คำถามและคำตอบที่เลือกสรรแล้ว

การมีสุขภาพดีในทุกด้านของชีวิตเป็นการลดความทุกข์ทรมาน

ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่ การประชุมวีดิทัศน์กับผู้ประทับจิตจากศูนย์อินเดียน่า สหรัฐอเมริกา 1 กันยายน 2545 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) วีดิทัศน์ #753

ถ. คำถามของฉันกับความเจ็บป่วยและความเจ็บปวดทางร่างกาย มันเป็นบททดสอบหรือเป็นบทเรียนที่เราจะต้องเผชิญใช่ไหม?

อ. มันเป็นกรรม แต่เราสามารถลดมันให้น้อยลงได้ ข้อแรก บำเพ็ญทางด้านจิตวิญญาณ: ติดต่อกับพลังแห่งการรักษาของเธอทุก ๆ วัน ข้อที่ 2 มีชีวิตที่มีสุขภาพดี ข้อที่ 3 มีความสุขตลอดเวลาและมองทุกเหตุการณ์ในด้านบวก ข้อที่ 4 สวดภาวนาและนั่งสมาธิให้มากขึ้น ๆ ในแต่ละวันเพื่อทำให้ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสภาวะทางจิตวิญญาณของเธอแข็งแกร่ง เธอจะต้องใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดี และอาหารมังสวิรัติก็เป็นอาหารที่ทำให้มีสุขภาพดีที่สุด สิ่งนั้นช่วยได้

 

การเมืองและการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ

ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่
การประชุมวีดิทัศน์กับผู้ประทับจิตจากสิงคโปร์
11 สิงหาคม 2545 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)
วีดิทัศน์ #745

ถ. ทำไมผู้นำของรัฐบาลทั้งหลายและผู้คนที่ประสบความสำเร็จในโลก จึงไม่บำเพ็ญทางจิตวิญญาณ? และทำไมผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ จึงไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพทางการเมือง?

อ. บางทีผู้นำของรัฐบาลอาจจะกำลังบำเพ็ญทางจิตวิญญาณในแบบของพวกเขาเอง แต่ไม่เปิดเผย ไม่ใช่ว่า พวกเขาทั้งหมดทำเรื่องนี้ แน่นอน แต่บางคนก็ทำ เพราะว่า พวกเขาไม่ต้องการเป่าประกาศ ดังนั้นเราจึงไม่รู้ เพราะฉะนั้น ถ้าเธอเห็นประธานาธิบดีที่ดีคนใด รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีที่ดีคนใด เธอก็ควรจะรู้ว่า บางทีในบ้านของพวกเขา ในที่ ๆ เป็นส่วนตัว พวกเขาได้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณบางชนิด

และเกี่ยวกับคำถามข้อที่ 2 ว่าทำไมผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณจึงไม่ประสบความสำเร็จในการเมือง อาจจะเป็นเพราะว่าผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณไม่ค่อยสนใจมากนักเกี่ยวกับความสำเร็จทางด้านการเมืองก็ได้ เธอสนใจหรือเปล่าล่ะ? เธออยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์หรือเปล่า? เธออาจจะลองดูก็ได้นะ? (ถ: ไม่เอา?) เห็นไหมล่ะ เธอพูดว่า “ไม่เอา!” แล้วเธอจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ถ้าเธอไม่ต้องการเป็น? ผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณสามารถที่จะประสบความสำเร็จไม่ว่าในเรื่องใดที่เขาหรือหล่อนทำ เพียงแต่ว่าเวลาส่วนใหญ่ เราไม่ต้องการที่จะรับงานทำมากนัก เรามีความสุขไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน และเราทำไม่ว่าอะไรก็ตามที่ได้ถูกมอบหมายให้กับเรา

ในทำนองเดียวกัน บางทีนักการเมืองบางคนอาจจะอยู่ในตำแหน่งของพวกเขาอยู่แล้ว แต่ก็ยังได้ออกไปและหาวิธีการที่จะบำเพ็ญวิถีชีวิตทางด้านจิตวิญญาณ ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นนักการเมืองต่อไป และบำเพ็ญทางด้านจิตวิญญาณในขณะเดียวกัน และบางครั้งเธอก็ไม่รู้เรื่องนี้

