รายงานพิเศษ

งานพบกันครั้งใหญ่แห่งศตวรรษ

ด้วยการนั่งสมาธิเพื่อสันติภาพของโลก

รายงานโดยกลุ่มข่าวทั่วโลก

วันที่ 26 พฤศจิกายน-วันที่ 2 ธันวาคมปีทองที่ 3 (2549) สมาชิกครอบครัวกวนอิมได้มาพบกันครั้งยิ่งใหญ่ ณ โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของประเทศไทย เพื่อนบำเพ็ญ 20,000 กว่าคนที่มาจากสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้เข้าร่วมงานที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มาพบกับท่านอาจารย์ที่เมตตาของพวกเรา

วันที่ 24 พฤศจิกายน เพื่อนบำเพ็ญส่วนใหญ่ที่จะมาถึงก่อน 1 วัน น้ำอมฤตได้ตกลงมาจากฟ้า หลังฝนตกบรรยากาศถูกชำระล้างจนสะอาด เป็นการเตรียมความพร้อมที่ระหว่างศิษย์กับท่านอาจารย์จะมาพบกันในงานฌาน 7 ตลอดระยะเวลาของงาน อากาศสบายอบอุ่น ห้องนั่งสมาธิที่เย็นสบายแต่ละห้อง เป็นสถานที่บำเพ็ญฌานที่ดีทั้งสงบเงียบของเพื่อนบำเพ็ญ

 

 

วันที่ 25 พฤศจิกายน : อาจารย์กับศิษย์ได้มาพบกันต่างแสดงออกถึงความคิดถึงที่จากกันมานาน

 

ในวันรายงานตัว ขณะที่ท่านอาจารย์เดินตรวจสถานที่ ได้พบกับทุกคนเป็นครั้งแรก และได้เดินรอบ ๆ ห้องนั่งสมาธิที่เพื่อนบำเพ็ญนั่งอยู่ ท่านอนุญาตด้วยความเมตตา ให้เพื่อนบำเพ็ญที่อยู่ในห้องนั่งสมาธิเข้าใกล้ตัวท่านได้ เมื่อเพื่อนบำเพ็ญได้เห็นท่านอาจารย์ที่รัก ต่างรู้สึกซาบซึ้งมาก

วันที่ 26 พฤศจิกายน : วันที่โชคช่วงชัชวาล

 

เช้าตรู่ท่านอาจารย์มาที่ห้องนั่งสมาธิไดมอนด์ เพื่อให้พรกับเพื่อนบำเพ็ญที่นั่งสมาธิโต้รุ่ง 6 โมงเช้า ท่านอาจารย์ใส่ชุดสีขาวหิมะ ปรากฎกายในรถพักผ่อนสีขาวทางหน้าต่างรถ ท่านอาจารย์โบกมือทักทายลูกศิษย์ที่อยู่ข้างทาง เสียงปรบมือกับเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ แสดงออกถึงความปรารถนาของเพื่อนบำเพ็ญที่อยากมาพบกับท่านอาจารย์ ขณะนั้น ท่านอาจารย์สำรวจเพื่อนบำเพ็ญที่เดินทางจากทวีปต่าง ๆ เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

เมื่อใกล้เวลาเที่ยง ท่านอาจารย์ใส่ชุดประจำชาติเวียตนามสีเขียวสด มาพบกับเพื่อนบำเพ็ญชาวเอาหลากกับฟอร์โมซา ท่านอาจารย์ตอบคำถามด้วยความเมตตาให้กับเพื่อนบำเพ็ญ พร้อมกล่าวว่า "ขอเพียงให้พวกเรานั่งสมาธิบำเพ็ญ มีปัญญา มีพลังพร ประเทศก็จะมีความสงบสุข ปัญหาต่าง ๆ ก็จะหายไปเอง ทุก ๆ ด้านก็จะเปิดเผยออกมา ปลดปล่อย ไม่ต้องไปทำเรื่องปฏิวัติรัฐประหารอะไร การโจมตีซึ่งกันและกันนั้นสร้างความแค้นกัน มันไม่มีประโยชน์ มันเสียเวลาเปล่า ๆ พวกเราไม่สามารถหนีกฎแห่งกรรมได้ ชีวิตของพวกเราไม่ใช่มีเพียงวันนี้และชาตินี้เท่านั้น มันต้องมีต่อไป ถ้าพวกเราไปฆ่าผู้อื่น สักวันหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามก็จะหวนกลับมาฆ่าพวกเรา ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นในชาติหน้า ก็จะเกิดขึ้นในชาติต่อ ๆ ไป ไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้น ทางที่ดีพวกเราควรจะให้อภัย ยอมรับผู้อื่น ทำเช่นนี้จึงจะสามารถนำความสันติสุขมาสู่ประเทศชาติและมวลมนุษย์ ความแค้นกับความขัดแย้งไม่สามารถนำความสันติสุขมาสู่ประเทศชาติได้ พวกเรายิ่งบำเพ็ญ ประเทศชาติก็จะยิ่งพัฒนา ยิ่งเจริญรุ่งเรือง และจะเปิดเผยปลดปล่อยยิ่งขึ้น"

