ดีวีดีบทกวีใหม่ล่าสุดของอนุตราจารย์ชิงไห่ เป็นการถ่ายทอดธรรมด้วยบทกวี ศาสนาฉานจงในโบราณกาล ก็ใช้วิธีถ่ายทอดธรรมด้วยบทกวีสู่การรู้แจ้งเหมือนกัน ปัจจุบันท่านอาจารย์นอกจากถ่ายทอดธรรมวิถีรู้แจ้งฉับพลันแล้ว ยังได้อาศัยการสร้างศิลปะต่าง ๆ มาชี้แนะใจคนด้วย เพื่อยกระดับจิตสำนึกของชาวโลก อาจกล่าวได้ว่า เป็นอีกวิธีในการถ่ายทอดธรรม เปรียบเทียบกับวิธีการที่ลึกลับซับซ้อนในโบราณแล้ว บทกวีของท่านอาจารย์เข้าใจง่าย ซาบซึ้งใจคน เป็นบทเพลงที่ระทึกใจคน ทั้งมีเสียงเพลงและรูปของท่านอาจารย์ด้วย ทำให้ผู้คนได้รับพรจากมหาอาจารย์ได้ตลอดเวลา เป็นความฝันของผู้บำเพ็ญในสมัยโบราณที่ไม่อาจเป็นความจริงได้ ผู้บำเพ็ญในอดีตช่างลำบากจริง ๆ! พวกเราวันนี้ช่างโชคดี! ความจริงตามความเข้าใจของข้าพเจ้าที่ว่า ถ่ายทอดธรรมก็คือการถ่ายทอดพลังสั่นสะเทือนที่สูงนั่นเอง

หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของวิทยาศาสตร์ยุคศตวรรษที่ 20 นี้ คือ วิชาฟิสิกส์ในปัจจุบัน ได้ทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าจนพบว่า สิ่งต่าง ๆ เมื่อแยกออกจนเป็นชิ้นเล็กที่สุดแล้ว ตัวจริงก็จะไม่มี สิ่งที่ยังมีอยู่เป็นเพียงพลังสั่นสะเทือน แรงสั่นสะเทือนนี้สามารถเป็นสิ่งต่าง ๆ ได้โดยใช้จิตสำนึก การค้นพบครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า คลื่นเสียงเป็นตัวแท้จริงในการสร้างสรรพสิ่งในจักรวาล และยืนยันจิตสำนึกสามารถกระทบคลื่นเสียงได้ มันใกล้เคียงการมองธรรมวิถีกวนอิมของพวกเราแล้ว

วิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันก็ทราบว่า ระบบสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงมีช่วงคลื่นที่ต่างกัน และปัจจุบันมีคนมากมายที่ทดลองเอาคลื่นเสียงที่สร้างขึ้นมากระทบจิตสำนึกของคน แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างคลื่นเสียงที่สูงสุดได้ และไม่รู้จักแดนจิตวิญญาณของคลื่นเสียง นั่นคือ มีเพียงผู้บำเพ็ญที่มีอันดับชั้นสูงเท่านั้นที่จะทำได้ ดังนั้น ความจริงแล้ว การประทับจิตถ่ายทอดธรรมของท่านอาจารย์ และการให้พรที่ไร้รูปและมีรูป ล้วนเป็นการถ่ายพลังสั่นสะเทือนให้กับพวกเราทั้งสิ้น คือ ยกระดับการสั่นสะเทือนของจิตวิญญาณพวกเรานั่นเอง

ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า “"ผู้ที่บำเพ็ญดี ไปที่ไหนก็มีพลังพรติดตามไปด้วย สนามแม่เหล็กและบุญกุศลเต็มไปทั้งตัว สิ่งต่าง ๆ ที่เขาจับต้องแล้ว สถานที่ที่เขาเคยเดินผ่านพลังสั่นสะเทือนจะถูกยกระดับขึ้น ดังนั้น บางครั้งผู้คนชอบเข้าใกล้ผูบำเพ็ญ ให้เขาจับต้อง มองเขาสักครั้ง หรือถวายสิ่งของให้เขา จากนั้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในจะเปลี่ยนแปลงเอง"” (คัดมาจากธรรมสารฉบับที่ 121 ในหัวเรื่องอาจารย์กล่าว) เพื่อนบำเพ็ญกับเพื่อนที่ไม่ได้บำเพ็ญมากมายต่างมีประสบการณ์ด้วยตัวเองกับหนังสือ ดนตรี ภาพถ่าย กับเครื่องเสียงที่ออกจำหน่ายของท่านอาจารย์ กับสิ่งต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์ล้วนเต็มไปด้วยพลังพรทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่า หลังจากที่ท่านอาจารย์ออกจากฌานแล้ว ดีวีดีหมวดบทกวีเหล่านี้ เต็มไปด้วยพลังยกระดับชาวโลก! อาจารย์เป็นผู้ปะซ่อมโลก แก้ความทุกข์ยากของสรรพสัตว์ เป็นการยกระดับพลังรักของโลก!

"ฝันกลางคืน" เป็นตัวอย่างใช้บทกวีถ่ายทอดธรรม ความหมายกับจินตนาการของบทกวีนี้ เปรียบเทียบกับความคิดของคำว่า "ว่าง" ในศาสนาฉานจง ยิ่งเข้าใจได้ง่ายกว่า

"โพธิไม่มีต้นไม้ กระจกไม่ใช่โต๊ะเครื่องแป้ง ความจริงไม่มีอะไรเลย แล้วจะมีฝุ่นได้อย่างไร" บทกวีของสังขปริณายกที่ 6 ของหุยหนิง เป็นความคิดที่สูงสุดของศาสนาฉานจง ความจริงแล้ว คดีความมากมายต่างเอาความหมายของคำว่า "ว่างเปล่า" เป็นศูนย์กลาง คือ "ใจที่ไม่ยึดติดกับสรรพสิ่ง" แต่ว่าจะมีผู้บำเพ็ญสักกี่คนทั้งในประเทศและต่างประเทศตั้งแต่โบราณกาลมา สามารถบรรลุถึงระดับ ไม่มีกิเลส ไม่มีตัวตน

อาจารย์กล่าวว่า "สถานะของสวรรค์อยู่ในความสงบ ไม่มีความอยาก ทุกอย่างจะถูกเติมเต็มด้วยใจสมัครของมันเอง และเราเรียกสถานะนั้นว่านิพพาน" (คัดมาจากธรรมสารฉบับที่ 148 ในหัวเรื่องคติพจน์) ผู้ใดที่ปฏิบัติธรรมวิถีกวนอิมจะสามารถเข้าสู่จินตนาการนี้ได้อย่างแน่นอน ใน "ฝันกลางคืน" ท่านอาจารย์ได้เขียนรูปภาพของจินตนาการณ์ที่เราต้องการจะไป "ฉันเหมือนนกบินอยู่กลางอากาศ …เริงร่าอยู่ท่ามกลางสายรุ้ง …เป็นอิสระเสรี" อ่านบทกวีนี้ ฟังอาจารย์ท่องเอง ทำไมพวกเราจึงซาบซึ้งมาก? ถามใจพวกเราเองก็จะทราบ เพราะอาจารย์กำลังยกระดับพลังสั่นสะเทือนของพวกเรา เพื่อให้พวกเราเข้าสู่จินตนาการนั้น

<<	สารบัญ	>>
ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