บนเส้นทางบำเพ็ญ

 

พระทิเบตในศาสนาพุทธ
นำทางผมมาพบท่านอาจารย์


โดยพี่ประทับจิตชายแม็ทธิว เซอร์ทิส ทัสมาเนีย ออสเตรเลีย (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

ในเดือนเมษายน 2542 ขณะที่ผมกำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยวูลลองกอง ทางชายฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ผมก็ได้พบพี่ประทับจิตหญิงคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะเล็ก ๆ ใกล้กับบ่อเลี้ยงเป็ดของโรงเรียนในวันตลาดนัด บนโต๊ะมีหนังสือของท่านอาจารย์ แผ่นพับซึ่งได้ดึงดูดความสนใจของผมทันที มันเนื่องมาจากคำว่า “รู้แจ้งฉับพลัน” ที่พิมพ์อยู่บนหน้าปก

เนื่องจากพ่อแม่ผมได้นำผมให้นั่งสมาธิเมื่ออายุได้ 2 ขวบ ผมจึงคุ้นเคยกับการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ แต่ในช่วงเวลานั้นผมยังใช้ชีวิตเฮฮาปาร์ตี้ในมหาวิทยาลัยอยู่ แม้ว่าประกายทางจิตวิญญาณจะยังคงเผาไหม้อยู่ภายในตัวผมเสมอ หลังจากได้ถามคำถามบางประการเกี่ยวกับธรรมวิถีกวนอิมจากพี่สาวแล้ว ผมก็ได้ตระหนักว่า การนั่งสมาธิวันละ 2 ชั่วโมงครึ่งจะทำให้ผมเหลือเวลาไม่มากนักที่จะไปเฮฮาปาร์ตี้ได้ แต่กระนั้นก็ดีผมก็ได้หยิบหนังสือตัวอย่างมา เพราะผมยังคงสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างมาก ต่อมาผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้และเห็นพร้อมโดยตลอดทุกอย่างที่ท่านอาจารย์ได้พูดไว้ แต่ก็รู้ว่าผมยังไม่พร้อมสำหรับธรรมวิถีเช่นนั้น อย่างไรก็ดีถ่านทางจิตวิญญาณที่กำลังคุกกรุ่นของผมซึ่งอยู่ภายในกำลังเริ่มต้นที่จะเผาไหม้อย่างแรงกล้ามากขึ้น

ในช่วงปีถัดมาผมได้เริ่มต้นนั่งสมาธิทุกวันโดยใช้ธรรมวิถีอื่น และอ่านหนังสือทางจิตวิญญาณมากมาย และแล้ววันหนึ่งผมก็ได้ไปชายทะเลเพื่ออ่าน The Tibetan Book of Living and Dying โดยโซคยัล รินโปเช ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของประเพณีนิงมาของศาสนาพุทธแบบทิเบตและได้เรียนรู้ว่า การจะรู้แจ้งได้อย่างเต็มที่ต้องมีอาจารย์ผู้ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจาก ผมไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อนจึงประหลาดใจ ขณะที่นั่งอยู่บนหญ้าซึ่งมองไปเห็นชายหาดอันงดงามพร้อมหนังสือในมือผม ผมก็ได้สวดอย่างจริงใจถึงพัดมาซำบาวา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเชื้อสายนิงมา เพื่อนำพาผมไปสู่อาจารย์ผู้สูงสุดและธรรมวิถีที่รวดเร็วที่สุดที่จะไปสู่การรู้แจ้งเต็มที่ เพราะความปรารถนาที่จะได้รู้แจ้งของผมมันแรงกล้าขึ้น เมื่องานสังสรรค์ สิ่งอื่น ๆ ที่ให้ความบันเทิงแก่ผมเริ่มน่าเบื่อหน่าย แม้กระทั่งงานอดิเรกโต้คลื่นที่มีมายาวนานของผมก็หาได้ทำให้ผมสมปรารถนาอีกต่อไปไม่

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้า และความสนใจของผมถูกดึงไปที่แสงเจิดจ้าที่ส่องตรงมาจากลิ้นชักในห้องนอนผม ผมจึงได้เปิดลิ้นชักบนสุดซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือมหาวิทยาลัยของผม และผมได้พบต้นตอของแสงว่ามาจากหนังสือตัวอย่างของท่านอาจารย์ ซึ่งผมได้รับมาเมื่อ 1 หรือ 2 ปีก่อนจากพี่ประทับจิตหญิงและได้ลืมไปแล้ว ต่อมาผมก็จำได้ถึงคำสวดของผมเมื่อวันก่อน ผมได้โทรถึงผู้ประสานงานท้องถิ่นและได้เรียนวิถีสะดวก

หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน อัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งก็ได้เกิดขึ้นประมาณตอนที่ผมได้ทราบว่า ธรรมทูตกวนอิมกำลังจะมาถึงออสเตรเลียเพื่อประทับจิต ผู้ประสานงานได้ติดต่อผมในเรื่องนี้และผมได้ลงทะเบียนประทับจิตเอาไว้ แม้ว่าจะมีความสงสัยและอุปสรรคมากมายในใจผม จากนั้น 2 สัปดาห์ต่อมา ผมก็ได้มีประสบการณ์ถึงความปวดร้าวทางจิตใจอย่างรุนแรง เมื่อผมตกอยู่ในท่ามกลางความอาฆาตอย่างถึงเป็นถึงตายของครอบครัว ผมได้คุกเข่าและสวดอย่างลึก ๆ ถึงท่านอาจารย์ให้ส่งธรรมทูตมาเร็ว ๆ เพราะผมอยากประทับจิตและรู้สึกพร้อมแล้ว หนึ่งนาทีต่อมาโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นเป็นผู้ประสานงานนั่นเอง ที่โทรมาบอกผมถึงสถานที่และเวลาของการประทับจิตของผม

ดังนั้น ผมจึงขอขอบคุณท่านอาจารย์ที่ได้ชี้นำจิตอันซับซ้อนของผมด้วยความเมตตา บนเส้นทางแห่งปัญญาสูงสุดนี้โดยผ่านถ้อยคำอันประเทืองปัญญาของพระชาวทิเบต

 

 

ส่งหน้านี้ต่อให้เพื่อน ๆ