กลางคืน ท่านอาจารย์ใส่ชุดแพรวพราวเหมือนเพชร มาถึงห้องนั่งสมาธิครอบครัวจักรวาล มาพบกับเพื่อนบำเพ็ญชาวตะวันตก ท่านอาจารย์ได้ตอบคำถามมากมาย พร้อมถ่ายทอดเคล็ดลับ "ยิ้มได้ตลอดเวลา" ให้กับเพื่อนบำเพ็ญ ท่านเสนอให้พวกเรารักษาอารมณ์ที่ดีไว้ ถ้าต้องการสามารถติดภาพใบหน้าที่ยิ้มแย้มรอบห้องเพื่อเตือนตัวเอง ทำเช่นนี้สามารถทำให้สมองหลั่งสารเคมี ที่ทำให้ชีวิตมีความสุขสบาย พยายามอย่าให้อยู่ในอารมณ์ที่ท้อถอยหมดหวัง อารมณ์เช่นนี้สามารถทำให้คนรอบข้างท้อถอยไปด้วย

วันที่ 27 พฤศจิกายน : ทางโรมแรมจัดห้องใหญ่

 

ที่สามารถบรรจุคนได้ 7-8 พันคนมาให้พวกเรา เจ้าหน้าที่ทางศิลปะ เครื่องเสียง กับเจ้าหน้ากลุ่มงานอื่นต่างช่วยกันจัดการตกแต่งห้องนั่งสมาธิรักและศักดิ์สิทธิ์ตลอดทั้งคืน บนเวทีปราศรัยธรรมตกแต่งด้วยตัวจานบินสีทอง เป็นสัญลักษณ์ที่ลึกลับของดวงดาวแห่งจักรวาล ตรงกลางแขวนภาพท่านอาจารย์ที่ใส่ชุดไทย ด้านบนติดตัวหนังสือ "นั่งสมาธิเพื่อความสันติสุขของโลก" เป็นหัวข้อเรื่องในการจัดงานฌานครั้งนี้

เที่ยงวัน ท่านอาจารย์ก้าวผมใส่ชุดสีชมพูที่สูงส่งมาพบเพื่อนบำเพ็ญประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ห้องนั่งสมาธิ ท่านอาจารย์กล่าวว่า "งานฌานได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว อวยพรให้บำเพ็ญก้าวหน้า" งานฌานแห่งศตวรรษที่ยิ่งใหญ่ก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่มโหฬาร เพื่อนบำเพ็ญเข้าสู่ดินแดนของสมาธิ มีความสุขอยู่ในความเมตตากรุณาธิคุณของพระเจ้าและพระโพธิสัตว์!