ดังนั้น มันจึงโอเค เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จในการเมือง แต่เราสามารถทำได้ ถ้าเราต้องการ เพียงแต่ว่าหลังจากที่บำเพ็ญทางด้านจิตวิญญาณแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวทางด้านการเมือง การอยู่ในวงการเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย มันมีการแข่งขันสูง และเธอจะต้องลงแรงอย่างมาก เพื่อที่จะให้ได้ตำแหน่งที่เธอต้องการ บางครั้งถ้าคน ๆ หนึ่งเป็นนักการเมืองที่ดี เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้เล่ห์อุบายใด ๆ แต่นักการเมืองที่เลวบางคนต้องใช้เล่ห์กลเพื่อที่จะให้ได้ตำแหน่งที่สูง ดังนั้น ผู้บำเพ็ญส่วนใหญ่จึงไม่ชอบที่จะเข้าไปในสถานที่ชนิดนั้น เพราะว่า พวกเขาพึงพอใจกับการอยู่ภายในตัวตนของพวกเขา และทำอะไรก็ตามที่จำเป็นเพียงเพื่ออยู่รอด และบำเพ็ญทางด้านจิตวิญญาณของพวกเขาต่อไป มันไม่ใช่ว่า พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ จุดสำคัญก็คือพวกเขาไม่ต้องการ

ทำให้ชีวิตของเธอให้เป็นการทำสมาธิ

ปราศรัยโดยอนุตราจารย์ชิงไห่
การประชุมวีดิทัศน์กับผู้ประทับจิตจากแฮมเบิร์ก เยอรมนี
6 ตุลาคม 2545 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ
)

ถ. ท่านอาจารย์ ท่านสามารถบอกฉันได้ไหมว่า ฉันจะต้องนั่งสมาธิมากเท่าไรในแต่ละวัน เพื่อที่อย่างน้อยที่สุดจะได้ถึงสภาพการรู้แจ้งในชาตินี้?

อ. เธอได้รู้แจ้งแล้ว เพียงแต่เธอหมายถึงการรู้แจ้งที่สมบูรณ์เท่านั้นแหละ มันขึ้นอยู่กับความพยายามของเธอเอง แม้ถ้าฉันบอกเธอ พี่ชาย ฉันรู้ว่าเธอกระตือรือร้นที่จะกลายเป็นพุทธะ และนั่นเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่ยิ่งเธอกระตือรือร้นมากเท่าไร เธอก็จะเอาใจจดจ่อกับเป้าหมายอันแท้จริงของเธอได้น้อยลงเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรื่องก็มีอยู่แบบนี้คือ สมมุติว่าฉันบอกเธอว่า “ถ้าเธอนั่งสมาธิวันละ 4 ชั่วโมงหรือแม้กระทั่งวันละ 10 ชั่วโมง แล้วเธอก็จะถึงการรู้แจ้งอย่างสมบูรณ์เมื่ออายุ 60 ปี” มันก็จะไม่กลายเป็นจริงขึ้นมาเหมือนกัน เพราะว่าในระหว่าง 4 ชั่วโมงหรือ 10 ชั่วโมงเธออาจจะนอนไปซักครึ่งหนึ่ง หรือมีใครบางคนมารบกวนเธอ หรือเธอรู้สึกเหนื่อย แล้วเธอก็ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อได้อย่างดีจริง ๆ นัก เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่าเวลามากเท่าไรที่เธอใช้ไปในการทำสมาธิ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีสมาธิจดจ่อมากเท่าไรที่เธอมี

คำถามของเธอเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย แต่ขอให้สนุกสนาน ทำไมจะต้องรีบเร่งล่ะ? ขอให้ใช้ชีวิตของเธอให้สนุกบนหนทางสนุกสนาน บนหนทางที่ไปสู่สวรรค์ สนุกสนานไปกับสิ่งอื่น ๆ มากมาย และอย่าไปคิดถึงอนาคตและอดีต ขอให้คิดถึงปัจจุบัน

ทุก ๆ วันเธอทำงานของเธอได้ดี นั่นก็เป็นการทำสมาธิชนิดหนึ่ง ทุก ๆ วันให้ปฏิบัติต่อผู้คนแบบที่พวกเขาควรจะได้รับการปฏิบัติตอบ แบบที่เธอต้องการที่จะได้รับการปฏิบัติตอบ นั่นคือการทำสมาธิ ทุก ๆ วันให้ช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือและแสดงความรัก และความสงสารของเธอต่อคนที่โศกเศร้า นั่นคือการทำสมาธิ ทุกอย่างนับทั้งนั้น

ทำให้ชีวิตทั้งหมดของเธอเป็นการทำสมาธิ แล้วชีวิตทั้งหมดก็จะเป็นกระบวนการของการรู้แจ้ง มันไม่ใช่เป็นการรู้แจ้ง มันเป็นกระบวนการของมัน มันงดงาม อย่าจากพวกเราไปเร็วนักเลย สมมุติว่า เธอได้รู้แจ้งและกรรมของเธอจบสิ้นลง เธอก็จะตาย แล้วเราก็จะร้องไห้ และคิดถึงเธอมาก แล้วเราควรจะทำอะไรล่ะ? ถ้าหากทุกคนเป็นเหมือนกับเธอ และศูนย์ก็ไม่มีอีกแล้ว แล้วฉันจะกำลังพูดกับใครในตอนนี้ล่ะ? (ท่านอาจารย์หัวเราะ)