจัยของเธอไปทางยกระดับความตระหนักถึงสวัสดิภาพของสัตว์ ระหว่างการทำงานนี้ เธอเข้าไปในวงการต่าง ๆ ที่ซึ่งเธอเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับความยากจน ความหิวโหย ผู้ลี้ภัย ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ วิกฤตการณ์ของสิ่งแวดล้อม เป็นต้น เธอค่อย ๆ กลายเป็นนักอนุรักษ์นิยม นักสังคมนิยม เรียกร้องให้ประชาชนคุ้มครองสัตว์และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้ด้านมนุษยธรรมให้แก่เยาวชน เธอได้รับรางวัลของ Gandhi-King Award ด้านไม่นิยมความรุนแรง ไม่เพียงเพื่องานวิจัยของเธอ แต่รวมถึงความขยันขันแข็งในงานทางด้านมนุษยธรรมของเธอ ในเดือนเมษายน 2545 เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ โคฟี้ อานาน ได้แต่งตั้งให้ด็อกเตอร์กูดอลเป็น "ทูตแห่งสันติภาพ" ของสหประชาชาติ

ปลายปี 2548 ด้วยความร่วมมือของแกรี่ แมคอวอย และเกล ฮัดสัน ด็อกเตอร์กูดอล ออกหนังสือด้านอาหารของเธอ "การเก็บเกี่ยวเพื่อความหวัง : แนะแนวการบริโภคที่ใส่ใจ" หนังสือนี้เป็นอีกสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า จิตสัมนึกของมนุษยชาติกำลังยกระดับขึ้น โดยผ่านจากพระกรุณาธิคุณของงานยกระดับของพระเจ้าบนโลกของเรา

ในหนังสือนี้ จากมุมมองในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เธอกระตุ้นให้คนมองอย่างจริงจังถึงอาหารที่พวกเราผลิตและบริโภค เธอแสดงให้เราเห็นว่า ง่ายแค่ไหนที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทางบวกสำหรับอนาคตของเด็กและโลกของเรา เธอกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางบวก เช่น การรับประทานอาหารมังสวิรัติ และนิยมร้านอาหารและตลาด ซึ่งใช้วัตถุดิบที่ดี และปลูกแบบอินทรีย์สารในท้องถิ่น กูดอลพาผู้อ่านจากประวัติศาสตร์การเกษตรยุคแรก ๆ ผ่านมาจนถึงการบริหารที่ผิดของการทำนา จนถึงการตัดแต่งพันธุกรรมของอาหารในปัจจุบัน และความเลวร้ายของอุตสาหกรรมฟาร์มในปัจจุบัน

ผู้อ่านจะพบคำแนะนำในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต พร้อมทั้งทำอย่างไรที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นระบบ เช่น ต้องปรับปรุงสลากติดอาหารอินทรีย์ และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำที่ดีกว่า บางทีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ที่ผู้อ่านจะค้นพบ คือ การบริโภคที่ใส่ใจและถูกต้อง จะนำผลดีอย่างมากต่อตนเองและต่อทั้งโลก

"ประการแรก คือ สิ่งแวดล้อม" ด็อกเตอร์กูดอลอธิบาย “ผืนป่ามหึมาถูกตัดต้นไม้ทิ้ง เพื่อนำพื้นที่ไปเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากคนเจริญ มั่งคั่งขึ้น พวกเขาก็มีความต้องการบริโภคเนื้อมากขึ้น ประการที่สอง อะไรที่พวกเรารับประทานมีผลกระทบต่อสวัสดิภาพของสัตว์ และสาม ผลกระทบของอาหารของเราก็มีต่อสุขภาพของมนุษย์ ท่านเพียงแต่คิดถึงโรคอ้วนเท่านั้น โรคภูมิแพ้ทั้งหลายล้วนเกิดจากอาหารที่มาจากเกษตรเคมี” “การรับประทานเนื้อสัตว์จำนวนมากจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง มันเป็นสิ่งไม่ดีที่จะรับประทานเนื้อสัตว์เป็นจำนวนมาก รวมทั้งถ้าเราซื้อเนื้อจากอุตสาหกรรมฟาร์มสัตว์เหล่านี้ พวกมันมีสารปฏิชีวนะที่ตกค้าง และพวกมันได้รับการฉีดฮอร์โมน และสำหรับฉันรู้ดีว่า พวกมันได้รับการปฏิบัติอย่างไร เนื้อสัตว์หนึ่งชิ้นบนจานเป็นสัญลักษณ์ของความกลัว ความเจ็บปวด และความตาย” เธอยังเชื่อว่า การรับประทานอาหารมังสวิรัติให้กำลังวังชาแก่เธอมากแม้ว่าขณะนี้เธออายุ 71 ปี “ตั้งแต่ 2529 ฉันเดินทาง 300 วันต่อปี ไปบรรยาย ไปประชุม รณรงค์ สอน และอื่น ๆ ไม่เคยอยู่ที่ไหนต่อเนื่องกันมากกว่า 3 สัปดาห์ และโดยปกติประมาณสองสามวัน โดยความสัตย์ ฉันไม่คิดว่า ฉันจะสามารถธำรงการกระทำไว้ได้ เมื่อฉันอายุ 30 ปี และฉันเชื่อว่า การเลิกรับประทานเนื้อสัตว์เป็นสาเหตุว่า ทำไมฉันสามารถทำได้จนถึงวันนี้”