ค่ายที่จัดขึ้นที่นอกตัวเมือง : การให้พรเป็นพิเศษของท่านอาจารย์

 

เนื่องจากห้องประชุมใหญ่หลายห้องของโรมแรมแอมบาสเดอร์ ซีตี้ฯ ไม่สามารถบรรจุเพื่อนบำเพ็ญไว้ได้ทั้งหมด ท่านอาจารย์อยากได้สถานที่ที่กว้างใหญ่พอให้ทุกคนได้เห็นท่านในเวลาเดียวกัน ดังนั้น จึงได้หาพบสถานที่แห่งหนึ่งสามารถบรรจุคนได้หลายหมื่น เป็นค่ายที่ตั้งอยู่บนที่ราบ วันที่ 27 พฤศจิกายนมีคนจีนจำนวนหนึ่งไปอยู่ที่นั่นก่อน คืนนั้น หลังจากที่ทุกคนเดินทางมาถึงอย่างต่อเนื่อง ท่านอาจารย์เดินไปรอบ ๆ เพื่อทักทายกับเพื่อนบำเพ็ญทุกคน และหยุดยืนให้เพื่อนบำเพ็ญได้เห็นท่านอย่างเต็มที่ เรื่อย ๆ เพื่อนบำเพ็ญที่มาถึงประเทศไทยหลายวัน แต่ยังไม่ได้เห็นท่านอาจารย์ ได้รับความพอใจอย่างเต็มที่ คืนนั้น ท่านอาจารย์อยู่พักค้างคืนกับเพื่อนบำเพ็ญ

เดิมทีท่านอาจารย์อยากให้เพื่อนบำเพ็ญคนอื่น ๆ มีโอกาสมาที่ค่ายพบท่านอาจารย์ด้วยกัน แต่เป็นเพราะทางค่ายเพิ่งจะหาพบ การจัดเตรียมหลายอย่างยังไม่เพียงพอ เพื่อให้ทุกคนมีความสบาย และเพื่อโรมแรมแอมบาสเดอร์ ที่มาเชิญท่านอาจารย์กลับไป ดังนั้น บ่ายวันที่ 28 พฤศจิกายน ท่านอาจารย์ให้ทุกคนกลับไปที่โรงแรมใหม่อีกครั้ง ก่อนจากไปท่านอาจารย์เรียกทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อประกาศให้ทุกคนทราบ ท่านอาจารย์จึงนั่งรถจากไปก่อน ขณะนั้น ท่ามกลางแสงแดดฝนได้ตกลงมาเป็นฝอย ๆ

วันที่ 28 พฤศจิกายน : งานพบปะกันขึ้นสู่บรรยากาศที่คึกคักสูงสุด

 

กลางคืน ท่านอาจารย์ใส่ชุดราตรีสีม่วงเข้มฟินแลนด์ออกมาพบกับเพื่อนบำเพ็ญประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนกับเพื่อนบำเพ็ญต่างชาติ ท่านอาจารย์ขอบคุณผู้บริหารระดับสูงของโรมแรมที่ให้ความเป็นมิตรที่ดี ที่ให้อภัยเพื่อนบำเพ็ญสร้างความวุ่นวายขณะที่เพิ่งจะมาถึง ขณะที่เพื่อนบำเพ็ญชาวอิหร่าน ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา และแสดงความขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างมาก งานในคืนนั้นเข้าสู่บรรยากาศที่คึกคักสูงสุด ต่อจากนั้น การปราศรัยธรรมของท่านอาจารย์ล้วนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของลูกศิษย์กลุ่มนี้เป็นหลัก พวกเขาสามารถมางานฌานได้ แสดงว่าความเชื่อมั่นที่มีต่อพระเจ้าได้สร้างความมหัศจรรย์ มาร่วมงานฌานไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนบำเพ็ญชาว อิหร่านมาก ทั้งยังได้สร้างบุญกุศลให้กับประเทศพวกเขาด้วย จิตวิญญาณที่สูงส่งของพวกเขาจะเข้าใจถึงความสามารถนำพลังพรมาสู่ประเทศขของตัวเอง ท่านอาจารย์บอกให้เพื่อนบำเพ็ญต้องมีความอดทน นั่งสมาธิเงียบ ๆ เรื่องดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นเอง สันติภาพโลกจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้! ท่านอาจารย์รับรองกับเพื่อนบำเพ็ญว่า หลาย ๆ ประเทศเวลานี้ได้เข้าใจแล้วว่า มีแต่ความรักกับความสันติเท่านั้น จึงจะแก้ปัญหาได้ สงครามทั่วโลกก็ได้ลดลงกว่าครึ่งแล้ว สันติภาพของโลกจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!

