คนงดงามและเหตุการณ์งดงาม

 

 

 

 

บิล เกทส์ ♥♥♥♥♥♥
 
อุทิศตนเพื่อรับใช้โลก

 

โดยกลุ่มข่าวฟลอริด้า (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

ในวันที่ 15 มิถุนายน 2549 บิล เกทส์ อายุ 50 ปีชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ประกาศว่า เขาจะลาออกจากงานที่บริษัทไมโครซอฟท์และอุทิศตนให้กับมูลนิธิเกทส์ ซึ่งเป็นกองทุนการกุศลอันบริหารโดยพ่อและภรรยาของเขา การประกาศนี้นับเป็นความประหลาดใจที่สำคัญ เขาได้บอกผู้ฟังที่งุนงงว่า “ด้วยความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ ความรับผิดชอบก็ตามมา.เพื่อช่วยผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด”

นับตั้งแต่เขาได้ก่อตั้งมูลนิธิเมื่อ 10 ปีก่อน เกทส์ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการให้เงิน แทนที่จะเอาชื่อของเขาไปติดไว้ตามท้องที่อย่างเพื่อนมนุษย์ที่ร่ำรวยส่วนมากทำกัน เกทส์ได้ใช้กองทุน 70% ของเขากับความพยายามทั่วโลก เช่น การต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บในแอฟริกา คำขวัญของมูลนิธิคือ “ชี้นำโดยความเชื่อที่ว่า ทุกชีวิตนั้นมีคุณค่าเท่าเทียมกัน มูลนิธิบิลและเมริด้า เกทส์ ทำงานเพื่อลดความไม่เท่าเทียมกันและพัฒนาชีวิตทั่วโลก

เกทส์มักได้รับการวิพากวิจารณ์อยู่บ่อยๆ กับธุรกิจที่แข่งขันของเขา การทำการกุศลของเขาเป็นที่ต้อนรับจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบส์กินได้กล่าวว่า “เพิ่งไม่นานมานี้เองที่คนคิดว่า เราสร้างวัคซีนสำหรับมะเร็งได้ แต่บิลบอกว่า ‘ไม่ ขอให้เราทำมันเถอะ’...เรามีผลอันน่าทึ่ง!”

มูลนิธิเกทส์เป็นมูลนิธิเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเงินที่มีจำนวนมากกว่าความช่วยเหลือจากต่างประเทศของชาติหลายๆ ชาติ เงินบริจาคให้แก่สาธารณสุขอย่างเดียวก็เทียบเท่ากับองค์การอนามัยโลก มูลนิธินี้ได้บริจาคครึ่งหนึ่งของกองทุนโลกให้กับการพัฒนายาใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค อย่างเช่น มาลาเรียและวัณโรค เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิได้จัดสรรเงิน 1,500 ล้านดอลล่าร์ เพื่อให้วัคซีนแก่เด็กๆ

เกทส์ได้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในความสนใจของทั่วโลกที่มีต่อเชื้อโรค และการถอนรากเหง้าแห่งความยากจนในแอฟริกา เพื่อเป็นการรับรู้ในเรื่องนี้ เขาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนางเมื่อปีที่แล้ว โดยพระราชินีอลิซาเบ็ธ และได้รางวัล “โนเบล ไพร์ซ สเปน” (เจ้าชายแห่งรางวัลแอสตูเรียส สำหรับความร่วมมือนานาชาติ) ในเดือนพฤษภาคม 2549 และเขากับภรรยาของเขาได้ชื่อว่าเป็น “บุคคลแห่งปี” สำหรับปี 2548 โดยนิตยสารไทม์

ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับบิล เกทส์

เกทส์ได้ถูกขนานนามในบางครั้งว่า เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก ขณะที่เป็นเด็กนักเรียนมัธยมเขาได้ตั้งบริษัทซึ่งขายระบบข้อมูลการคมนาคมให้กับรัฐบาลของรัฐ ต่อมา ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาก็ได้สร้างซอฟท์แวร์สำหรับฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มี ซึ่งโปรเซสเซอร์ชิพอันแรกได้ออกมา เขาก็ออกจากฮาร์วาร์ดเพื่อตั้งไมโครซอฟท์เมื่ออายุได้ 20 ปี

เขาได้กลายเป็นตำนานที่ไมโครซอฟท์ “พลังในการขับเคลื่อนของสมองของเขา” เขาทำงานกับคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน ส่งอีเมล์วันละ 100 ฉบับ และรับอีเมล์วันละ 4,000,000 ฉบับ เขาถูกขนานนามว่าเป็น “นักส่งโฆษณาทางอีเมล์มาก ที่สุดในโลก” ทุกๆ ปี ในฐานะประธานของไมโครซอฟท์ เขาได้ไปพักผ่อน 1 สัปดาห์ในป่า ซึ่งใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าถึงได้เท่านั้น เพื่ออ่านเอกสารทางเทคนิคนับร้อยๆ แผ่นเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยี

เมื่อเขาจากไมโครซอฟท์ไป เขาทดแทนด้วยผู้บริหาร 3 คน ไม่มีใครเลยที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างกว้างขวางจากระดับโค๊ดของซอฟท์แวร์ไปถึงการเงินของทั่วโลก

เขาได้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในช่วง 12 ปีที่ผ่านมานี้ ณ จุดสุดยอดแห่งความร่ำรวยของเขา (ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นบริจาคเงินจำนวนมหาศาล) เขามีมูลค่าทรัพย์สินกว่าหนึ่งแสนล้านเหรียญ ซึ่งนับเป็นเศรษฐีแสนล้านคนแรกของโลก

เขาอาศัยอยู่ใน “บ้านอัจฉริยะ” ในขณะที่ก่อสร้างบ้าน เขามีความห่วงใยมากเกี่ยวกับการรักษาต้นไม้เก่าแก่ซึ่งอยู่ติดกับถนนเข้าบ้าน ขณะนี้ต้นไม้นี้ได้รับการดูแลโดยศูนย์บัญชาการคอมพิวเตอร์ไมโครซอฟท์ ซึ่งควบคุมการให้น้ำแก่มัน

เขาเป็นมังสวิรัติอยู่ 2-3 ปีในปี2523

 

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ๆ