จากหนังสือที่ขายดีอีกเล่มหนึ่ง "เหตุผลสำหรับความหวัง" เธอแบ่งปันความคิดโลกภายในส่วนตัวของเธอต่อสาธารณะชน ตอบคำถามผู้คนเกี่ยวกับว่า พลังของเธอมาจากไหน ทำไมเธอจึงดูสวยตลอดกาล ในหนังสือเล่มนี้ เธอกล่าวถึงประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ขณะที่เธอไปที่โบสถ์แห่งหนึ่ง เธอได้ยินเสียงดนตรีจากภายในซึ่งนำเธอขึ้นไประดับความรู้สึกเคลิบเคลิ้มชั่วนิรันดร์ เธอเชื่อว่าประสบการณ์ภายใน ทางจิตวิญญาณและประสบการณ์เสียงภายในที่สวยงามของเธอเป็นสิ่งเชื่อมเธอกับพลังของพระเจ้า ซึ่งดลใจเธอให้ทำงานเหมือนเป็นผู้ส่งข่าวสารของพระเจ้า ที่กระจายข่าวให้้ทั่วโลกทราบว่า มนุษย์ควรปรับพฤติกรรมที่เหมาะสมของความสัมพันธ์กับอาณาจักร์ของสัตว์ ดังนั้น มันคือความศรัทธาที่เข้มแข็งต่อพระเจ้าของเธอ และใจรักที่บริสุทธิ์ที่มีต่อสรรพสัตว์ที่ช่วยเธอทำงานที่ไม่คำนึงถึงตนเองอย่างไร้เงื่อนไขนี้เพื่อโลก อ่านหนังสือนี้แล้ว เราสามารถพบเงื่อนงำการรู้แจ้งเข้าใจในงานวิจัยของเธอ และในการเดินทางโดยจิตวิญญาณของเธอจำนวนมาก

เจน เป็นตัวอย่างที่วิเศษของคนซึ่งมีความรัก กล้าหาญ ถ่อมตน และอย่างไร้เงื่อนไขที่จะให้บริการแก่โลก ซึ่งเป็นเพราะความศรัทธาที่เข้มแข็งต่อพระเจ้าของเธอ แม้ว่าบางครั้งเธอถูกทำให้ไม่สมหวังโดยความจริงของโลก เธอยังคงพยายามทำดีที่สุด และกระจายความหวังในอนาคตให้โลกรับรู้ ความพยายามของเธอได้สัมฤทธ์ผลและมูลนิธิเจน กูดอล ได้ให้อำนาจคนจำนวนมากทั่วโลกที่ทำความเปลี่ยนแปลงให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งหมด โดยการสร้างระบบที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการรักษาไว้ซึ่งการดำรงชีวิต

เว็บไซต์และข้อมูลอ้างอิง:
http://www.janegoodall.org
หนังสือ "การเก็บกี่ยวเพื่อความหวัง" ผู้เขียน เจน กูดอล, แกรี่ แมคอวอย และเกล ฮัดสัน

หนังสือ "เหตุผลสำหรับความหวัง" ผู้เขียน เจน กูดอล และฟิลลิป เบอร์มาน