ท่านอาจารย์กล่าวต่ออีกว่า ผู้นำประเทศทุกระบบงานต่างมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ ท่านอาจารย์บอกว่า ท่านขอบคุณระบบสังคมของชาวอิสลาม เพราะระบบนี้ได้คุ้มครองประชาชน พ้นจากการถูกทำร้ายจากโลกนี้ ประเทศอิสลามมีเรื่องขโมยกับเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศน้อยกว่า ท่านอาจารย์บอกกับเพื่อนบำเพ็ญว่าต้องขอบคุณทางรัฐบาล เพราะอย่างน้อยสตรีของพวกเขาจะปลอดภัยกว่า ท่านอาจารย์เชื่อว่า รัฐบาลอิสลามจะรู้สึกว่า เพื่อนบำเพ็ญอยู่กับท่านอาจารย์ด้วยกันจะมีความปลอดภัย เพราะพวกเราก็ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของคัมภีร์อิสลาม

วันที่ 29 พฤศจิกายน : การนั่งสมาธินำความสันติมาสู่โลก

 

10 โมงเช้า ท่านอาจารย์ปล่อยผมยาวปะบ่า ใส่ชุดเสื้อคลุมสีขาวมาถึงห้องนั่งสมาธิ เพื่อนบำเพ็ญชาวเอาหลากฟังคำปราศรัยธรรมจากท่านอาจารย์อย่างสงบ ท่านอาจารย์ชื่นชมประเทศเอาหลากได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก กับการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเพื่อนบำเพ็ญชาวเอาหลากว่า จะได้ชมรายการโทรทัศน์อนุตราจารย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่ ท่านอาจารย์เน้นว่า ท่านไม่เคยจากพวกเราไปเลย เพื่อนบำเพ็ญต่างอวยพรให้ท่านอาจารย์ปลอดภัยมีสุขภาพดี ท่านอาจารย์สนับสนุนและให้กำลังใจกับเพื่อนบำเพ็ญว่า โลกของพวกเราบำเพ็ญได้ดีกว่าโลกอื่น ๆ ในโลกนี้ พวกเราต้องทนต่ออุปสรรคและความยุ่งยากต่าง ๆ ดังนั้น อันดับชั้นของจิตวิญญาณจึงได้รับการยกระดับขึ้น สำหรับพวกเราแล้ว อุปสรรคซ่อนพลังพรมาให้ด้วย ยิ่งมีอุปสรรคเท่าไร จิตใจของพวกเรายิ่งเข้มแข็งมากขึ้น ยิ่งอยู่ใกล้กับพระเจ้ามากขึ้น เพราะมันเป็นที่พึ่งแห่งเดียวสำหรับพวกเรา

ท่านอาจารย์ผู้มีเมตตาตั้งใจฟังคำถามจากเพื่อนบำเพ็ญ และอธิบายให้เข้าใจได้อย่างเหมาะสมกับกาลเวลา ในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นเป็นสุขระหว่างศิษย์กับอาจารย์ ผู้เข้าร่วมงานจะจดจำห้วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับมหาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีวันลืม! สุดท้ายท่านอาจารย์เชิญชวนทุกคนชมภาพยนตร์งานมอบรางวัลสันติภาพโนเบลจากประเทศฟิลิปปินส์

คืนวันที่ 29 ท่านอาจารย์ใส่ชุดราตรีสีม่วง มีผ้าคลุมไหล่สีม่วงอ่อนมาถึงหน้าเวทีปราศรัยธรรม เพื่อนบำเพ็ญชาวฟอร์โมซาและเพื่อนบำเพ็ญประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปีติที่ได้มาพบกันอีกครั้งหลังจากจากกันมานาน เสียงปรบมือดังไม่ขาดสาย เพื่อนบำเพ็ญน้อยต่างสวัสดีอย่างไร้เดียงสา "สวัสดีท่านอาจารย์!" ท่านอาจารย์ตอบว่า "ฉันรักหนูทั้งหมด!" ท่านอาจารย์ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความเป็นมิตรกับการให้ความคุ้มครอง พวกเรามีจำนวนคนมากอย่างนี้ น้ำก็ไม่พอใช้ พวกเขาก็ให้คนส่งน้ำมาให้ อาจารย์ต้องขอบคุณผู้บริหารระดับสูงของโรงแรม ตัวเองต้องจ่ายเงินเพื่อส่งแขกไปอยู่ที่โรงแรมอื่น เพื่อเอาห้องพักมาให้เพื่อนบำเพ็ญพวกเราอยู่ ท่านอาจารย์กล่าวว่า "พวกเธอช่างมีบุญวาสนาจริง ๆ!"

สุดท้ายท่านอาจารย์มอบตุ๊กตาผ้าที่มีขนปุยให้กับเพื่อนบำเพ็ญน้อยทุกคน แต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน เพื่อนบำเพ็ญรับของขวัญจากมือท่านอาจารย์ ทุกคนดีอกดีใจ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขได้ยินทั่วห้องนั่งสมาธิ

หลังจากนั้น ท่านอาจารย์ได้ออกมาปรากฏตัวอีกครั้ง ด้วยเสื้อผ้าชุดเกาหลีที่มีสีเหลืองสด เพื่อตอบคำถามเพื่อนบำเพ็ญประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เพิ่งจะเดินทางมาถึง ท่านอาจารย์ตั้งใจฟังอย่างอดทน พร้อมตอบคำถามเพื่อนบำเพ็ญ บางครั้งด้วยวาทะศิลป์ที่ยอดเยี่ยม เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างไม่ขาดสาย เพื่อนบำเพ็ญชาวประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนบางคนรายงานว่า พวกเขาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในท้องถิ่น ไปช่วยเหลือคนยากจนบางเขต ท่านอาจารย์ดีใจที่ได้ทราบข่าวดีดังกล่าว ท่านเตือนพวกเราเกี่ยวกับความก้าวหน้าของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมบอกให้เพื่อนบำเพ็ญต้องอดทน ท่านอาจารย์บอกว่า พวกเราทำงานการกุศลอย่างเงียบ ๆ มาตลอด ถ้าหากสามารถทำอย่างเปิดเผย ก็ดีเหมือนกัน ท่านเตือนพวกเราต้องนั่งสมาธิ ทำเช่นนี้สามารถนำสันติภาพ ก้าวหน้ากับการยกระดับจิตวิญญาณมาสู่โลกได้ ท่านอาจารย์ชี้ว่า พลังของพวกเรายิ่งใหญ่มาก พวกเราต้องการอะไร จะเป็นความจริงทั้งหมด ดังนั้น พวกเราต้องสำรวจตัวเองตลอดเวลา เพื่อรักษาความคิดที่เป็นบวก

วันที่ 30 พฤศจิกายน : วันซาบซึ้งพระกรุณาธิคุณที่แท้จริงกับของขวัญจากสวรรค์

 

ตอนบ่าย ท่านอาจารย์ใส่ชุดสมัยจีนคณะชาติที่มีสีเขียว มาพบเพื่อนบำเพ็ญต่างชาติกับเพื่อนบำเพ็ญกลุ่มทำงาน เพื่อนบำเพ็ญชาวสหรัฐอเมริกาคนหนึ่งขอบคุณท่านอาจารย์มาก ทำให้เขาได้มีเทศกาลขอบคุณพระเจ้าที่แท้จริง มาอยู่กับท่านอาจารย์ที่นี่ นั่งสมาธิเงียบ ๆ เพื่อขอบคุณพระเจ้า เทียบกับรับประทานอาหารไก่งวงที่สหรัฐอเมริกา เพื่อให้ไก่งวงนำความขอบคุณไปให้กับพระเจ้าดีกว่ามากที่เดียว ท่านอาจารย์บอกว่า พวกเราใช้วิธีของพวกเรามาอธิษฐาน ในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า สุดท้ายท่านอาจารย์กล่าวว่า หลายวันที่ผ่านมา ทุกคนถูกยกระดับให้สูงขึ้นในระดับหนึ่ง ดังนั้น ท่านเตรียมมอบของขวัญที่มีค่าให้กับพวกเรา คืนวันนั้น ทุกคนต่างได้สัมผัสกับพลังแห่งจิตวิญญาณซึ่งเป็นของขวัญอันล้ำค่า

วันที่ 1 ธันวาคม : รายการแสดงที่หลากหลาย

 

งานราตรีที่ทุกคนรอคอยได้เปิดฉากขึ้น เพื่อนบำเพ็ญจากประเทศต่าง ๆ สวมใส่ชุดประจำชาติมาร่วมงานกัน เหมือนกับงานพบปะสังสรรค์ในแดนสวรรค์ จากเสียงดนตรีที่เต้นไปตามจังหวะ ก้าวพ้นกำแพงที่กั้นเชื้อชาติและสีผิว ดนตรีกับการเต้นรำประจำชาติที่มีจุดเด่นของเชื้อชาติต่าง ๆ จากเทคนิคแสง สี เสียงในยุคปัจจุบัน ภายใต้แสงสีต่าง ๆ ที่หมุนเวียน ปรากฏการแสดงที่ก้าวล่วงกาลเวลา พรมแดน และอยู่เหนือชั้นของความชำนาญ คำชม เสียงปรบมือกับเสียงกรี๊ดดังไม่ขาดสาย

วันที่ 2 ธันวาคม : หน้าที่ที่ไม่น่าจะทำได้ ได้สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์

 

เพื่อนบำเพ็ญนั่งสมาธิต่อไป ตอนบ่ายได้มีประกาศ ท่านอาจารย์จากไปก่อนกำหนด เพราะมีงานสำคัญ ที่สนามบิน ท่านอาจารย์เป็นห่วงเพื่อนบำเพ็ญที่มางานฌาน 20,000 กว่าคน ดังนั้นจึงโทรศัพท์มากล่าวว่า ใจของอาจารย์อยู่กับใจของทุกคน กายเนื้อจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม ภายในเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ ท่านอาจารย์มาพบทุกคนซึ่งเป็นงานที่สำคัญที่สุดได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว นั่นก็คือมอบของขวัญที่ล้ำค่าให้กับทุกคน ท่านอาจารย์ได้เน้นว่า ท่านรักพวกเราตลอดไป พร้อมเตือนทุกคนกลับบ้านต้องหมั่นนั่งสมาธิ เพื่อให้จักรวาลนี้ยกระดับยิ่งขึ้น เพื่อนบำเพ็ญตอบสนองด้วยเสียงปรงมือที่ดังสนั่น ขอบคุณอาจารย์แม่ที่ต้องทำทุกอย่างทั้งเป็นรูปธรรมและไร้รูป จึงจะทำให้การประชุมที่ยิ่งใหญ่นี้จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ ขอบคุณพลังของพระเจ้าที่ดูแลทุกอย่างครบถ้วน เพื่อให้งานที่เป็นไปไม่ได้สำเร็จลุล่วงไป!

คืนนั้น จัดพิธีบริจาคเงินที่เรียบง่ายขึ้นที่ห้องนั่งสมาธิ เพื่อนบำเพ็ญทำตามคำแนะนำท่านอาจารย์ นำเอาเงินที่เหลือจากการจัดฌานจำนวน 20,000 เหรียญสหรัฐ บริจาคให้กับครอบครัวตำรวจที่ยากจนในท้องถิ่น คุณพิทักษ์ ศรีตัง เป็นผู้รับแทน เขาขอบคุณความรักของท่านอาจารย์และเพื่อนบำเพ็ญมาก นักข่าวในพื้นที่ได้มาทำข่าวด้วย เป็นตัวอย่างที่แสดงถึง "ความรักไม่มีพรมแดน" ให้กับงานฌานนานาชาติในครั้งนี้ด้วย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฌานที่เหมือนกับบทกวีในประวัติศาสตร์ก็ใกล้จะจบลงแล้ว ทุกคนต่างรู้สึกสดชื่นร่าเริง เต็มไปด้วยพละกำลัง มีความอิ่มเอิบจากส่วนลึกของใจ ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านเพื่อแบ่งปันความรักของพระเจ้าให้กับพี่น้องแล้ว ทุกคนต่างจดจำห้วงเวลาอันมีค่าที่ได้อยู่ร่วมกับท่านอาจารย์ พร้อมการให้พรไว้ในใจตลอดไป เพื่อให้ตัวเองบำเพ็ญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป และอาศัยบรรยากาศในการนั่งสมาธิและการแบ่งปันความรัก เพื่อให้สันติภาพของโลกมาถึงเร็ว ๆ